#####บทที่ 56 นายไม่มีความเมตตา ฉันก็จะไร้ความปรานี
บทที่ 56 นายไม่มีความเมตตา ฉันก็จะไร้ความปรานี
“แม่……”
หวางหนันหนันรู้สึกสิ้นหวังแล้ว น้ำตาไหลพรากมองไปทางจางซิ่วจืออย่างสิ้นหวัง
แต่จางซิ่วจือกลับด่าอย่างเอือมระอา “ร้องๆๆ ร้องเป็นอย่างเดียว แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
“หนันหนัน แกก็อย่าไปทำให้แม่แกโกรธแล้ว แม่แกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ” หวางเต๋อทนดูต่อไม่ได้ จึงพูดกับหวางหนันหนันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หลังจากที่หวางหนันหนันออกไป
หวางเต๋อถึงจะถอนหายใจออกมาและต่อว่าจางซิ่วจือ “คุณน่ะ ทำไมเรื่องอะไรก็ไปโทษแต่ลูกสาวล่ะ?”
“คุณโทษฉันเหรอ? งั้นคุณก็ไปหาเงินมาสิ!”
คำพูดของจางซิ่วจือทำให้หวางเต๋อหน้าแดงออกมา
น้ำเสียงหวางเต๋อคลายลงเล็กน้อย “แต่ถ้าเฉินตงไม่มีเงินล่ะ?”
“พ่อ เฉินตงจะไม่มีเงินได้ยังไง? ไม่มีเงินแล้วจะไปรักษาไอ้แม่ผีทะเลของมันได้ยังไง?” หวางเห้าตะคอกออกมา
“แกหุบปากไปเลย ยังเห็นบ้านนี้วุ่นวายไม่พอหรือไง?”
หวางเต๋อจ้องอย่างโกรธเคือง หวางเห้าตกใจจนรีบหยุดตะคอก
หวางเต๋อจึงพูดกับจางซิ่วจือแทน “หลังจากที่หนันหนันแต่งงานกับเฉินตง บัตรเครดิตทั้งหมดก็คือหนันหนันเป็นคนเก็บเอาไว้ ในบ้านมีเงินเท่าไหร่หนันหนันรู้ดีที่สุด เธอไม่น่าจะโดนหลอกนะ”
“ให้ผมพูดนะ เฉินตงมีเงินไปรักษาแม่มันน่าจะเป็นเพราะมันไปยืมเงินบริษัทมันเอง ยังไงก็เป็นถึงรองประธาน แค่ยืมเงินนิดหน่อยไม่น่าจะยากอะไร”
วิเคราะห์อยู่พักหนึ่ง จางซิ่วจือก็เริ่มคลายความโมโหลงเล็กน้อยและขมวดคิ้วครุ่นคิดขึ้นมา
หลายวิผ่านไป จู่ๆจางซิ่วจือก็เงยหน้าขึ้นและพูดออกมาอย่างร้ายกาจ “ฉันไม่สนว่ามันจะมีเงินหรือไม่มี ในเมื่อมันยืมบริษัทมันได้ครั้งหนึ่ง ก็ยืมครั้งที่สองได้ ปีก่อนบ้านเราไม่รังเกียจมัน ให้มันมาเกาะเราได้ แต่มันกลับเนรคุณไปหย่ากับหนันหนัน แค่สองแสนก็คิดจะถีบไสไล่ส่งหนันหนันออกไปงั้นเหรอ?”
“คุณ……”
หวางเต๋อหน้าแดงซ่านขึ้นมาฉับพลัน พูดอะไรไม่ออก
จางซิ่วจือเท้าสะเอวไม่ยอมหยุดพูด “ฉันทำไม? เรื่องนี้คุณต้องฟังฉัน เพื่อเสี่ยวเห้าของพวกเรา ให้หนันหนันไปเอาเงินจากเฉินตงมาอีกกี่แสน แบบนี้ถึงจะยุติธรรมกับหนันหนัน ไอ้ชายหงส์นั่นคิดจะใช้แค่สองแสนไล่หนันหนันออกไป ไม่มีทาง!”
หวางเต๋อถอนหายใจออกมา นั่งลงโซฟา ก้มหน้าไม่เถียงต่อ
แต่เป็นหวางเห้าที่ควงแขนจางซิ่วจืออย่างดีใจ “ขอบคุณครับแม่ แม่ดีกับผมที่สุดเลย”
จางซิ่วจือขยี้ผมหวางเห้าอย่างเอ็นดู “เพราะความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั้งนั้น แกเป็นลูกชายแท้ๆของแม่ แม่จะไม่รักแกได้ยังไงจริงไหม?”
……
เปรี้ยง!
ฟ้าร้องสนั่นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ฝนค่อยๆโปรยปรายลงมา
หวางหนันหนันเดินอยู่บนถนนอย่างสิ้นหวัง ทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน
สายตาพร่ามัวทั้งสองข้าง เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำตาหรือน้ำฝน
เดินได้ไม่ไกลเธอก็เดินต่อไม่ไหวแล้ว นั่งลงบนถนนอย่างอ่อนแรง
แสงสลัวของไฟถนน บนถนนที่วังเวง
ไม่มีใครมาสังเกตเห็น หวางหนันหนันจึงร้องไห้ออกมาอย่างใจสลายราวเช่นพนังกั้นแม่น้ำแตกน้ำไหลพรากออกมา
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหย่ากับเฉินตงแล้ว ตัวเองจะต้องมาใช้ชีวิตที่ตื่นตระหนกวุ่นวายทุกวันอย่างนี้
ความรู้สึกสำนึกเสียใจถาโถมเข้ามา
เธอหยิบมือถือขึ้นมาอยู่หลายครั้ง หวังจะหาคนระบาย แต่ก็ต้องวางลงทุกครั้งอย่างจำใจ
เพราะเธอพลันคิดขึ้นมาได้ว่า แต่งงานสามปีนี้เธอเคยชินกับชีวิตสุขสบายที่เฉินตงให้กับเธอ พอชีวิตเธอเปลี่ยนไปแล้ว นิสัยของเธอจึงยิ่งอยู่ยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้น จนทำให้เพื่อนจากเธอไปกันหมด
ในที่สุด หวางหนันหนันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา น้ำตาคลอเบ้าหาวีแชทของเฉินตง
“เฉินตง ฉันอยากเจอนาย……”
รออยู่ครึ่งชั่วโมงเขาก็ยังไม่ตอบกลับ
หวางหนันหนันรู้สึกโกรธเล็กน้อยจึงดันทุรังส่งวีแชทไปหาอีกครั้ง
“ครั้งก่อนนายบอกจะเจอฉันเอง ทำไมตอนนี้ถึงหลบหน้าไม่เจอฉันล่ะ? ฉันให้นายทุกอย่างเท่าที่ฉันให้ได้ แม้กระทั่งร่างกายฉันก็ให้นายไปแล้ว ตอนนี้แค่อยากเจอนายสักครั้งมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หลังจากที่ส่งไปอีกหนึ่งข้อความแล้ว แต่หวางหนันหนันก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอ จึงรีบพิมพ์ข้อความที่สามต่อ
“นายก็คือหลอกฉัน นายมันผู้ชายเลว! นายเพื่อที่จะไปอยู่กับกู้ชิงหยิ่งนังร่านนั่นเลยตั้งใจหลอกให้ฉันหย่า เฉินตง ถ้าคืนนี้นายไม่มาเจอฉัน นายต้องเสียใจแน่!”
หลังจากที่กดส่งข้อความแล้ว ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับ
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนวีแชททำให้หวางหนันหนันมีสมาธิขึ้นมา
แต่พอเธอเห็นข้อความตอบกลับของเฉินตงแล้วก็พลันรู้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง สัมผัสได้ถึงร่างกายที่เปียกโชกไปทั้งตัวหนาวสะท้านถึงกระดูก
คำตอบของเฉินตงสั้นๆง่ายๆ
“ฉันช่วยไม่ไหวแล้ว!”
หลายวิผ่านไป นัยน์ตาของหวางหนันหนันก็ค่อยๆฉายแววบ้าคลั่งออกมา
เธอกัดฟันแน่นและพูดลอดไรฟันออกมา
“พวกเธอบีบบังคับฉัน พวกเธอทุกคนบีบบังคับฉัน ทุกคนบีบบังคับฉัน! เฉินตง นายกับฉันก็อย่าได้อยู่ดีกันอีกเลย นายไม่เมตตากับฉันก่อน ก็อย่าโทษที่ฉันไร้ความปรานีกับนายแล้วกัน นายราบรื่นที่ไท่ติ่งมากไม่ใช่เหรอ? วันที่15 ฉันจะไปอาละวาดที่งานแถลงข่าวการเปิดจองของบริษัทนาย ฉันจะดูซิว่านายจะยังเป็นรองประธานของบริษัทนายอีกได้ยังไง!”
ในห้องเช่า หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว เฉินตงก็ยิ้มหยันออกมา
เขาไม่ใช่คนนิสัยอืดอาดยืดยาด ในเมื่อหย่ากับหวางหนันหนันแล้วก็ต้องตัดให้ขาดอย่างเด็ดขาด
ไม่อย่างนั้น เขาก็จะผิดต่อความทุ่มเทเสียสละของกู้ชิงหยิ่ง
และอีกอย่าง การเจ็บป่วยของแม่ก็ทำให้เขาเห็นถึงสันดานของคนตระกูลหวางและหวางหนันหนันอย่างชัดเจนแล้ว
การกระทำของพวกเขาน่าเกลียดเกินไป!
สามปีมานี้ เขาอดทนและยอมเพื่อหวางหนันหนันมาตลอด แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นความรุนแรงที่ทวีมากขึ้นของพวกคนตระกูลหวาง
เรื่องบางเรื่องยอมกันได้ แต่เรื่องบางเรื่องก็เป็นขีดจำกัดของเขา สุดที่จะยอมแล้ว!
ส่วนเรื่องการทุ่มเท หวางหนันหนันทุ่มเทเสียสละมาเยอะ แล้วเขาล่ะ?
เฉินตงไม่มีความง่วงแล้ว
ส่วนเรื่องที่หวางหนันหนันมาก่อกวน เขาไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย สถานการณ์ของหวางหนันหนันในตอนนี้เป็นเพราะว่าตัวเธอเองและครอบครัวของเธอ ไม่เกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ที่เขารู้สึก ก็มีแต่ความโกรธเท่านั้น
โกรธที่หวางหนันหนันมารบกวนการนอนของเขา
เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งโทรมาท่านหลง
แต่โทรศัพท์ก็ยังคงปิดเครื่องเหมือนเดิม
นี่ทำให้เฉินตงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นห่วงขึ้นมา
ตั้งแต่ที่ท่านหลงจากไป เขาก็พยายามติดต่อท่านหลงอยู่หลายครั้ง เพราะเขาอยากรู้ให้ได้ว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
แต่ก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ตั้งแต่ที่ท่านหลงจากไป โทรศัพท์ก็อยู่ในโหมดปิดเครื่องตลอด
เขาก็เคยถามคุนหลุนอยู่หลายครั้ง แต่คำตอบที่ได้ก็อ้ำๆอึ้งๆตลอดและปิดปากไม่ยอมพูด
ถอนหายใจออกมาหนึ่งที
เฉินตงวางโทรศัพท์ลง การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่างทำให้เขารู้จักตระกูลขึ้นมาเล็กน้อย
ก็เพราะว่ารู้จักแล้ว เขาถึงได้รู้สึกว่ามันน่ากลัว
ตระกูลที่สามารถควบคุมเศรษฐกิจของโลก มองชีวิตคนเป็นแค่เรื่องขี้ผงจะมีอำนาจมากขนาดไหน?
แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขามั่นใจได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนคนนั้นส่งคุนหลุนมาให้กับเขาล่วงหน้า
ไม่แน่ วันแรกที่เขาได้เจอกับเฉินเทียนหย่างก็คงถูกเฉินเทียนหย่างฆ่าตายแล้ว
หลังจากนั้น……ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว
พอเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว เฉินตงก็เข้าใจคำพูดของท่านหลงที่พูดกับเขาในตอนนั้นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าปีนั้นตกลงเกิดอะไรขึ้นอะไรขึ้นกันแน่ จนทำให้คุณพ่อคนนั้นถึงกับต้องทิ้งลูกทิ้งเมีย
เฉินตงลุกขึ้นไปห้องน้ำ เอามือรองน้ำเย็นล้างหน้า
ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ก็พลันหายไปทั้งหมด
เขาเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา ค่อยๆย่องออกจากห้องเช่าไปฝึกที่สวนสาธารณะข้างหมู่บ้าน
ก่อนที่จะได้รู้เรื่องราวทั้งหมด สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมา
ไม่เพียงแค่ด้านธุรกิจและอำนาจเงินทอง แม้แต่ร่างกายก็ห้ามละเลย
และในเวลาเดียวกันที่เฉินตงออกจากห้องเช่า
ห้องรับแขกที่คุนหลุนนอนอยู่ก็แง้มออกเล็กน้อย
มองประตูที่เพิ่งปิดลงเมื่อกี้ คุนหลุนก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นชม “คุณชายเหมือนนายท่านจริงๆ”
พูดจบ รอยยิ้มบนหน้าของเขาก็ค่อยๆหายไป ก้มลงมองดูโทรศัพท์ที่กำแน่นอยู่นี้ก็พลันรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาเล็กน้อย
ช่วงนี้ไม่ได้มีแค่เฉินตงที่โทรหาท่านหลง
เขาเองก็โทรด้วย และยังโทรหานายท่านด้วย
แต่ไม่ว่าจะเป็นนายท่านหรือท่านหลง โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องกันทั้งคู่
มันทำให้คุนหลุนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ที่บ้าน……น่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!