Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 56 นายไม่มีความเมตตา ฉันก็จะไร้ความปรานี

#####บทที่ 56 นายไม่มีความเมตตา ฉันก็จะไร้ความปรานี

บทที่ 56 นายไม่มีความเมตตา ฉันก็จะไร้ความปรานี

“แม่……”

หวางหนันหนันรู้สึกสิ้นหวังแล้ว น้ำตาไหลพรากมองไปทางจางซิ่วจืออย่างสิ้นหวัง

แต่จางซิ่วจือกลับด่าอย่างเอือมระอา “ร้องๆๆ ร้องเป็นอย่างเดียว แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

“หนันหนัน แกก็อย่าไปทำให้แม่แกโกรธแล้ว แม่แกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ” หวางเต๋อทนดูต่อไม่ได้ จึงพูดกับหวางหนันหนันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

หลังจากที่หวางหนันหนันออกไป

หวางเต๋อถึงจะถอนหายใจออกมาและต่อว่าจางซิ่วจือ “คุณน่ะ ทำไมเรื่องอะไรก็ไปโทษแต่ลูกสาวล่ะ?”

“คุณโทษฉันเหรอ? งั้นคุณก็ไปหาเงินมาสิ!”

คำพูดของจางซิ่วจือทำให้หวางเต๋อหน้าแดงออกมา

น้ำเสียงหวางเต๋อคลายลงเล็กน้อย “แต่ถ้าเฉินตงไม่มีเงินล่ะ?”

“พ่อ เฉินตงจะไม่มีเงินได้ยังไง? ไม่มีเงินแล้วจะไปรักษาไอ้แม่ผีทะเลของมันได้ยังไง?” หวางเห้าตะคอกออกมา

“แกหุบปากไปเลย ยังเห็นบ้านนี้วุ่นวายไม่พอหรือไง?”

หวางเต๋อจ้องอย่างโกรธเคือง หวางเห้าตกใจจนรีบหยุดตะคอก

หวางเต๋อจึงพูดกับจางซิ่วจือแทน “หลังจากที่หนันหนันแต่งงานกับเฉินตง บัตรเครดิตทั้งหมดก็คือหนันหนันเป็นคนเก็บเอาไว้ ในบ้านมีเงินเท่าไหร่หนันหนันรู้ดีที่สุด เธอไม่น่าจะโดนหลอกนะ”

“ให้ผมพูดนะ เฉินตงมีเงินไปรักษาแม่มันน่าจะเป็นเพราะมันไปยืมเงินบริษัทมันเอง ยังไงก็เป็นถึงรองประธาน แค่ยืมเงินนิดหน่อยไม่น่าจะยากอะไร”

วิเคราะห์อยู่พักหนึ่ง จางซิ่วจือก็เริ่มคลายความโมโหลงเล็กน้อยและขมวดคิ้วครุ่นคิดขึ้นมา

หลายวิผ่านไป จู่ๆจางซิ่วจือก็เงยหน้าขึ้นและพูดออกมาอย่างร้ายกาจ “ฉันไม่สนว่ามันจะมีเงินหรือไม่มี ในเมื่อมันยืมบริษัทมันได้ครั้งหนึ่ง ก็ยืมครั้งที่สองได้ ปีก่อนบ้านเราไม่รังเกียจมัน ให้มันมาเกาะเราได้ แต่มันกลับเนรคุณไปหย่ากับหนันหนัน แค่สองแสนก็คิดจะถีบไสไล่ส่งหนันหนันออกไปงั้นเหรอ?”

“คุณ……”

หวางเต๋อหน้าแดงซ่านขึ้นมาฉับพลัน พูดอะไรไม่ออก

จางซิ่วจือเท้าสะเอวไม่ยอมหยุดพูด “ฉันทำไม? เรื่องนี้คุณต้องฟังฉัน เพื่อเสี่ยวเห้าของพวกเรา ให้หนันหนันไปเอาเงินจากเฉินตงมาอีกกี่แสน แบบนี้ถึงจะยุติธรรมกับหนันหนัน ไอ้ชายหงส์นั่นคิดจะใช้แค่สองแสนไล่หนันหนันออกไป ไม่มีทาง!”

หวางเต๋อถอนหายใจออกมา นั่งลงโซฟา ก้มหน้าไม่เถียงต่อ

แต่เป็นหวางเห้าที่ควงแขนจางซิ่วจืออย่างดีใจ “ขอบคุณครับแม่ แม่ดีกับผมที่สุดเลย”

จางซิ่วจือขยี้ผมหวางเห้าอย่างเอ็นดู “เพราะความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั้งนั้น แกเป็นลูกชายแท้ๆของแม่ แม่จะไม่รักแกได้ยังไงจริงไหม?”

……

เปรี้ยง!

ฟ้าร้องสนั่นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ฝนค่อยๆโปรยปรายลงมา

หวางหนันหนันเดินอยู่บนถนนอย่างสิ้นหวัง ทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน

สายตาพร่ามัวทั้งสองข้าง เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำตาหรือน้ำฝน

เดินได้ไม่ไกลเธอก็เดินต่อไม่ไหวแล้ว นั่งลงบนถนนอย่างอ่อนแรง

แสงสลัวของไฟถนน บนถนนที่วังเวง

ไม่มีใครมาสังเกตเห็น หวางหนันหนันจึงร้องไห้ออกมาอย่างใจสลายราวเช่นพนังกั้นแม่น้ำแตกน้ำไหลพรากออกมา

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหย่ากับเฉินตงแล้ว ตัวเองจะต้องมาใช้ชีวิตที่ตื่นตระหนกวุ่นวายทุกวันอย่างนี้

ความรู้สึกสำนึกเสียใจถาโถมเข้ามา

เธอหยิบมือถือขึ้นมาอยู่หลายครั้ง หวังจะหาคนระบาย แต่ก็ต้องวางลงทุกครั้งอย่างจำใจ

เพราะเธอพลันคิดขึ้นมาได้ว่า แต่งงานสามปีนี้เธอเคยชินกับชีวิตสุขสบายที่เฉินตงให้กับเธอ พอชีวิตเธอเปลี่ยนไปแล้ว นิสัยของเธอจึงยิ่งอยู่ยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้น จนทำให้เพื่อนจากเธอไปกันหมด

ในที่สุด หวางหนันหนันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา น้ำตาคลอเบ้าหาวีแชทของเฉินตง

“เฉินตง ฉันอยากเจอนาย……”

รออยู่ครึ่งชั่วโมงเขาก็ยังไม่ตอบกลับ

หวางหนันหนันรู้สึกโกรธเล็กน้อยจึงดันทุรังส่งวีแชทไปหาอีกครั้ง

“ครั้งก่อนนายบอกจะเจอฉันเอง ทำไมตอนนี้ถึงหลบหน้าไม่เจอฉันล่ะ? ฉันให้นายทุกอย่างเท่าที่ฉันให้ได้ แม้กระทั่งร่างกายฉันก็ให้นายไปแล้ว ตอนนี้แค่อยากเจอนายสักครั้งมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หลังจากที่ส่งไปอีกหนึ่งข้อความแล้ว แต่หวางหนันหนันก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอ จึงรีบพิมพ์ข้อความที่สามต่อ

“นายก็คือหลอกฉัน นายมันผู้ชายเลว! นายเพื่อที่จะไปอยู่กับกู้ชิงหยิ่งนังร่านนั่นเลยตั้งใจหลอกให้ฉันหย่า เฉินตง ถ้าคืนนี้นายไม่มาเจอฉัน นายต้องเสียใจแน่!”

หลังจากที่กดส่งข้อความแล้ว ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับ

ติ้ง!

เสียงแจ้งเตือนวีแชททำให้หวางหนันหนันมีสมาธิขึ้นมา

แต่พอเธอเห็นข้อความตอบกลับของเฉินตงแล้วก็พลันรู้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง สัมผัสได้ถึงร่างกายที่เปียกโชกไปทั้งตัวหนาวสะท้านถึงกระดูก

คำตอบของเฉินตงสั้นๆง่ายๆ

“ฉันช่วยไม่ไหวแล้ว!”

หลายวิผ่านไป นัยน์ตาของหวางหนันหนันก็ค่อยๆฉายแววบ้าคลั่งออกมา

เธอกัดฟันแน่นและพูดลอดไรฟันออกมา

“พวกเธอบีบบังคับฉัน พวกเธอทุกคนบีบบังคับฉัน ทุกคนบีบบังคับฉัน! เฉินตง นายกับฉันก็อย่าได้อยู่ดีกันอีกเลย นายไม่เมตตากับฉันก่อน ก็อย่าโทษที่ฉันไร้ความปรานีกับนายแล้วกัน นายราบรื่นที่ไท่ติ่งมากไม่ใช่เหรอ? วันที่15 ฉันจะไปอาละวาดที่งานแถลงข่าวการเปิดจองของบริษัทนาย ฉันจะดูซิว่านายจะยังเป็นรองประธานของบริษัทนายอีกได้ยังไง!”

ในห้องเช่า หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว เฉินตงก็ยิ้มหยันออกมา

เขาไม่ใช่คนนิสัยอืดอาดยืดยาด ในเมื่อหย่ากับหวางหนันหนันแล้วก็ต้องตัดให้ขาดอย่างเด็ดขาด

ไม่อย่างนั้น เขาก็จะผิดต่อความทุ่มเทเสียสละของกู้ชิงหยิ่ง

และอีกอย่าง การเจ็บป่วยของแม่ก็ทำให้เขาเห็นถึงสันดานของคนตระกูลหวางและหวางหนันหนันอย่างชัดเจนแล้ว

การกระทำของพวกเขาน่าเกลียดเกินไป!

สามปีมานี้ เขาอดทนและยอมเพื่อหวางหนันหนันมาตลอด แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นความรุนแรงที่ทวีมากขึ้นของพวกคนตระกูลหวาง

เรื่องบางเรื่องยอมกันได้ แต่เรื่องบางเรื่องก็เป็นขีดจำกัดของเขา สุดที่จะยอมแล้ว!

ส่วนเรื่องการทุ่มเท หวางหนันหนันทุ่มเทเสียสละมาเยอะ แล้วเขาล่ะ?

เฉินตงไม่มีความง่วงแล้ว

ส่วนเรื่องที่หวางหนันหนันมาก่อกวน เขาไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย สถานการณ์ของหวางหนันหนันในตอนนี้เป็นเพราะว่าตัวเธอเองและครอบครัวของเธอ ไม่เกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

ที่เขารู้สึก ก็มีแต่ความโกรธเท่านั้น

โกรธที่หวางหนันหนันมารบกวนการนอนของเขา

เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งโทรมาท่านหลง

แต่โทรศัพท์ก็ยังคงปิดเครื่องเหมือนเดิม

นี่ทำให้เฉินตงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นห่วงขึ้นมา

ตั้งแต่ที่ท่านหลงจากไป เขาก็พยายามติดต่อท่านหลงอยู่หลายครั้ง เพราะเขาอยากรู้ให้ได้ว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

แต่ก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ตั้งแต่ที่ท่านหลงจากไป โทรศัพท์ก็อยู่ในโหมดปิดเครื่องตลอด

เขาก็เคยถามคุนหลุนอยู่หลายครั้ง แต่คำตอบที่ได้ก็อ้ำๆอึ้งๆตลอดและปิดปากไม่ยอมพูด

ถอนหายใจออกมาหนึ่งที

เฉินตงวางโทรศัพท์ลง การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่างทำให้เขารู้จักตระกูลขึ้นมาเล็กน้อย

ก็เพราะว่ารู้จักแล้ว เขาถึงได้รู้สึกว่ามันน่ากลัว

ตระกูลที่สามารถควบคุมเศรษฐกิจของโลก มองชีวิตคนเป็นแค่เรื่องขี้ผงจะมีอำนาจมากขนาดไหน?

แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขามั่นใจได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนคนนั้นส่งคุนหลุนมาให้กับเขาล่วงหน้า

ไม่แน่ วันแรกที่เขาได้เจอกับเฉินเทียนหย่างก็คงถูกเฉินเทียนหย่างฆ่าตายแล้ว

หลังจากนั้น……ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว

พอเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว เฉินตงก็เข้าใจคำพูดของท่านหลงที่พูดกับเขาในตอนนั้นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าปีนั้นตกลงเกิดอะไรขึ้นอะไรขึ้นกันแน่ จนทำให้คุณพ่อคนนั้นถึงกับต้องทิ้งลูกทิ้งเมีย

เฉินตงลุกขึ้นไปห้องน้ำ เอามือรองน้ำเย็นล้างหน้า

ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ก็พลันหายไปทั้งหมด

เขาเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา ค่อยๆย่องออกจากห้องเช่าไปฝึกที่สวนสาธารณะข้างหมู่บ้าน

ก่อนที่จะได้รู้เรื่องราวทั้งหมด สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมา

ไม่เพียงแค่ด้านธุรกิจและอำนาจเงินทอง แม้แต่ร่างกายก็ห้ามละเลย

และในเวลาเดียวกันที่เฉินตงออกจากห้องเช่า

ห้องรับแขกที่คุนหลุนนอนอยู่ก็แง้มออกเล็กน้อย

มองประตูที่เพิ่งปิดลงเมื่อกี้ คุนหลุนก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นชม “คุณชายเหมือนนายท่านจริงๆ”

พูดจบ รอยยิ้มบนหน้าของเขาก็ค่อยๆหายไป ก้มลงมองดูโทรศัพท์ที่กำแน่นอยู่นี้ก็พลันรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาเล็กน้อย

ช่วงนี้ไม่ได้มีแค่เฉินตงที่โทรหาท่านหลง

เขาเองก็โทรด้วย และยังโทรหานายท่านด้วย

แต่ไม่ว่าจะเป็นนายท่านหรือท่านหลง โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องกันทั้งคู่

มันทำให้คุนหลุนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

ที่บ้าน……น่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset