#####บทที่ 54 วันที่15!
บทที่ 54 วันที่15!
สามวันต่อมา
เฉินตงไม่ฟังที่หมอห้าม รั้นจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ได้
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของโครงการปรับปรุงใหม่ของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง อีกไม่นานก็จะเริ่มเปิดจองแล้ว เขายังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ
อีกอย่าง ถ้ายังอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไม่ไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาลลี่จิงเลย เรื่องที่เขาบาดเจ็บก็จะปิดบังไม่อยู่แล้ว
ถึงจะยังไม่ได้แกะผ้าพันแผลบนตัวออก แต่ถ้าระวังตัวหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อตอนที่กู้ชิงหยิ่งและคุนหลุนพยุงเฉินตงออกจากโรงพยาบาลกลับห้องเช่า
กู้ชิงหยิ่งก็ตกตะลึงสุดขีด
“เฉินตง นายอยู่ห้องแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?”
ในสายตาเธอแล้ว เฉินตงยังไงก็เป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เงินเดือนต่อปีก็เกินหลักล้านแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าจะอยู่ในห้องที่มีแค่สองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นที่แคบเหมือนรังหนูนี้ แถมยังเป็นแบบเช่าอีกต่างหาก!
อย่าว่าแต่เธอเลย ต่อให้เป็นคนอื่นก็ไม่มีใครเชื่อ
“ฉันว่ามันก็ไม่เลวนะ”
เฉินตงหัวเราะเย้ยหยันตัวเอง
ริมฝีปากสีแดงระเรื่อของกู้ชิงหยิ่งอ้ำอึ้งอยู่สักพัก มองเฉินตงที่ยังหน้าซีดอยู่เล็กน้อยก็พลันรู้สึกสงสารขึ้นมา
เธอจู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่า แล้วเงินที่เฉินตงหามาได้ในหลายปีนี้หายไปไหนหมด
“ขอโทษนะ ฉันไม่ควรพูดแบบนี้เลย” กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าลงเหมือนเด็กที่กระทำความผิด
คำพูดเมื่อกี้เธอก็พูดล่วงเกินเกินไปจริงๆ
เฉินตงส่ายหัวและยิ้มพูด “ไม่เป็นไรหรอก ที่สำคัญกว่านั้น เธอยังจำที่ฉันบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ให้เธอได้ไหม?”
ขณะที่พูด เขาก็ขยิบตาใส่กู้ชิงหยิ่งและยิ้มออกมาโดยที่ไม่พูดอะไร
กู้ชิงหยิ่งมองเฉินตงอย่างตกใจ พอเริ่มมีสมมติฐานแล้ว แต่เฉินตงกลับไม่ปริปากพูดอะไรต่อ เลยทำให้เธอต้องล้มเลิกที่จะถามต่อ
ในเมื่อเป็นเซอร์ไพรส์ที่เขาจัดเตรียมเอง ถ้างั้นก็เชื่อฟังรอการมาถึงของเซอร์ไพรส์นั้นแต่โดยดีละกัน
ถ้าตอนนี้ถามมาก ก็จะทำให้เซอร์ไพรส์หมดความหมายน่ะสิ?
กู้ชิงหยิ่งกับคุนหลุนช่วยตั้งสัมภาระแทนเฉินตงเรียบร้อยแล้ว เฉินตงก็ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่อีกครั้งแล้วเปลี่ยนไปใส่เสื้อสูท
ในกระจก เขาก็หน้าซีดเล็กน้อยจริงๆ แต่สภาพจิตใจก็ดีขึ้นกว่าเมื่อกี้แล้ว
“คุนหลุน นายรออยู่ที่บ้านเถอะ ฉันกับเสี่ยวหยิ่งไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาลลี่จิงแล้วก็จะไปบริษัทต่อเลย”
เฉินตงสั่งเสร็จก็พากู้ชิงหยิ่งไปโรงพยาบาลลี่จิง
เฉินตงไม่ได้ใช้เวลาในการเยี่ยมแม่มากนัก
เขากลัวว่าถ้าอยู่กับแม่นานเกินไปจะให้แม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติเอาได้
ตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องทุกเรื่องของเขาก็ไม่เคยรอดพ้นสายตาของแม่ได้เลยสักครั้ง
และในจริงแล้ว ตั้งแต่ที่เขากับกู้ชิงหยิ่งเข้ามาในห้อง หลี่หลานก็เห็นสีหน้าของเขาผิดปกติแล้ว จึงได้ถามออกไป
แต่เฉินตงใช้ข้ออ้างว่าทำงานเหนื่อยเกินไปเลยผ่านไปได้
มั่นใจว่าร่างกายของแม่กำลังค่อยๆดีขึ้น เฉินตงจึงสบายใจและกำชับสองสามเรื่องกับฟ่านลู่เสร็จก็ออกจากโรงพยาบาลกับกู้ชิงหยิ่งเลย และมาที่บริษัทไท่ติ่งต่อคนเดียว
หลังจากที่พนักงานบริษัทเห็นเฉินตงแล้ว สีหน้าก็โล่งใจขึ้นมาเล็กหน่อย
ต้องรู้ว่าไท่ติ่งในตอนนี้เพราะว่าโครงการการปรับปรุงใหม่ของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเลยเกินงบมาเยอะมากแล้ว และแทบจะเดิมพันทุกอย่างไว้กับโครงการนี้แทบทั้งหมด
และเฉินตงในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัท แน่นอนว่าก็เป็นผู้นำของบริษัทและเป็นเสาหลักของพนักงานทุกคนด้วย
ที่เขาหายตัวไปในสามวันนี้ บริษัทก็เท่ากับว่าขาดหัวหน้าไป
ถ้าไม่ใช่เพราะมีพวกผู้บริหารระดับกลางเป็นคนดูแลไว้อยู่และควบคุมความคืบหน้าของโครงการ พนักงานทุกคนในบริษัทก็คงแตกตื่นกันนานแล้ว
เฉินตงเองก็รู้ดีว่าที่ตัวเองจู่ๆก็หายไปในสามวันนี้มีผลกระทบกับบริษัทมากแค่ไหน
พูดสั้นๆสองสามประโยคและปลอบประโลมความรู้สึกของพนักงานทุกคนเสร็จ เขาก็เรียกพวกเสี่ยวหม่าที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่เข้ามาในห้องออฟฟิศ
“ต้องขอโทษด้วยครับ ผมไม่อยู่สามวันนี้ ลำบากพวกคุณแล้ว”
ไม่มีคำพูดที่เป็นพิธีรีตองหรือคำทักทายอะไรที่เกินความจำเป็น เฉินตงลุกขึ้นขอโทษพวกเสี่ยวหม่าก่อนเลย
ดิ้นรนทำงานหนักมาสามปี เพื่อประสิทธิภาพของงาน เขาเคยชินกับการทำงานรวดเร็วและเฉียบขาด ไม่เหมือนกับพวกคนแก่ที่มีประสบการณ์ทำงานเยอะ แต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ที่ชอบแสร้งรับหน้าเอาใจและคล้อยตาม แต่ลับหลังกลับปัดกันไปปัดกันมา
“พี่ตงครับ สามวันนี้พี่ทำให้พวกเราร้อนใจมากเลย ทุกคนเป็นห่วงว่าพี่เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสี่ยวหม่าพูดอย่างเป็นห่วง
เฉินตงยิ้ม รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที
เสี่ยวหม่าคือเขาเป็นคนผลักดันเองมากับมือ ความผูกพันที่เสี่ยวหม่ามีต่อเขา เขาเข้าใจทั้งหมด
ในความจริงแล้ว คนที่เขาส่งให้ไปรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ของโครงการการปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้ สำหรับเขาแล้ว พวกเขาคือคนที่สามารถมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญได้
“ไปจัดการธุระส่วนตัวมานิดหน่อยน่ะ ตอนนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว พวกคุณช่วยรายงานความคืบหน้าของโครงการให้หน่อย”
เฉินตงเปลี่ยนประเด็น เขาไม่อยากให้พนักงานของเขาเป็นห่วงสุขภาพของเขา
โดนคนแทงจนเสียเลือดเยอะจนต้องรีบช่วยชีวิต แต่แค่สามวันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ถ้าพูดออกมาพวกเสี่ยวหม่าคงตื่นตระหนกกว่าเดิม
เสี่ยวหม่าไม่ได้ถามต่อแต่เริ่มรายงานเลย “ความคืบหน้าของแต่ละพื้นที่กำลังคืบหน้าอย่างเป็นข้นเป็นตอน และกำลังดำเนินการขอใบอนุญาตการซื้อขายล่วงหน้า คาดว่ากลางเดือนนี้ก็เริ่มเปิดให้จองได้แล้วครับ”
“กลางเดือนเหรอ?” เฉินตงดีใจขึ้นมาทันที
หลังจากที่เริ่มเปิดให้จองอาคารชุดที่สร้างใหม่นี้แล้ว ก็คือช่วงที่ไท่ติ่งเริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์
หยุดพูดไปพักหนึ่ง ผู้ดูแลอีกคนก็พูดขึ้น
“แต่ว่าพี่ตงครับ อาคารชุดของภาคตะวันตกของเมืองใหญ่ขนาดนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าอย่าเพิ่งเปิดจองทั้งหมดในทีเดียวจะดีกว่านะครับ แบบนี้จะทำให้ราคาบ้านลดลง และยังจะทำให้การตลาดเกิดความโกลาหลอีกด้วยครับ”
เฉินตงพยักหน้าและเริ่มคิดไตร่ตรอง
อย่างที่พูด ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเป็นย่านเก่า ขึ้นชื่อเรื่องความสกปรกและสภาพแวดล้อมแย่ แต่ขนาดพื้นที่กลับไม่น้อยเลย
ครั้งนี้ที่เขาแบ่งแยกโซนออกมา ก็แยกออกมาสิบโซนเต็มๆ
ข่าวที่ สยามยี่เคอ จะมาเข้าตั้งที่นี่ ทำให้ราคาบ้านของย่านสลัมภาคตะวันตกของเมืองขึ้นสูงตามไปด้วย
ถ้าเปิดขายห้องทุกโซนพร้อมกัน จำต้องทำให้จำนวนอสังหาริมทรัพย์ของเมืองนี้พุ่งสูงขึ้นแน่นอน นี่ไม่เพียงแต่ผลลัพธ์การเปิดจองจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ยิ่งเป็นไปได้ว่าจะทำให้ราคาบ้านต่ำลงอีกด้วย
และอีกอย่าง มีอสังหาริมทรัพย์ที่ภาคตะวันตกของเมืองปรากฏขึ้นในตลาดมากเกินไป ต้องทำให้มวลชนแย่งกันซื้อแน่ๆ เพราะในตอนนี้แล้ว บ้านภาคตะวันตกของเมืองเป็นที่แย่งชิงของคนทั่วไปอยู่
เพียงแค่ยี่เคอปักหลักเข้าเรียบร้อย ราคาบ้านก็จะสูงขึ้นอีก
“เอาอย่างนี้ เริ่มเปิดจองตรงอาคารฝั่งตะวันตกสุดก่อน โซนที่เสี่ยวหม่าอยู่กับโซนที่อยู่ใกล้กับโซนหลัก ค่อยๆทยอยเปิดจองต่อจากนั้น” เฉินตงตัดสินใจได้แล้ว “กำหนดเปิดจองวันที่ 15”
“ได้เลยครับ”
พวกเสี่ยวหม่าขานตอบพร้อมกัน ออกจากห้องทำงานด้วยความรู้สึกฮึกเหิมเต็มเปี่ยม
ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่ ไม่สิ ต่อให้เป็นพนักงานบริษัทก็รู้ว่าไท่ติ่งโด่งดังในชั่วข้ามคืนครั้งนี้ ทุกคนก็จะได้รับผลพวงที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
อันที่จริง เมื่อตอนนี้เฉินตงยังเป็นรองประธานอยู่ก็ไม่ใช่คนที่ขี้เหนียวแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“กำหนดเป็นวันที่ 15 แล้วกัน”
เฉินตงลูบคาง ดวงตาฉายประกายระยิบระยับและยิ้มจางๆออกมา
จากนั้น เขาก็หยิบมือถือขึ้นโทรหาคุนหลุน ให้คุนหลุนไปหาบริษัทออกแบบภายในไปลงตรวจสอบวิลล่าเขาเทียนซานจริง แล้วก็ไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมย้ายเข้าไป
หลังวางสาย เฉินตงก็ส่งข้อความให้กู้ชิงหยิ่ง
“เสี่ยวหยิ่ง วันที่15 ฉันจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่โตให้เธอ”
“ดีสิจ๊ะ”
กู้ชิงหยิ่งตอบสั้นๆเรียบๆ
เฉินตงยิ้มออกมา เขารู้ว่าเสี่ยวหยิ่งกลับประเทศก็เพื่อเขา และก็ยิ่งเพื่อเวลาที่เขาตกอยู่ในความยากลำบากจะได้ช่วยดึงเขาขึ้นมาได้
ในเมื่อเขาเป็นแฟนกับกู้ชิงหยิ่งแล้ว
งั้นเขาก็จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับกู้ชิงหยิ่ง
วันที่15 วันนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่วันที่เขาจะยื่นคำตอบอีกอย่างให้กับพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
แต่ยังเป็นวันที่เขาจะให้เซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์กับกู้ชิงหยิ่งอีกด้วย เขาจะให้คนทั้งเมืองรู้ว่ากู้ชิงหยิ่งเป็นแฟนของเขา
และยิ่งต้องทำให้กู้ชิงหยิ่งรู้ว่า การที่เธอเอาทั้งชีวิตของเธอมาเดิมพัน เขาจะไม่มีทางให้เธอแพ้เด็ดขาด!
เฉินตงขยี้จมูกไปพลันกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย “ไม่รู้ว่าวันที่15 วันนั้น เสี่ยวหยิ่งจะมีปฏิกิริยายังไงกับเซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์นี้กันนะ?”