Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 59 ดอกไม้ทั่วท้องฟ้า ไม่ทอดทิ้งไม่แยกจาก

บทที่ 59 ดอกไม้ทั่วท้องฟ้า ไม่ทอดทิ้งไม่แยกจาก

ในชั่วพริบตานั่นเอง

กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในฝูงชนถูกผู้คนจ้องมองมาและถูกแสงแฟลชล้อมรอบ

กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าลง ใบหน้าสวยเริ่มแดงขึ้นมาด้วยความเขินอาย

ต่อให้เธอตั้งแต่เด็กจนโตเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาเยอะแล้ว แต่หัวใจก็ยังคงเต้นแรงอยู่ดี เหมือนกับจะทะลุออกมาจากอก

เพราะว่าสถานการณ์ที่เธอเคยผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต คืออาศัยจากเกียรติภูมิของพ่อ

แต่ครั้งนี้กลับเป็นเฉินตง แฟนของเธอให้กับเธอ

“ว้าว……เธอสวยจังเลย”

เมื่อเห็นหน้าตาของกู้ชิงหยิ่ง ฝูงชนที่แยกทางให้อัตโนมัติก็ร้องชมออกมาด้วยความตะลึงอย่างไม่หยุดหย่อน

“มิน่าล่ะ ถ้าฉันมีแฟนที่สวยขนาดนี้ ฉันก็ยอมรอ!”

“ประธานเฉินเก่งจริงๆ อายุน้อยก็ประสบความสำเร็จขนาดนี้แล้ว ยังมีแฟนที่สวยขนาดนี้อีก ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วล่ะ!”

……

นี่ทำให้กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าต่ำลงกว่าเดิม มือเรียวเล็กอดไม่ได้ที่จะกำชายกระโปรงแน่นด้วยความตื่นเต้นและเดินเร็วกว่าเดิม

ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยมีช่วงเวลาที่ตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนจริงๆ

เมื่อเธอเดินมาถึงข้างเวที มือใหญ่มือหนึ่งก็ยื่นมาข้างหน้า

กู้ชิงหยิ่งชะงักและหยุดฝีเท้าลง

“ตื่นเต้นเหรอ?”

เสียงอ่อนโยนที่คุ้นเคยดังขึ้น

ใบหน้าสวยแดงก่ำของกู้ชิงหยิ่งเงยขึ้นมองเฉินตง เม้มริมฝีปากแน่นพร้อมพยักหน้า

จากนั้น เธอก็ยื่นมือออกไปวางบนฝ่ามือของเฉินตง

ถูกมือใหญ่ของเฉินตงจับไว้ หัวใจที่เต้นแรงของกู้ชิงหยิ่งก็ผ่อนคลายลงทันที ความรู้สึกตื่นเต้นก็สงบขึ้นมาไม่น้อย

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกแต่ดีมาก ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ผู้คนจ้องมองมา แสงสว่างล้อมรอบตัว

เฉินตงในชุดสูทและกู้ชิงหยิ่งในกระโปรงขาวดุจดั่งนางฟ้า กำลังเดินไปตรงกลางของเวทีอย่างช้าๆ

“นายทำแบบนี้ไม่กลัวเจ้านายของนายจะด่านายเอาเหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งมองซ้ายมองขวาและถามออกมาเสียงเบาๆ

เฉินตงหัวเราะ “ฉันจะด่าตัวเองได้ยังไงกัน?”

ร่างเล็กของกู้ชิงหยิ่งพลันสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมมองไปที่เฉินตงอย่างตกใจ

ยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมาจากคำพูดของเขา

เฉินตงก็ยกไมโครโฟนขึ้นและพูดประกาศออกมาด้วยรอยยิ้ม “แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักนะครับ คนนี้คือกู้ชิงหยิ่ง เป็นแฟนของผมครับ”

ชั่วพริบตานั้นเอง

เสียงปรบมือที่คล้ายกับเสียงฟ้าร้องก็ดังสนั่นขึ้น

ก่อนหน้านี้ทุกคนยังสงสัยอยู่ว่าเฉินตงเสียมารยาทขนาดนี้คือเพื่อรอใครกันแน่

แต่พอเห็นกู้ชิงหยิ่งและการแนะนำของเฉินตงแล้ว ความไม่พอใจที่ยังเหลืออยู่นั้นก็หายไปหมดเกลี้ยง

ผู้ชายหล่อผู้หญิงสวย กิ่งทองใบหยก

ผู้ชายขยันทำงาน ก็เพื่อเมื่อตอนที่มีเกียรติคุณแล้ว สามารถแบ่งปันกับผู้หญิงที่ตัวเองรักและเป็นประจักษ์พยานด้วยกันมิใช่เหรอ?

และที่สำคัญ หน้าตาของกู้ชิงหยิ่งสามารถทำให้ทุกคนในงานยอมรับได้

ใครที่มีแฟนแบบนี้ก็คงเลือกทำแบบเฉินตงเหมือนกัน

“ประธานเฉิน คุณไม่ใจกว้างแล้วนะครับแบบนี้ แฟนสวยขนาดนี้ เราเคยเจอกันก็หลายครั้ง แต่แอบซ่อนไว้เพิ่งพามาให้รู้จักวันนี้เนี่ยนะครับ?” บนเวที หัวหน้าแผนกคนหนึ่งพูดล้อออกมา

เฉินตงยิ้มตอบกลับ “ท่านเจิ้ง ผมไม่ใช่เพราะว่าอยากอวดความรักในโอกาสสำคัญในวันนี้หรอกหรือครับ?”

ประโยคนี้ทำให้ทุกคนบนเวทียิ้มออกมากันหมด

กู้ชิงหยิ่งมองท่านเจิ้งคนนั้นอย่างตกตะลึง เธอเพิ่งกลับประเทศได้ไม่นาน จึงรู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองนี้น้อยมาก

แต่เธอก็รู้ว่าท่านเจิ้งคนนั้นเป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีน้ำหนักมากคนหนึ่งของเมืองนี้!

สามารถพูดคุยหัวเราะเฮฮากันอย่างสนุกสนานกับท่านเจิ้งได้ ในเมืองนี้ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น!

เธอมองไปที่เฉินตงโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากสีแดงอ้ำอึ้ง

ไม่รอให้กู้ชิงหยิ่งได้เปิดปากพูด เฉินตงก็หันหลังไปให้สัญญาณกับพิธีกรเสียก่อน “เริ่มได้แล้วครับ”

“โอเคครับ! จากนี้ขอเรียนเชิญประธานเฉินของบริษัทไท่ติ่งและหัวหน้าทุกท่านตัดริบบิ้นให้กับหลงถิงฮัวหยวนของพวกเราได้ครับ!”

เสียงพูดของพิธีกรที่ผ่านไมโครโฟน ทำให้กู้ชิงหยิ่งต้องหยุดถามความสงสัยนั้นออกมาก่อน

แต่คำพูดของพิธีกรได้พิสูจน์ยืนยันคำพูดของเฉินตงที่พูดกับกู้ชิงหยิ่งในเมื่อกี้แล้ว

ใบหน้าสวยของกู้ชิงหยิ่งเต็มไปด้วยความตกตะลึง ถึงขนาดที่ว่าหลังจากที่ตกใจสุดขีดแล้วก็งงอึ้งไปเลย

เธอรู้สึกยากที่จะเชื่อ

คนที่เธอกลับประเทศมาเพื่อที่จะช่วย แต่ดันแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างเงียบๆถึงขนาดนี้!

นี่เป็นเซอร์ไพรส์ที่เฉินตงจะให้เธอเหรอ?

พนักงานหญิงดึงริบบิ้นสีแดงขึ้นต่อหน้าผู้คนอย่างรวดเร็ว

เฉินตงพากู้ชิงหยิ่งที่ยังตื่นตะลึงอยู่ไปที่ด้านหลังริบบิ้น หลังจากนั้นก็หยิบกรรไกรขึ้นส่งไปที่มือของกู้ชิงหยิ่งแล้วโอบเธอไว้จากข้างหลัง

ณ เวลานี้ สายตาทุกคู่และแสงแฟลชก็โฟกัสที่บนเวทีกันหมด

หรือควรจะบอกว่า โฟกัสไปที่พวกเขาสองคน

กู้ชิงหยิ่งสมองว่างเปล่าไปหมด ถูกเฉินตงโอบไว้ มุมปากของเธอพลันเผยรอยยิ้มอ่อนหวานออกมาอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าถูกความสุขและความหวานโอบล้อมเอาไว้

ถึงขนาดที่ว่าเธอยังไม่ได้สติกลับมา พิธีตัดริบบิ้นก็จบลงแล้ว

ปัง!

เสียงสลุตดังขึ้นสนั่น ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

จากนั้น

ปังๆๆ……

กู้ชิงหยิ่งที่ตกใจจนตั้งตัวไม่ทัน รีบมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินตง

เพราะเสียงสลุต72นัดที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายขวาของสำนักงานขายดังขึ้นพร้อมกัน

เสียงอานุภาพเกรียงไกร ดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าร้อง

“เงยหน้ามองท้องฟ้าสิ”

เสียงของเฉินตงดังขึ้นข้างหูของกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งเหมือนกับลูกแมวที่กำลังตกใจ ยื่นหัวออกมาจากอ้อมกอดของเฉินตงเล็กน้อยและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทันทีที่เสียงสลุตดังขึ้น กลีบดอกไม้หลายกลีบก็ถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและก็กำลังโปรยปรายอยู่เต็มท้องฟ้าในตอนนี้

กลีบดอกไม้หลากสี หลากหลายสีสัน หลากหลายรูปร่าง ขณะที่กำลังลอยลงมาอยู่นั้น ก็ถูกแสดงแดดส่องกระทบเข้า สว่างพร่างพรายและโรแมนติก

กู้ชิงหยิ่งมองกลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

ช่วงเวลานี้ เธอลืมสถานะของตัวเอง ลืมพื้นหลังของตัวเอง ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาเหมือนกับเด็กผู้หญิง

ยกมือขึ้นไปรับดอกไม้หนึ่งกลีบ กู้ชิงหยิ่งพูดเสียงงึมงำ “กุหลาบ?”

“ฉันรู้ว่าเธอชอบกุหลาบเลยให้คนไปหากุหลาบทุกสีมา”

เฉินตงมองกู้ชิงหยิ่งอย่างอ่อนโยนและยิ้มบางๆ “ฝนดอกไม้แบบนี้ ชอบหรือเปล่า?”

ความรักที่กู้ชิงหยิ่งมีต่อเขา เขาเข้าใจทั้งหมด

ในตอนที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ยังอยู่กับเขาอย่างไม่ลังเล งั้นเธอก็คุ้มค่าให้เขามอบทุกอย่างให้

ความสุขของเธอ ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ!

“ชอบ ชอบมากเลย……”

ดวงตาสวยของกู้ชิงหยิ่งแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้ากระโจนเข้าใส่อ้อมกอดของเฉินตง “ขอบคุณนะ”

ฉากนี้ ถูกคนทั้งงานจ้องมองให้ความสนใจ

และยิ่งถูกสื่อทุกคนใช้กล้องบันทึกเอาไว้

ไม่มีใครไม่ชอบฉากสารภาพรักด้วยดอกไม้ทั่วท้องฟ้าแบบนี้ มีกระทั่งการอวยพรอย่างจริงใจ และมีผู้หญิงไม่น้อยเลยทีเดียวที่มองกู้ชิงหยิ่งด้วยสายตาอิจฉา

ครืน……

และในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าก็เกิดเสียงดังขึ้นเป็นพักๆ

ฉับพลันนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนไว้

“ดูนั่นสิ! เฮลิคอปเตอร์!”

มีคนพูดออกมาอย่างตกใจ ทันใดนั้น สถานที่นี้ก็ระเบิดเสียงตกใจกันออกมา เสียงดังสนั่นคล้ายกับเสียงฟ้าร้อง

ท่ามกลางดอกไม้โปรยปรายเต็มทั่วท้องฟ้านี้ มีเฮลิคอปเตอร์สามลำกำลังบินเข้ามาจากทางไกล

“นี่มัน……” กู้ชิงหยิ่งมองฉากบนท้องฟ้าอย่างตกใจ

เฉินตงเขี่ยสันจมูกของกู้ชิงหยิ่งอย่างเอ็นดูและยิ้มพูด “นี่ก็เป็นเซอร์ไพรส์ที่ให้เธอเหมือนกัน”

ร่างเล็กของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหวเล็กน้อยและหัวใจก็เต้นแรงตุบตับ

ไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ก็บินถึงข้างบนสำนักงานขาย

ในขณะที่ถูกสายตาตกใจของทุกคนและกล้องนับไม่ถ้วนโฟกัสเข้าอยู่

เฮลิคอปเตอร์สามลำนั่นก็เปิดประตูเครื่องบินออก ลูกโป่งหลากสีนับไม่ถ้วนก็ลอยลงมาพร้อมกันกับแผ่นคำสามใบ

“กู้ชิงหยิ่ง”

“เธอใช้ทั้งชีวิตมาเดิมพัน”

“ฉันจะยอมให้เธอแพ้ได้อย่างไร”

แผ่นคำสามคำ ประโยคสามคำ ราวกับฟ้าผ่าระเบิดเข้าไปในใจของทุกคน

ผ่าง……

สถานที่นี้ระเบิดเสียงตกใจออกมาอีกครั้ง

ร่างเล็กของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหว เวลานี้ น้ำตาทะลักออกมาราวกับพนังกั้นแม่น้ำแตกออก

เธอมองเฉินตงอย่างซาบซึ้งดีใจ แต่เฉินตงแค่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “นี่เป็นคำสาบานที่ฉันให้เธอ ขอบคุณที่เธอไม่ทอดทิ้ง จากนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่แยกจาก”

ไม่ทอดทิ้งไม่แยกจาก……

กู้ชิงหยิ่งกระโจนเข้าไปในอ้อมอกของเฉินตง มุดหัวไว้ข้างใน ร่างเล็กสั่นเทาเล็กน้อย

“ตาบ้า ไหนบอกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ไง ทำไมต้องทำให้คนเค้าร้องไห้ด้วยเล่า?”

เหมือนจะเป็นคำพูดที่ต่อว่าแต่ก็ทำให้เฉินตงยิ้มออกมา มือขวาตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ ริมฝีปากแตะลงบนหัวของกู้ชิงหยิ่งช้าๆ

ภาพนี้เหมือนกับถูกหยุดเอาไว้

ภายใต้สายตาอิจฉาปนตกตะลึงของทุกคน

กล้องมากมายนับไม่ถ้วนก็รีบบันทึกฉากนี้เอาไว้กันอย่างรวดเร็ว

และในขณะเดียว ช่วงเวลาที่มีความสุขนี้

ก็มีเงาสวยพริ้มเพราเงาหนึ่งวิ่งมาทางสำนักงานขายอย่างเร็ว……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset