Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 67 โกง!

บทที่ 67 โกง

เฉินตงตะลึง

เขามองไปที่กูหลังอย่างประหลาดใจ ในช่วงเวลานั้นไม่รู้ว่าควรจะตอบเช่นไร

กูหลังก้มศรีษะลงด้วยท่าทีที่จริงใจ “คุณผู้ชาย ได้โปรดให้ผมติดตามคุณนะครับ”

เฉินตงยิ้มอย่างเจ็บปวดแล้วยักไหล่ : “ฉันมาที่นี่เพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้เท่านั้นเอง ไม่ใช่มาเพื่อรับสมัครน้องชาย”

กูหลังมีตัวตนเช่นไร เขาไม่ได้อยากจะลงลึกอย่างจริงจัง

แต่ครั้งแรกที่มาโรงยิมมวยใต้ดินก่อนหน้านี้ คุนหลุนได้กล่าวถึงบางเรื่องของโรงยิมมวยใต้ดินกับเขา

นักสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดิน มีส่วนหนึ่งเป็นนักสู้ที่กระหายสงครามเช่นเดียวกับเขา มาที่โรงยิมมวยใต้ดินเพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้

และส่วนอื่นๆคือส่วนที่ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ คือคนที่ได้รับเงินจากการต่อสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดิน

ตอนนั้นเขายังได้ถามเจาะจงเป็นพิเศษกับคุนหลุนว่าสองกลุ่มนี้ กลุ่มไหนมีจำนวนมากกว่ากัน

คำตอบของคุนหลุนทำให้เขาประทับใจอย่างลึกซึ้ง

คุนหลุนในตอนนั้นเพียงแค่ยิ้มแล้วพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า : “คุณชายคิดว่าพวกที่กระหายสงครามจะไม่มีเงินสักกี่คนกันเชียว?”

ด้วยประโยคนี้ เฉินตงก็สามารถคาดเดาตัวตนของกูหลังที่อยู่เบื้องหน้าออกมาได้เช่นกัน

เขาไม่อยากจะคิดเลอะเทอะมากเกินไป

“เพราะอะไร?”

กูหลังผงะ “หลังจากที่ผมติดตามคุณ คุณไม่ต้องจ่ายเงินผมก็ได้ ขอแค่มีข้าวให้ผมกินก็พอแล้ว คุณเป็นคนเดียวที่ผมจะติดตามไปในเส้นทางข้างหน้า”

เฉินตงยักไหล่ รอยยิ้มภายใต้หน้ากากนั้นเรืองรองมากยิ่งขึ้น

ตัวตนของกูหลังไม่จำเป็นต้องให้เขาเดาอีกต่อไปแล้ว

“ต้องขออภัยด้วย ผมแค่มาสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้เท่านั้น สำหรับเรื่องอื่นผมไม่เคยคิดเลย”

เฉินตงพูดอย่างตรงไปตรงมา : “การต่อสู้ในกรงเหล็กคราวก่อน ผมเพียงแค่สะสมประสบการณ์ต่อสู้เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำร้ายคุณ คุณเองก็ไม่ต้องจำใส่ใจหรอก”

เวลานี้เอง คุนหลุนเดินเข้ามา

“คุณชาย นัดหมายพร้อมแล้ว เกมที่สามคือคุณ”

เฉินตงพยักหน้า เดินไปด้านข้างแล้วไม่พูดอะไรอีก

กลับเป็นกูหลังที่ยืนอยู่ที่เดิมและใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เขาวางเงื่อนไขไว้ต่ำมากขนาดนี้แล้ว การปฏิเสธของเฉินตงทำให้เขาคาดไม่ถึง

ตัวตนของเขาไม่สะอาดอย่างแน่นอน

แต่ว่าเขาสามารถรอคอยเป็นเวลานาน และที่โรงยิมมวยใต้ดินนี้เขาสามารถรักษาระดับของทักษะการต่อสู้ที่อาจจะได้รับชัยชนะ จึงทำให้เขามีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยในวงการมวย

เศรษฐีหลายคนในเมืองนี้ได้เสนอโอกาสให้กับเขา ต้องการจ้างเขาเป็นบอดี้การ์ด และเขาได้ปฏิเสธไปทั้งหมดแล้ว

เหตุผลที่เลือกเฉินตง เพราะการยั้งมือของเฉินตงในกรงเหล็กวันนั้น

เหตุผลข้อที่สองไม่ว่าจะเป็นเฉินตงเองหรือว่าคุนหลุนที่อยู่ข้างกายเฉินตง กูหลังรู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างมาก

และเศรษฐีเหล่านั้นที่ต้องการว่าจ้างเขาเป็นบอดี้การ์ด มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว!

ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะเดิมพันสักตา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม

ลมจากมังกรเมฆจากเสือ ได้ติดตามคนที่เหมาะสม เปรียบเทียบแล้วสำคัญกว่าค่าตอบแทน

ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เศรษฐีทั้งหลายนั่นไม่สามารถช่วยเปลี่ยนสถานะของเขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด แต่ก็ต้องซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตลอดเวลา

เขาคือ “กูหลัง” แต่ก็ไม่ชอบความมืดด้วยเช่นกัน

เขาเองก็ปรารถนามองดูท้องฟ้าและแสงแดดเจิดจ้า

ภาพการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหลัง เฉินตงมองดูอย่างเพ่งสมาธิทุกอย่าง

สำหรับเขาแล้ว ประสบการณ์ต่อสู้ของจริงทุกครั้งล้วนมีค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ถ้าหากต้องการยกระดับตนเอง มีเพียงแค่ต้องใช้พลังงานให้มากขึ้น จ่ายออกไปให้มากขึ้นกว่าคนอื่นถึงจะได้รับมากขึ้น

กูหลังไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการติดตามอีก แต่กลับไม่ได้จากไป และเขายืนอยู่ด้านหลังของเฉินตงและคุนหลุน โดยสังเกตจากตอนต่อสู้ด้านในกรงเหล็กและสังเกตท่าทีของเฉินตงและคุนหลุนด้วยเช่นกัน

ในที่สุด ก็มาถึงตาเฉินตงลงสนามแล้ว

เมื่อหน้าจอแสดงชื่อของทั้งสองฝ่ายที่กำลังจะเริ่มทำสงคราม

ทันใดนั้นรูม่านตาของกูหลังก็หดตัวลงแล้วพูดอย่างหวาดกลัวว่า : “คุณระวังตัวด้วยนะ”

เฉินตงชำเลืองมองไปที่กูหลัง ถัดจากนั้นก็เหลือบมองไปที่ชื่อของคู่ต่อสู้อีกครั้ง

โรงยิมมวยใต้ดินส่วนใหญ่แล้วมักใช้ชื่อเล่นไม่ใช้ชื่อจริง

และคู่ต่อสู้ของเขาคือคนที่มีชื่อว่าผีร้ายนรก

“ว่ายังไงล่ะ?” เฉินตงเอ่ยถาม กูหลังเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงของโรงยิมมวยใต้ดินมานาน จะต้องมีความรู้เรื่องมวยมากกว่าเขา

กูหลังพูดว่า : “เขาเป็นคนที่พึ่งมาใหม่ ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ร้ายกาจ และต้องการที่จะทำร้าย อันที่จริงโรงยิมมวยใต้ดินของพวกเราถึงแม้จะดุเดือดเลือดพล่าน แต่ก็มีมิตรภาพผสมปนอยู่บ้างมาตลอดในระยะเวลายาวนาน การต่อสู้ในกรงเหล็กในตอนสุดท้ายก็เหลือทางรอดให้คู่ต่อสู้ เพราะถึงยังไงก็ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ดังนั้นถึงได้ไว้ชีวิตเอาไว้”

เมื่อชะงักไปชั่วขณะ การแสดงออกของกูหลังก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างยิ่ง

“แต่ผีร้ายนรกคนนี้ ดูราวกับเป็นผีร้ายคลานออกมาจากนรกจริงๆ มีความต้องการเอาชีวิตคนอื่น ที่โรงยิมมวยใต้ดินเขาต่อสู้สิบเกม สู้สิบครั้ง ชนะสิบครั้ง ตายสามคนและบาดเจ็บสาหัสหกคนพิการเป็นผักหนึ่งคน”

“ฟู่ว”

ฟังผลการรบของผีร้ายนรกจบแล้ว เฉินตงอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ ไม่ต้องพูดถึงอัตราการชนะร้อยเปอร์เซนต์ก็สยองขวัญแล้ว เพียงแค่ผลลัพธ์เช่นนี้ก็เป็นการกุเรื่องให้สะเทือนขวัญได้มากพอแล้ว

เขาเคยได้ยินจากคุนหลุนว่า ถึงแม้โรงยิมมวยใต้ดินจะนองเลือด แต่อัตราการเสียชีวิตนั้นต่ำมาก เหมือนกับที่กูหลังพูด พวกที่มีประสบการณ์เจนจัดมักจะไว้ชีวิตให้กับอีกฝ่าย

ตอนที่ฮิปโปถูกชายร่างเล็กเตะจนตายเมื่อสักครู่นี้ สามารถทำให้ทั้งสนามเงียบกริบก็เป็นเพราะว่ามันน่าตกใจเกินไป

สูดหายใจเข้าลึกแล้ว เฉินตงมองไปที่คุนหลุนด้วยความกลัว : “คุนหลุน ทำไมนายถึงได้เตรียมเทพสังหารให้ฉันหล่ะเนี่ย?”

คุนหลุนยิ้มเล็กน้อย : “ขอเพียงแค่คุณเดินไปจนถึงเส้นขอบของความตาย คุณถึงจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วนะครับ ยิ่งคุณอยู่ใกล้เส้นขอบของความเป็นความตายมากเท่าไหร่ ก็สามารถทะลุขีดจำกัดของร่างกายตัวเองได้มากเท่านั้น”

เชี่ยเอ๊ย!

หัวใจของเฉินตงในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะสบถอยู่ในใจ

เขาต้องการทุ่มเทเพื่อยกระดับฝีมือ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เริ่มฆ่าคนเร็วขนาดนี้

คุนหลุนทหารรับจ้างคนนี้เคยชินกับการเสียเลือดเสียเนื้อมาในอดีต แล้วตอนนี้อยากจะให้เขาไปเต้นรำอยู่ที่ปากหลุมศพจริงๆเหรอ?

“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ไม่มีเรื่องอะไรแน่” คุนหลุนมองเห็นเฉินตงเกิดอาการเครียดจึงพูดปลอบใจ

เฉินตงพยักหน้า สูดหายใจเข้าระงับอารมณ์ที่กระวนกระวายเอาไว้

เขาสามารถอนุมานความแข็งแกร่งของคุนหลุนจากที่เขาเคยเห็นได้ มีเขาอยู่ ผีร้ายนรกไม่สามารถทำร้ายเขาได้หรอก

เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุนหลุนคือราชาแห่งนรก!

แล้วกรรมการได้ประกาศตามมาอย่างรวดเร็ว

ที่สนามมีเสียงร้องตะโกนดังขึ้น

เฉินตงประคองหน้ากากสีขาวบนหน้าแล้วเดินไปทางกรงเหล็กอย่างช้าๆ

และบนอัฒจันทร์ เมื่อผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนมองเห็นเฉินตง พวกเขาหลายคนจดจำเขาได้อย่างชัดเจน

ในเวลานี้พวกเขาต่างโต้เถียงกันอย่างเซ็งแซ่

“เชี่ย! นั่นมันเขา คราวก่อนเขาทำให้ฉันเสียไปหนึ่งหมื่นเหรียญ!”

“ให้ตายเถอะ สินค้านี่ทำฉันเสียไปหนึ่งแสน วันนี้ฉันจะต้องได้ทั้งต้นทุนและกำไรกลับคืนมา เขาสู้กับผีร้ายนรกจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งนี้ฉันจะซื้อฝั่งผีร้ายนรกสามแสนเหรียญ!”

“ฮ่าๆๆ…แก้แค้นได้แล้ว วันนี้สามารถแก้แค้นที่เสียเลือดไปเมื่อคราวก่อนได้ รออีกนิดฉันจะตั้งใจดูเลยว่าเจ้าหมอนี้ถูกผีร้ายนรกฆ่าตายยังไง”

…….

ได้ยินเสียงร้องตะโกนที่เหมือนคลื่นยักษ์แล้ว

เฉินตงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เขามาเพื่อต่อสู้ แต่ยังมีใครอีกบ้างที่คุ้มค่าต่อการถูกดึงเข้ามาสู่ความเกลียดชังนี้?

พอเขาเดินเข้าไปในกรงเหล็กก็ยืนสูงตระหง่านภายใต้สปอตไลท์

ทันใดนั้น ในสนามก็ระเบิดเสียงเชียร์ที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งออกมา

ผีร้ายนรกมาแล้ว!

แต่มองดูที่อัตราส่วนร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้ต่อสู้ที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม นั่นเพียงพอแล้วที่จะปลุกเลือดในกายของผู้คนให้เดือดพล่านโดยสมบูรณ์

เฉินตงจ้องมองผีร้ายนรกที่เดินมาจากความมืดอย่างละเอียดรอบคอบ

เขาสวมเสื้อคลุมสีดำคล้ายกับชุดนินจา แต่บนใบหน้าของเขากลับสวมหน้ากากผีร้ายที่แสดงให้เห็นเขี้ยวอันดุร้าย

ภายใต้แสงไฟ มุมปากของหน้ากากผีร้ายยกขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังหัวเราะ

ทำให้คนรู้สึกหนาวสะท้าน

ไม่ต้องมีอารัมภบทมากไปกว่า ประเด็นหลักของโรงยิมมวยใต้ดินก็คือความรุนแรงและนองเลือด

เมื่อกรรมการร้องตะโกน การต่อสู้จึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!

ไม่ต้องรอให้เฉินตงปรับแต่งกระบวนท่า ผีร้ายนรกที่อยู่ตรงข้ามก็พุ่งเข้ามาหาเขาในทันทีใด

ฮึบ!

ลูกเตะนั้นรุนแรงและทรงพลังจนทำให้เกิดภาพซ้อนจนมองเห็นไม่ชัดและตรงมาที่หัวของเฉินตงโดยตรง

เตะครั้งเดียวเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์!

สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก ช่วงเวลาที่อุตลุดนั้นเอง เขายกแขนซ้ายขึ้นแล้วดันออกไปในแนวนอน

ปึง!

เกิดเสียงดังลั่น เฉินตงรู้สึกได้ถึงการถูกกระแทกเข้าอย่างหนัก จึงรีบดีดตัวบินออกมา

ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างกะทันหัน แล้วส่งเสียงกรีดร้อง “อ้า”

ความเจ็บปวดที่ค่อยๆเกิดขึ้นบนแขนซ้าย ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่นิดว่าการเตะครั้งนี้ทำให้กระดูกของเขาแตก!

หลังจากลงถึงพื้นแล้ว เฉินตงก็เจ็บปวดจนเหงื่อออกเต็มหน้า เขาแยกเขี้ยวยิงฟันสูดลมหายใจลึกเข้าไป

แต่เขากลับไม่มีความตื่นตระหนกตกใจ แต่มองไปที่ใต้เท้าของผีร้ายนรกอย่างสยดสยอง

เมื่อมองดู รูม่านตาของเขาก็หดตัวแน่นขึ้นทันทีทันใด

รองเท้าของผีร้ายนรกเป็นสีดำ

แต่ภายใต้แสงไฟนั้น การหักเหของแสงมีแสงมันวาวของโลหะจางๆออกมา

นี่มัน…โกงกันชัดๆ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset