Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 77 อันธพาลในชุดสูท

บทที่ 77 อันธพาลในชุดสูท

ด้านในไซต์งานมีทรายและปูนซีเมนต์กองเป็นภูเขา

พื้นดินเต็มไปด้วยฝุ่น

ในเวลานี้ คนงานสวมหมวกนิรภัยสิบกว่าคนมุมอยู่ด้วยกัน ในมือแต่ละคนถือพลั่วเหล็กแล้วทุบลงพื้นอย่างไร้ความปรานี

ท่ามกลางคนเหล่านั้นคือคุนหลุนกับฟ่านลู่

คุนหลุนใช้ร่างกายกำยำของเขาบังพลั่วเหล็กของคนเหล่านั้นที่ฟาดลงมาที่ฟ่านลู่

ฟ่านลู่หวาดกลัวและร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไปนานแล้ว แต่ในมือของเธอยังถือโทรศัพท์ไว้แน่นๆ

เธอรู้ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเธอกับคุนหลุน!

ทั้งสองถูกทุบตีจนสภาพทรุดโทรม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของฟ่านลู่บวมฟกช้ำและมีคราบเลือดที่มุมปากด้วย

“ฮือ ฮือ……พี่คุนหลุน……หนู หนูผิดเอง……”

ตรงหน้าฟ่านลู่ที่กำลังโทษตัวเองอยู่ คุนหลุนเปิดปากและมีฟองเลือดไหลออกมา

สายตาของเขาแน่วแน่และยิ้มพูดว่า “ผม ผมอยู่นี่แล้ว ไม่ ไม่ต้องกลัว……”

“แมร่งเอ๊ย หยุดก่อน บอกให้หยุดก่อนไงละ!”

ทันใดนั้น เสียงที่แหลมคมก็ดังขึ้น

จากนั้นมีร่างคนคนหนึ่งดึงและผลักเข้าไปในกลุ่มคนเหล่านั้น

เขาคนนี้อายุราวยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี รูปร่างผอมสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็บสิบเซนติเมตร ตาตี่ จมูกโด่ง ดูแล้วไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

หลังจากผลักคนงานออกไป เขาก็นั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าคุนหลุนกับฟ่านลู่

ผัวะ! จากนั้นตบไปที่กลางศีรษะที่เต็มไปคราบเลือดของคุนหลุน

“มึงเล่ามาสิว่ามึงมาเสือกอะไรกับผู้หญิงคนนี้? ไม่มีเงินจ่ายหนี้ก็เอาตัวมันมาเป็นประกันเลย!”

ผัวะ ๆ ๆ ……

ชายจมูกโด่งยิ่งพูดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เขาตบไปที่ศีรษะของคุนหลุนอย่างไม่หยุด

“อยากเป็นฮีโร่มากนักใช่ไหม? มึงเชื่อไหมว่าถ้าวันนี้กูฆ่ามึงทิ้งกูก็ยังใช้ชีวิตตามปกติได้? เดี๋ยวมึงห้ามปากมากก็แล้วกัน จำไว้! เพราะไอ้หนูคนนี้ติดหนี้กู!”

ผัวะ ๆ ๆ ……

“หยุดตีได้แล้ว ขอร้อง หยุดตีเถอะ……”

ฟ่านลู่พยายามยกมือเพื่อปกป้องศีรษะของคุนหลุนแล้วร้องขอความเมตตา

“แมร่งเอ๊ย! นางตัวแสบ มึงสร้างปัญหาให้กูขนาดนี้ เดี๋ยวกูจะตบมึงด้วยคน!”

ชายจมูกโด่งสีหน้าโหดร้าย จากนั้นหันมาแล้วง้างมือเพื่อจะตบฟ่านลู่

หือ!

ทันใดนั้น ฝ่ามือที่กว้างใหญ่ได้คว้ามือของชายจมูกโด่งไว้

ชายจมูกตกใจและมองหน้าคุนหลุนอย่างตื่นตระหนกทันที “มึง มึงคิดจะทำอะไร?”

