Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 75 ถูกจับได้ง่ายๆ แบบนี้เลย

บทที่ 75 ถูกจับได้ง่ายๆ แบบนี้เลย

การที่จาวซิ่วจือกับหวางเต๋อไปที่วิลล่าเขาเทียนซานนั้นเป็นเรื่องเล็กสำหรับเฉินตง

เขาไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำ

เมื่อคุณเดินอยู่บนท้องถนน คุณจะใส่ใจกับมดตัวน้อยที่คุณเหยียบตายไหม?

แน่นอนว่าไม่!

การเปิดจองล่วงหน้าของโครงการหลงถิงฮัวหยวนเป็นประวัติการณ์ทำให้เป็นข่าวดังในทั่วทั้งเมือง

เพียงแค่วันแรก ห้องพักทุกประเภทก็ขายกันหมดแล้ว

ดังนั้น สิ่งนี้จึงเป็นไปตามความคาดหมายของเฉินตง

แต่อย่างไรก็ตาม น้ำขึ้นให้รีบตัก ดังนั้นตอนนี้จึงต้องรีบดำเนินการตามแผนการขายล่วงหน้าในรอบถัดไป

ตอนนี้มีเงินหนึ่งพันล้านในบัญชีของชงโค เงินหมุนเวียนของเขาก็เพียงพอแล้ว และในขณะเดียวกันก็สามารถปรับปรุงย่านสลัมในภาคตะวันตกของเมืองได้ด้วยเช่นกัน

เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ เขาจึงไม่ได้เข้าบริษัทเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นวันนี้เขาจึงต้องใช้เวลาเกือบทั้งเช้าเพื่อจัดการกับเอกสารในบริษัท

จากนั้นใช้เวลาเล็กน้อยในการเปิดกล่องอีเมลที่เต็มไปด้วยอีเมลแสดงความยินดีจากเพื่อนร่วมงานและอีเมลจากการเชิญชวนของบริษัทวัสดุก่อสร้างต่างๆ

เฉินตงตอบอีเมลที่แสดงความยินดีกับเขาทีละคน ในอาชีพนี้ มีพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นดีกว่าเป็นศัตรูกัน ไม่ว่าการแสดงความยินดีนั้นจะจริงใจหรือไม่ เขาก็ต้องตอบอย่างมีมารยาท

สำหรับอีเมลคำเชิญจากบริษัทวัสดุก่อสร้างต่างๆ เขาทำได้เพียงยิ้มจางๆ แล้วลบมันไปทีละข้อความ

ในตอนั้น บริษัทวัสดุก่อสร้างหลายๆ บริษัททั่วเมืองรวมตัวกันเพื่อคว่ำบาตรไท่ติ่ง

แต่หลังจากหลงถิงฮัวหยวนโด่งดัง พวกเขาต่างก็มาขอความร่วมมือจากเขาอีกครั้ง?

มันช่างไร้สาระจริงๆ!

ตอนเราลำบากไม่มีใครเห็นใจ แต่ตอนเราฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งทุกคนต่างก็อยากร่วมงานด้วย?

ก๊อกๆ!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เสี่ยวหม่าเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “พี่ตงครับ ประธานบริษัทวัสดุก่อสร้างกื๋อหลานอยากเชิญพี่ไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกันครับ พี่ตงว่า……”

“นายคิดว่ายังไงล่ะ?” เฉินตงยิ้มพูด

เสี่ยวหม่ากะพริบตาแล้วยิ้มตอบ “งั้นเดี๋ยวผมจะปฏิเสธไปเลยนะครับ เพราะเขาเคยร่วมต่อต้านเราเหมือนกัน พอเห็นเราได้ดิบได้ดีก็อยากเข้าหาเรา ช่างโลกสวยจริงๆ เลยนะครับ”

“ตามนั้นเลย”

เฉินตงยิ้มพูดต่อ “จริงสิ ถ้าบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เป็นคนนัดเรา ช่วยแจ้งพี่ด้วยนะ พี่จะไป”

ก่อนหน้านี้บริษัทค้าวัสดุต่างพากันคว่ำบาตรเรา มีเพียงบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เท่านั้นที่ยืนหยัดที่จะไม่ร่วมอุดมการณ์นั้นและประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือกับไท่ติ่งของเราจนถึงที่สุด

แม้ว่าในตอนนั้นเฉินตงจะหาทางออกให้กับไท่ติ่งได้แล้ว แต่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่นั้นมาด้วยความจริงใจและกล้าที่จะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของบริษัททั้งหมด

เรื่องนี้เขายังจำได้ดี

“ครับผม!”

เสี่ยวหม่าหันหลังแล้วเตรียมออกไป

แต่เฉินตงก็หยุดเขาไว้อีกครั้ง “จริงด้วย นายช่วยสืบให้ทีว่าใครเป็นผู้ดูแลบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่? ถ้าเป็นไปได้พี่อยากเชิญเขาออกมาเจอกันสักหน่อย”

“ได้ครับ”

จากนั้นเสี่ยวหม่าก็ออกจากออฟฟิศของเขา

เฉินตงเคาะโต๊ะด้วยปลายนิ้วแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ช่วงวิกฤตของไท่ติ่งนั้น บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ทำให้เขารู้สึกสับสนไม่น้อย

บางที กุญแจสำคัญอาจขึ้นอยู่กับผู้นำของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ก็ได้!

สิบนาทีต่อมา

เสี่ยวหม่าเปิดประตูออฟฟิศของเฉินตงเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกๆ

เฉินตงปิดกล่องจดหมายอีเมลแล้วถามเขาว่า “มีอะไรไหม?”

“พี่ตงครับ ผมพลาดเอง เพราะผมไม่ค่อยประสานงานกับการจัดหาวัสดุ ตอนนี้ประธานใหม่ของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ ถ้าพี่เห็นแล้วพี่ต้องตกใจแน่เลยครับ”

เสี่ยวหม่าวางเอกสารไว้ตรงหน้าเฉินตง

เมื่อเฉินตงหยิบขึ้นมามองก็ต้องตะลึงทันที

ด้านบนของเอกสารเขียนไว้อย่างน่าทึ่งว่า กู้ชิงหยิ่ง!

เสี่ยวหม่าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ไม่แปลกเลยที่ตอนนั้นบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ถึงยอมร่วมมือกับไท่ติ่ง ที่แท้พี่ตงเอาบอสใหญ่ของยิงลี่อยู่หมัดแล้วนี่เอง วิธีการแบบนี้ผมชอบมากเลยนะครับ”

“อย่ามั่วเลย”

เฉินตงกลอกตาขาว เขาไม่คิดเลยว่าประธานคนใหม่ของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่จะเป็นกู้ชิงหยิ่ง

มันคืออะไรกัน?

ยัยซื่อบื้อคนนั้นบอกว่าแค่เป็นพนักงานทั่วไปไม่ใช่เหรอ?

พนักงานอะไรกัน ทำงานได้ไม่นานก็เป็นถึงประธานบริษัทวัสดุอันดับต้นๆ ของเมืองแล้ว?

เฉินตงเกาหัวและรู้สึกแปลกๆ เมื่อนึกถึงการสนับสนุนที่ผ่านมาของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่

นี่มัน……ถือว่า……เรากำลังถูกปั่นหัวอยู่ใช่ไหม?

เสี่ยวหม่ายิ้มพูดต่อ “แล้วพี่จะให้ผมนัดพี่สะใภ้……โอ้ ไม่สิ จะให้ผมนัดท่านประธานบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ไหมครับ?”

เฉินตงมองออกว่ารอยยิ้มของเสี่ยวหม่านั้นมีเลศนัย

เขาจึงกลอกตาแล้วพูดกับเขา “ดูนายว่างมากสินะ งั้นไปแบกเหล็กที่ไซต์งานไหม?”

เสี่ยวหม่ายักไหล่แล้วออกจากออฟฟิศทันที

เมื่อเห็นเอกสารตรงหน้า เฉินตงก็รู้สึกจนปัญญา

กู้ชิงหยิ่งผู้หญิงคนนี้จะเซอร์ไพรส์เขามากเกินไปแล้ว!

หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเฉินตงก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหากู้ชิงหยิ่ง

ทันทีที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น กู้ชิงหยิ่งก็รับสายเขา

“ฮ่า ๆ ๆ ……ตาบ๊อง คุณโทรหาฉันเวลานี้อยากเลี้ยงข้าวฉันเหรอ?”

เฉินตงยิ้ม “แน่นอนสิ ไม่ทราบว่าท่านประธานกู้พอมีเวลาไหมครับ?”

ในอีกด้านหนึ่งของสาย กู้ชิงหยิ่งเงียบไปสักพัก

จากนั้นค่อยๆ พูดขึ้นว่า “คุณ คุณรู้แล้วเหรอ?”

“ถ้าช่วงนี้งานไม่ยุ่ง ผมคงรู้ตั้งนานแล้ว” เฉินตงเกาหัวแล้วพูดต่อ “คุณกู้ชิงหยิ่งครับ จู่ ๆ คุณก็กลายเป็นประธานบริษัทแบบนี้ มันทำให้แฟนคุณลำบากใจเลยนะครับ”

“แหม่ๆ ๆ ก็เค้าจะบอกตั้งนานแล้ว แต่เซอร์ไพรส์ที่คุณเตรียมไว้ให้ฉันมันใหญ่เกินไป ฉันจึงไม่รู้จะพูดยังไงดี”

กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างรู้สึกผิด “คุณโกรธเหรอ? อย่าโกรธกันเลยนะ ได้โปรด”

ในเสียงเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังร้องขออย่างน่าสงสารอยู่

เฉินตงยิ้มแล้วพูดต่อ “อย่ามา นอกจากคุณจะออกมาทานมื้อเที่ยงกับแฟนคนนี้ด้วยกัน ไม่อย่างนั้นไม่จบนะ”

“รับทราบค่ะ คุณแฟน” กู้ชิงหยิ่งยิ้มตอบ

หลังจากวางสายลง เฉินตงก็ลูบขมับของเขาและมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้า

แต่ว่า ถ้ากู้ชิงหยิ่งเป็นถึงประธานบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ สถานะนี้ก็ยิ่งทำให้เขาสงสัยเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัวของเธอมากขึ้น

ตามความจริง ตั้งแต่ที่รู้จักกู้ชิงหยิ่งมา เขาไม่เคยสืบเบื้องหลังของครอบครัวเธอเลย

เพราะเขาคิดว่าการที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของครอบครัวคนอื่นอาจจะทำให้มิตรภาพมันเปลี่ยนไป

ดังนั้นที่ผ่านมาเขาคิดว่ากู้ชิงหยิ่งนั้นเป็นแค่ลูกเศรษฐีเท่านั้น

แต่ลูกเศรษฐีจู่ ๆ จะรับหน้าที่เป็นประธานบริษัทวัสดุก่อสร้างชั้นนำในเมืองนี้ได้อย่างไร?

เมื่อมองดูเวลาก็ใกล้ถึงเที่ยงวันแล้ว เฉินตงจึงลุกขึ้นและเดินออกไป

ในเมื่อจะนัดกู้ชิงหยิ่งกินข้าวด้วยกัน คนที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะไม่มีรถยนต์ก็ควรไปรอที่ใต้ตึกบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ก่อนเวลานัด เพราะนี่เป็นท่าทีที่ควรแสดงออก

และในเวลาเดียวกัน

คุนหลุนที่ได้รับสายโทรเข้าก็สีหน้าเคร่งเครียดทันที

ในสายนั้นเป็นเสียงร้องไห้ของฟ่านลู่

“พี่คุนหลุน ช่วยหนูที ช่วยหนูทีนะ…… หนูไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใครแล้ว คุณเฉินงานยุ่งมาก หนูไม่กล้ารบกวนแกเลย คุณป้าก็สุขภาพไม่ค่อยดี หนูทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากพี่แล้ว…… ฮือ ๆ ๆ ……”

“เธออยู่ไหน?” คุนหลุนรีบถามไป

“ฮือ ๆ ๆ …… ฮือ ๆ ๆ ……”

เสียงร้องไห้ของฟ่านลู่ยังคงดังต่อเนื่องในสาย

คุนหลุนขมวดคิ้วแล้วถามอย่างเคร่งเครียด “อยู่ที่ไหน?”

“หนูอยู่หน้าไซต์งานในเขตชุมชนเฮติ”

ในที่สุดฟ่านลู่ก็ยอมบอกที่อยู่ของเธอไป

“รอพี่อยู่ที่นั้นนะ!”

หลังจากวางสายลง คุนหลุนก็รีบออกไปทันที

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset