บทที่ 66 สัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัว
“ผมรอคุณมาตลอด!”
ท่ามกลางความมืด เงาดำที่ถูกคุนหลุนคว้าข้อมือเอาไว้ ไม่เพียงแต่จะไม่มีอาการตื่นตกใจ ในทางตรงกันข้ามกลับมีความประหลาดใจเล็กน้อยอีกด้วย
เฉินตงขมวดคิ้ว สถานที่แห่งนี้มืดเกินไปแล้วจริงๆ ยกเว้นบริเวณรอบๆลูกกรงเหล็ก ส่วนที่เหลือล้วนแต่มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย
“คุณคือใคร?”
คุนหลุนปล่อยมือขวาของเขา เนื่องจากพบตัวแล้ว เขาไม่สนใจเลยว่าคนตรงหน้าจะลงมือหรือไม่
เป็นเพราะเขามั่นใจว่าในเสี้ยววินาทีที่คนผู้นี้ลงมือ เขาจะคว่ำมันลงได้
เงาร่างนั้นก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวหันหน้ารับแสงสว่างในทิศทางของกรงเหล็ก เผยให้เห็นแผลเป็นรูปตะขาบที่หางตาอย่างชัดเจน
“กูหลัง?!”
เฉินตงตะลึงไปชั่วขณะแล้วได้สติกลับคืนมาในทันที : “เมื่อกี้นี้นายไม่ได้อยากจะลงมือกับฉันเหรอ?”
ในกรงเหล็กคราวก่อน เขาให้ความเมตตาต่อลูกน้องของกูหลัง ปฏิกิริยาตอบสนองของกูหลังในตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่ากูหลังจะผูกพยาบาท ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้นี้ยังฉวยโอกาสทำร้ายในที่ลับ
“ผม ผมเพียงแค่อยากจะทักทายคุณ”
กูหลังรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย “เข้ามาในระหว่างการแข่งขันโรงยิมมวยใต้ดิน แล้วจู่ๆตะโกนเรียกนายจะส่งผลกระทบที่ไม่ดี”
เฉินตงถูจมูกแล้วยิ้มอย่างประดักประเดิด
“นายจะทักก็สามารถเดินเข้ามาใกล้แล้วทักทายก็ได้นี่นา มีมือดำมืดยื่นออกมาในสถานที่ประเภทนี้ ไม่ยากเลยที่คุนหลุนจะเข้าใจนายผิด”
“เป็นผมเองที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากพอ”
กูหลังแสยะยิ้ม
ได้พบกันอีกครั้ง เฉินตงค้นพบว่าลักษณะท่าทางของกูหลังตอนที่อยู่ในกรงเหล็กมีความแตกต่างอย่างมาก
เมื่อเขาอยู่ในกรงเหล็ก กูหลังทำให้เขารู้สึกเหมือนกับเป็นสัตว์ป่ากระหายเลือด และในตอนนี้ค่อนข้างจะมีความนุ่มนวลกว่ามาก
แม้จะมีความนิ่งเฉยอยู่บ้าง
ตูม!
ทันใดนั้น ในความมืดของโรงยิมมวยใต้ดินก็เกิดเสียงโห่ร้องตะโกนจนหูแทบแตก
เฉินตงผงะไปทันที เมื่อหันไปมองทางกรงเหล็ก การต่อสู้ได้มาถึงจุดที่เดือดที่สุด
ทั้งนองเลือดและโหดร้าย ในตอนนี้มันได้แสดงออกมาอย่างเต็มตาและทั่วถึง
สุนทรียภาพของความรุนแรงเมื่อกำปั้นกระแทกเนื้อเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในการกระตุ้นสัญชาตญาณอันป่าเถื่อนของมนุษย์
“ใกล้จะตัดสินผลแพ้ชนะแล้ว” กูหลังพูดอย่างสงบนิ่ง : “ภายใต้การกดอัดด้วยโครงสร้างร่างกายและพละกำลังของฮิปโป ใช้เวลาประมาณหนึ่งนาทีก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว”
ด้วยการหมกมุ่นกับการต่อสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดินอย่างยาวนาน กูหลังมีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก
เฉินตงไม่ได้โต้แย้ง
สถานที่ประเภทโรงยิมมวยใต้ดินนี้สามารถฆ่าคนให้ตายได้ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปฏิบัติอย่างซื่อสัตย์ในเกมการต่อสู้แบบนี้ ลำดับความสำคัญนั้นเป็นไปตามขนาด
แต่ทว่า ทันใดนั้นคุนหลุนกลับถามเฉินตงว่า : “คุณชาย คุณคิดยังไง?”
เฉินตงตะลึงไปชั่วขณะ แล้วมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาทันที
คุนหลุนกำลังทดสอบเขา
กูหลังที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้ว แต่กลับไม่ได้ส่งเสียง
เขาเพิ่งจะเข้ามาใกล้เมื่อสักครู่และถูกคุนหลุนค้นพบและหยุดด้วยหลังมือ ประเมิณแค่สิ่งนี้เท่านั้น เขาก็รู้แน่ชัดว่าคุนหลุนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเขา
ในความมืด เสียงกรีดร้องตะโกนนั้นราวกับเสียงคลื่น
และภายในกรงเหล็กมีเลือดสาดกระเซ็น เลือดทะลักออกมา
คนที่กูหลังเรียกว่าฮิปโปนั้นมีอำนาจเหนือกว่าในสถานการณ์ต่อสู้โดยสมบูรณ์ แม้กระทั่งหมัดหนักๆก็ใช้มือซ้ายสกัดเอาไว้ได้
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงประหลาดใจที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่าแขนจะหักไปแล้วข้างหนึ่ง แต่คนผู้นั้นกลับยังคงเคลื่อนย้ายหลบหลีกและในบางครั้งก็โต้กลับด้วยหมัดขวา
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยและอาการบาดเจ็บไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้จิตใจวุ่นวายสับสนได้เลย
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของเฉินตง
ทุกวินาทีที่ผ่านไป
การต่อสู้ที่ถึงขีดสุดได้ระเบิดอารมณ์ของผู้ชมทั้งสนาม
สายตาของเฉินตงจ้องมองการต่อสู้อย่างตั้งใจ พูดให้ถูกต้องคือจ้องมองไปที่ชายร่างเล็ก
คุนหลุนที่อยู่ด้านข้างดูคล้ายจะยิ้มออกมา
และกูหลังก็ส่งเสียงพึมพำว่า : “หรือว่ายังพลิกกลับมาได้?”
เสียงเพิ่งจะสิ้นสุดลง ทันใดนั้นเฉินตงก็พูดว่า : “ฝีเท้าของคนตัวเล็กมันแปลกมาก”
กูหลังมีท่าทีประหลาดใจแล้วรีบสังเกตดูฝีเท้าของชายตัวเล็ก
แต่คุนหลุนยังซักถามต่อไปว่า : “แปลกยังไงเหรอครับ?”
“การก้าวเท้าดูวุ่นวาย แต่ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่ามีการจัดระเบียบอย่างเป็นศิลปะ มันคือละมั่งแขวนเขา(ละมั่งแขวนเขาบนต้นไม้ตอนกลางคืนทำให้เท้าไม่แตะพื้นเป็นการระวังภัย) ทุกครั้งคือการหลบหลีกจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้อย่างถูกต้อง
เฉินตงจ้องไปที่ชายร่างเล็ก แล้วใช้น้ำเสียงที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อพูดออกมาว่า : “การก้าวเท้าของเขาทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นสัตว์ร้ายที่กำลังรอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงมือ เขากำลังรอ รอโอกาสที่ดีที่สุด แล้วใช้ท่าไม้ตาย!”
รูม่านตาของคุนหลุนหดตัวลง รอยยิ้มบนหน้าถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจ
ในตอนที่เขาเคยเป็นทหารรับจ้าง การเข่นฆ่าที่เขาต้องเจอในสนามรบนั้นเทียบกับภายในกรงเหล็กแล้วโหดร้ายยิ่งกว่า ในขณะเดียวกันเขาได้สร้างพลังการต่อสู้ที่น่ากลัวในตัวของเขาที่ห่างไกลเกินกว่ากูหลังจะสามารถเทียบเคียงได้
เป็นเรื่องที่แม้แต่มืออาชีพอย่างกูหลังเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น
แต่ว่าคุณชายที่เคยเข้าสู่การต่อสู้จริงๆแค่ครั้งเดียว กลับ…ค้นพบแล้ว!
ด้วยสัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้ก็ทำให้หัวใจของคุนหลุนสูบฉีดด้วยเช่นกัน
เสียงเพิ่งจะลดลง
“อ้า!”
ในกรงเหล็ก ทันใดนั้นชายร่างเล็กที่ถูกทุบตีมาตลอดก็ระเบิดเสียงคำรามออกมา
“มาแล้ว!”
เกือบจะเป็นเวลาเดียวกัน ดวงตาของเฉินตงก็เป็นประกายแวววาว
ภายในกรงเหล็ก ชางร่างเล็กก้มตัวลงอย่างกะทันหัน โน้มมาข้างหน้า มือขวาพยุงพื้นเอาไว้แล้วขยับร่างกายส่วนล่างให้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว มีเสียงลมที่รุนแรงตรงเท้าด้านขวา ทันใดนั้นมันก็กระแทกลงไปบนขมับของฮิปโปเหมือนกับขวานศึก
ปัง!
เกิดเสียงอู้อี้แล้วร่างกายที่ปกติเหมือนกับหอคอยเหล็กของฮิปโปก็แข็งทื่อในทันใด และล้มลงไปอย่างตรงทื่อในกรงเหล็ก
สนามต่อสู้ที่แต่เดิมมีเสียงดัง ทันใดนั้นก็เงียบกริบ
ทุกคนล้วนแต่ตะลึงงัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าวาระสุดท้ายของการต่อสู้จะถูกเขียนขึ้นใหม่ภายในชั่วพริบตาเช่นนี้!
จนกระทั่งหลังจากที่กรรมการได้ประกาศผล ทั้งสนามที่เงียบกริบถึงได้ระเบิดเสียงกรีดร้องและตะโกนอีกครั้ง
“จริงเหรอ…เปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะจริงๆเหรอเนี่ย?” กูหลังตกตะลึงจนตาค้างและมองภายในกรงเหล็กอย่างเหลือเชื่อ
“ฟู่ว…” เฉินตงถอนใจยาว เมื่อกี้นี้พลังงานทั้งหมดของเขาได้เพ่งความสนใจไปที่ชายร่างเล็ก ทำให้เขาเองอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลกับสงครามการต่อสู้ขึ้นมา
“คุณชายครับ ความก้าวหน้าของคุณทำให้ผมประหลาดใจมากเกินไปแล้ว”
คุนหลุนตบไหล่เฉินตงอย่างชื่นชมและดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
อันคำว่าการศึกษาอันยอดเยี่ยมของคนรุ่นใหม่ของตระกลูเฉิน หนึ่งในนั้นคือสมรรถภาพทางกายและทักษะการต่อสู้
นับตั้งแต่ตนเองเข้าร่วมกับตระกูลเฉิน เขารู้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับสมรรถภาพทางกายและระดับทักษะการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน แต่ว่าไม่มีใครที่มีพัฒนาการได้รวดเร็วเท่ากับเฉินตง!
“สายตาของคุณท่านดูเหมือนคบเพลิงจริงๆ”
ในขณะที่ชื่นชมเวลาเดียวกันนั้นเอง คุนหลุนก็แอบถอนใจอยู่ในใจ
“อย่ามาไม้นี้เลย นายโยนข้อสอบออกมา ฉันถึงได้ดูอย่างละเอียด สิ่งนี้เทียบกับมองไปที่กูหลังโดยตรงแล้ว นั่นง่ายกว่ามาก”
เฉินตงตอบ อย่างนี้จะได้ไม่ทำให้กูหลังต้องรู้สึกอายเกินไป
คุนหลุนพยักหน้าแล้วพูดต่อไปว่า : “คุณชาย ขอให้จำไว้ว่า ทักษะการต่อสู้คือทักษะการฆ่าก่อนที่แพ้ชนะจะถูกกำหนด คุณสามารถถูกศัตรูโจมตีได้เป็นร้อยๆครั้ง ขอเพียงแค่คุณไม่ล้มลง คว้าโอกาสเอาไว้เพราะชนะหรือแพ้อยู่ในหนึ่งกระบวนท่าและการฆ่าคนจำเป็นต้องใช้แค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น”
เฉินตงพยักหน้าเงียบๆ
ดวงตาของกูหลังที่อยู่ด้านข้างมีความหวาดกลัวหนักยิ่งขึ้นและครุ่นคิดถึงบางสิ่ง
คุนหลุนยิ้ม : “แต่ว่า ชายร่างเล็กคนนั้นยังโง่อยู่เล็กน้อย ยอมจ่ายราคาออกไปมากขนาดนั้นเพียงเพื่อแลกกับการโจมตีที่รุนแรง คู่ต่อสู้ถูกเขาเตะจนเกือบตายและเขาแขนหักข้างหนึ่ง เขาไม่มีทางต่อสู้ได้ในหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้า”
“การต่อสู้คือทักษะการฆ่า ก่อนที่ชนะหรือแพ้จะถูกกำหนด ต้องพยายามสร้างสมดุลของอัตราส่วนต้นทุนและผลกำไรให้ได้มากที่สุดแล้วใช้ต้นทุนน้อยที่สุดแลกกับการฆ่าในหนึ่งกระบวนท่า!”
เฉินตงขบปากอย่างครุ่นคิด
“ผมจะไปช่วยคุณชายทำการนัดหมายเพื่อลงสนาม” คุนหลุนพยักหน้าแล้วจากไป
เวลานี้ ในที่สุดกูหลังก็มีสติคืนกลับมาจากความสยดสยอง
สายตาล้ำลึกของเขาเหลือบมองดูคุนหลุนที่จากไปแล้วสุดท้ายก็ตกอยู่บนตัวเฉินตง
เขาสงสัย และคิดอยู่…เพียงไม่กี่วินาที ดวงตาของกูหลังก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
ท้ายที่สุด เขาก็แน่วแน่ขึ้นมาอย่างทันทีทันใด
พูดเสียงเข้มว่า : “ได้โปรดให้ผมติดตามคุณ!”