คุนหลุนมองชายจมูกโด่งด้วยสายตาพิฆาต จากนั้นปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดก็ยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น

“คุณทำร้ายผมได้ แต่ถ้าคุณคิดทำร้ายผู้หญิง คุณจะต้องตาย……”

“แมร่งเอ๊ย มึงเป็นใครไม่ทราบ?”

“คุณเชื่อไหม ต่อจากนี้……พวกคุณทั้งหมดก็จะล้มลงกับพื้น”

นี่ไม่ใช่คำขู่ของคุนหลุน ทหารรับจ้างที่เคยผ่านสมรภูมิอันนับไม่ถ้วน ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าคิดจะล้มคนติดอาวุธสิบกว่านี้

แต่ ชายจมูกโด่งเดินไปด้านข้างพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้

เพราะความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่ฟ่านลู่ที่เพิ่งถูกทำร้าย เขาจึงถูกท่อนเหล็กฟาดเข้ากลางศีรษะอย่างไม่ทันตั้งตัว

สุดท้ายเขากับฟ่านลู่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“มึงพล่ามอะไรของมึง!”

ชายจมูกโด่งตะคอกอย่างรุนแรง เขาปัดมือของคุนหลุนแล้วถอยห่างออกไป

จากนั้นถ่มน้ำลายลงบนพื้นแล้วพูดข่มขู่ว่า “ถือว่าพวกมึงโชคดีที่มีเฉินตงเป็นที่พึ่ง จำไว้นะ เดี๋ยวมันมาแล้วพวกมึงห้ามพูดมากเชียวล่ะ เพราะยัยตัวแสบคนนี้ติดหนี้ไม่จ่าย กูถึงได้ใช้กำลังกับพวกมึง อย่าทำให้กูอารมณ์เสียไปมากกว่าล่ะ ไม่งั้นเฉินตงของพวกมึงก็ต้องลำบากไปด้วย!”

“คุณ……ชาย……”

คุนหลุนดูเหมือนจะหายใจไม่ออก

และในเวลานั้น

เสียงอันเย็นชาก็ดังขึ้นจากที่ไกล

“ไม่มีใครสามารถใช้แทนตัวเองด้วยคำว่ากูต่อหน้าคนของผมได้!”

เสียงนี้คุ้นเคยมาก ทำให้คุนหลุนและฟ่านลู่หันมองไปทันที

จากนั้นชายจมูกโด่งกับลูกน้องอีกสิบกว่าคนก็เงยหน้าแล้วหันมองไปด้วยความตกใจ

เฉินตงในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

ใบหน้าของเขาเย็นชาและดวงตาของเขาก็คมกริบเหมือนใบมีด

เขาเดินฝ่าคนกลุ่มนั้นโดยที่ไม่สนใจใคร สายตาของเขาจดจ่ออยู่ที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ที่นอนอยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร

ไอพิฆาตค่อยๆ ลุกโชนขึ้น

“ท่าน ท่านประธานเฉิน……”

ชายจมูกโด่งถูกมือของเขาด้วยรอยยิ้มที่ประจบแล้วเดินเข้าไปต้อนรับเฉินตง “ผมชื่อโจวเห้า เป็นรองผู้ดูแลสถานที่ก่อสร้างแห่งนี้ และผมเป็นลูกพี่ลูกน้องของโจวจุนหลง……”

“เหอะ!”

เฉินตงหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วเดินผ่านโจวเห้าและลูกน้องของเขาเข้าไปหาคุนหลุนกับฟ่านลู่อย่างเฉยเมย

เมื่อไปถึงเขานั่งยอง ๆ โดยไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เขากลับมองไปที่คุนหลุนที่เต็มไปด้วยคราบเลือดแล้วบ่นว่า “ดูนายสิ เป็นถึงทหารรับจ้างกลับถูกพวกกระจอกสิบกว่าคนทำร้าย มันน่าอายไปไหม?”

คุนหลุนยิ้มอย่างขมขื่น “ขอบุหรี่หน่อย”

เฉินตงยิ้มแล้วหันกลับไปถามคนที่ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ “เอาบุหรี่ให้เพื่อนผมที”

“ครับ ครับผม……สักครู่นะครับประธานเฉิน”

โจวเห้าไม่กล้าเพิกเฉย เขารีบเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม

แม้เขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโจวจุนหลง แต่ต่อหน้าเฉินตงผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ด้วย เขาไม่กล้าที่จะเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น

อย่างน้อยก่อนที่จะฉีกหน้ากัน เขาต้องทำตัวให้ดีก่อน

หลังจากจุดบุหรี่แล้ว โจวเห้าก็มองไปที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ด้วยสายตาข่มขู่เพื่อเตือนในสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นค่อยๆ เดินถอยออกไป

คุนหลุนที่คาบบุหรี่อยู่ก็พลิกตัวนั่งลงบนพื้นทรายแล้วคายคราบเลือดออกจากปาก

ส่วนฟ่านลู่ก็รีบลุกขึ้นแล้วพยุงคุนหลุนไว้

อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้รุนแรงมาก เธอแค่ถูกตบไปสองสามทีและถูกกระแทกไปสองสามครั้งเท่านั้น

อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่จะอยู่ที่คุนหลุนที่พยายามปกป้องเธอ

“พี่คุนหลุน……หนูขอโทษ หนูขอโทษ……”

ฟ่านลู่ได้แต่ร้องไห้ด้วยเสียงที่แหบแห้งแล้วหันไปพูดกับเฉินตงทั้งน้ำตา “คุณเฉินคะ ขะ ขอโทษนะคะ……หนู……”

เฉินตงส่ายหัวแล้วหยุดคำพูดของฟ่านลู่ไว้

จากนั้นเขาตบหน้าอกคุนหลุนเบาๆ แล้วถามเขาว่า “ยังลุกไหวมั้ย?”

“สบายมาก”

คุนหลุนเช็ดคราบเลือดที่มุมปากแล้วยิ้มพูดว่า “ผมคลานออกจากซากศพนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ!”

ด้วยการช่วยเหลือของเฉินตงกับฟ่านลู่ คุนหลุนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนได้

คุนหลุนที่ดื้อรั้น ในที่สุดเขาก็ปล่อยมือจากเฉินตงกับฟ่านลู่และพยายามยืนด้วยตนเอง

เฉินตงยิ้มแล้วหันไปพูดกับโจวเห้า “คุณทำร้ายคนของผม แล้วจะชดใช้ยังไง?”

ยังไม่คิดจะจบเรื่องนี้ใช่ไหม?

โจวเห้าถอนหายใจและพยายามพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านประธานเฉินครับ ฟังผมอธิบายก่อน เพราะนางตัวแสบคนนี้ติดหนี้ผมไม่ยอมจ่ายเองนะครับ ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโจวจุนหลงนะ ถ้าไม่เกรงใจผมก็หัดเกรงใจพี่ผมด้วย……”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฉินตงก็ยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะเขา

“อย่าพูดเรื่องเงินเรื่องทองกับผม ตอนนี้ผมถามคุณว่าคุณจะรับผิดชอบยังไงกับคนของผมที่ถูกคุณทำร้าย?”

เป็นน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีก

ในฉากนี้คุนหลุนและฟ่านลู่ดูหม่นหมองทันที

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินตงสีหน้าของโจวห้าวก็เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถทนต่อไปได้และพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “เฉินตง คุณจำเป็นต้องทำให้ผมโกรธจริงๆ เหรอ? เป็นแค่ไก่เกาะอยู่บนกิ่งไม้แต่ทำตัวเหมือนหงส์? ใส่สูทผูกไทก็รีบไสหัวกลับไปนั่งที่ออฟฟิศซะ อย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้ ถามหน่อยเถอะ สิบกว่าคนยืนอยู่ตรงหน้าคุณจะทำอะไรได้?”

“คุณเคยเห็นอันธพาลในชุดสูทไหม?”

เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเงยหน้าขึ้นเพื่อคลายเนกไทที่คอแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมีสองทางเลือก หนึ่งคือคุณจะเป็นเหมือนคนของผม สองคือพวกคุณทุกคนจะเป็นเหมือนคนของผม!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset