Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 78 นี่มันบ้าไปแล้ว!

บทที่ 78 นี่มันบ้าไปแล้ว!

เมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชานี้ โจวเห้าถึงกับเกร็งไปทั้งตัว

คนคนเดียวจะกล้าท้าทายคนเป็นสิบได้ยังไง?

มัน……ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม!

“อันธพาลใส่สูทใช่ไหม? ได้สิ ในเมื่อมึงไม่ยอมจบ อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”

โจวเห้ากัดฟันด้วยความโกรธ จากนั้นโบกมือเพื่อสั่งการ “อัดมันให้ร่วง ทีเหลือกูรับผิดชอบเอง!”

ทันใดนั้น คนนับสิบที่มีพลั่วท่อเหล็กก็กระโจนเข้าหาเฉินตง

ส่วนโจวเห้าค่อยๆ ถอยออกจากพวกเขา

เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเปล่งประกาย จากนั้นพุ่งเข้าหาโจวเห้าที่กำลังเดินถอยหลังอย่างรวดเร็ว

เขาไม่ใช่คนไร้น้ำยาแต่อย่างใด สามปีที่อยู่ในบ้านตระกูลหวาง เขาเจอเรื่องราวมาหลายต่อหลายอย่าง แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะเขารักหวางหนันหนัน

ถ้าเขาเป็นคนกระจอกจริงๆ แล้วเขาจะเป็นรองประธานของไท่ติ่งภายในสามปีได้อย่างไร?

ช่วงหนึ่งเฉินตงเคยการฝึกระบบฝึกปีศาจ ซึ่งทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปมาก แม้เขาจะยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่คนกลุ่มนี้ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขาเลย

ด้วยความเร็วแสง เฉินตงพุ่งเข้าถึงตัวโจวเห้าเหมือนสายฟ้า

โจวเห้าตะโกนตกใจแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าหาเฉินตง

แต่เฉินตงหลบการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย จากนั้นคว้ามือของโจวเห้าแล้วล็อกตัวเขาไว้

“โอ๊ย!”

ด้วยเสียงกรีดร้อง เฉินตงจับโจวเห้าไว้ได้

โจวเห้าในขณะนี้เหมือนท่อนไม้ที่หมุนอยู่กับที่ เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเขาทำให้ทุกคนต้องห่างออกไป

“หมอบลงไป!”

เฉินตงสีหน้าเย็นเยือก สองมือจับโจวเห้าไว้แล้วฟาดเขาลงกับพื้น

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของโจวเห้าซีดลงทันที เขาทำได้เพียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของโจวจุนหลง การที่ได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้างานของชุมชนเฮติก็เป็นเพราะเส้นสายของเขาเท่านั้น วันๆ เขาทำได้เพียงโอ้อวดอำนาจและศักดิ์ศรี ซึ่งไม่มีทักษะในตัวเลยแม้แต่นิด อย่าให้เขาต้องเทียบกับเฉินตงเลย แม้แต่นักเลงข้างถนนเขาก็ไม่มีปัญญาเอาชนะได้

ฮึบ!

ในขณะที่โจวเห้าล้มลง ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

เฉินตงขมวดคิ้วและเห็นท่อนเหล็กที่กำลังจะเหวี่ยงเข้ามาถึงเขา ในพริบตานั้นเขาหลบการโจมตีพร้อมกับเตะเข้าไปที่หน้าท้องของอันธพาลคนนั้นและแย่งท่อนเหล็กมาได้

“ฟ่านลู่ คุนหลุน เดินออกไปกับผม!”

เฉินตงตะโกนพูด เขายกท่อนเหล็กขึ้นมาราวกับเทพเจ้าแห่งการสังหาร จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปในวงล้อมของชายกลุ่มนั้น

ทุกครั้งที่ท่อนเหล็กนั้นถูกเหวี่ยงออกไป จะมีเสียงคนกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นและจะมีคนล้มลงกับพื้นโดยกุมศีรษะที่เปื้อนเลือดของเขา

เฉินตงไม่ได้เป็นคนโง่เขลา เขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ต่อให้เขาสามารถสู้กับคนเป็นสิบได้ แต่เขาต้องแลกด้วยพลังงานไม่น้อยอย่างแน่นอน

มันไม่คุ้มแน่!

ดังนั้นเขาจึงต้องพาคุนหลุนกับฟ่านลู่ออกไปในที่ปลอดภัยก่อน เขาจึงจะมีพื้นที่มากพอในการจัดการกับคนกลุ่มนี้

สำหรับการยั้งมือนั้น เขาไม่มีความคิดนี้เลย!

ถูกคนสิบคนรุมทำร้ายแล้วต้องอภัยให้พวกเขา มันคงจะโหดร้ายต่อตัวเองมากเกินไป!

“อัดมันสิวะ รอเชี้ยอะไร! ไอ้พวกเหลือขอ กูเลี้ยงพวกมึงไว้ทำไม?”

เมื่อเห็นเฉินตงยืนอยู่ในท่ามกลางลูกน้อง โจวเห้าก็ถอยห่างออกไปแล้วกระทืบเท้าด้วยความโกรธ

ทันทีที่เสียงพูดยังจบลง

เฉินตงที่อยู่ท่ามกลางชายกลุ่มนั้นกันหันกลับมาแล้วเหวี่ยงท่อนเหล็กไปที่โจวเห้า

“มึงมันหัวดื้อจริงๆ!”

ผัวะ!

“อ๊า!”

โจวเห้าที่ถูกท่อนเหล็กฟาดเข้ากลางหน้าผากถึงกับเลือดพุ่งออกมาแล้วทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้นทันที

“คุณชายระวัง!”

คุนหลุนที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินตงตะโกนขึ้น

เฉินตงหันกลับไปอย่างกะทันหันและเห็นท่อนเหล็กฟาดลงมาที่เขา

ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขากำหมัดขวาแล้วเหวี่ยงออกไปปะทะกับท่อนเหล็กนั้น

ตึบ!

เสียงสนั่นดังขึ้น ท่อนเหล็กกระเด็นออกไป

การปะทะในครั้งนี้ทำให้มือขวาของเฉินตงแตกและมีเลือดไหลออกมา

“คุณเฉิน……”

ฟ่านลู่ตกใจจนหน้าซีด

เธอไม่เคยเห็นเฉินตงในสภาพแบบนี้มาก่อน แต่รู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

“ไม่เป็นไร เราไปกันต่อ”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูฟ่านลู่

โดยที่ฟ่านลู่ยังไม่ทันตั้งตัว แขนซ้ายของเธอก็ถูกจับไว้แน่นๆ

“พี่คุนหลุน……”

ฟ่านลู่มองคุนหลุนอย่างว่างเปล่าและเดินตามเขาไปอย่างงุนงง

ทั้งสองไม่ได้เดินเร็วมากนัก ได้แต่เดินตามเฉินตงอย่างใกล้ชิด

แม้จะมีแต่คนพยายามอ้อมเฉินตงเข้ามาทำร้ายพวกเขา

แต่เฉินตงไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาถึงตัวเลย!

ในไม่ช้าการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ก็ดึงดูดสายตาของคนงานทั่วไซต์งาน

คนงานกลุ่มหนึ่งถึงกับอึ้งเมื่อเห็นเฉินตงฝ่าวงล้อมของชายนับสิบคนเพียงลำพัง

นั่นใช่มนุษย์หรือ?

โจวเห้าเป็นเด็กเส้นในไซต์งาน เขามีลูกน้องกลุ่มอันธพาลมากมาย ดังนั้นโดยปกติแล้วเขาถึงทำตัวกร่างอยู่ตลอด

นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ถูกทำร้ายแต่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย

ในความคิดของคนงาน ทุกคนต่างก็เคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว

แต่ตอนนี้กลับผิดปกติ!

มันบ้าไปแล้วจริงๆ!

ในไม่ช้า ลูกน้องสิบกว่าคนของโจวเห้าก็ถูกเฉินตงจัดการไปมากกว่าครึ่งแล้ว ส่วนอีกครึ่งของที่เหลือก็ตื่นตระหนกและไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีกเลย

เฉินตงที่ยืนอยู่ท่ามกลางชายกลุ่มนั้นกวาดมองไปรอบๆ เขาเช็ดเลือดจากบาดแผลที่มือขวาของเขาบนสูท จากนั้นยกมือขึ้นแล้วดึงเนกไทอีกครั้ง

“จะเอาอีกไหม?”

เสียงพูดที่เย็นชาพร้อมความคารมที่ติดตลก

แต่เมื่อทุกคนได้ยินก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางจิตใจ

พวกเขาเป็นนักสู้อยู่แล้ว การที่มือเปื้อนเลือดเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้สิ่งที่เฉินตงแสดงให้เห็นกลับเลือดเย็นกว่าที่คิด!

“อัดมันสิ อัดมันต่อเลย!”

โจวเห้าที่นั่งกุมหัวอยู่ไม่ไกลก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง

เฉินตงยิ้มจางๆ จากนั้นยื่นมือขวาออกไปที่ลูกน้องเขาคนหนึ่ง

“เอามา!”

ลูกน้องคนนั้นถึงกับตกตะลึงและเดินถอยหลังไป

เฉินตงชี้ไปที่ท่อนเหล็กแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ส่งมันมา!”

ลูกน้องที่ตกใจกลัวอยู่ เขาไม่ลังเลที่จะยื่นท่อนเหล็กในมือให้กับเฉินตงเลย

“ใจนะ”

เฉินตงยิ้มพูด จากนั้นหันเดินไปที่โจวเห้า

ลูกน้องก้มหน้ามองสองมือเปล่าของเขาด้วยความงุนงง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำไมต้องส่งท่อนเหล็กในมือให้กับเฉินตงด้วย

“เพราะคุณทำร้ายคนของผม วันนี้ผมจะเอาขาคุณไปข้างหนึ่ง”

เฉินตงยืนอยู่ตรงหน้าโจวเห้าแล้วพูดอย่างเยือกเย็น

“อย่า อย่านะ……กูเป็นน้องชายของโจวจุนหลงเชียวนะ! มึง……”

โจวเห้าตกใจกลัวและพยายามขอความเมตตาจากเขา

แต่ว่า

ผัวะ!

ท่อนเหล็กก็ฟาดลงมากระแทกกับขาซ้ายของโจวเห้า

เสียงแตกหักที่ชัดเจนของกระดูกทำให้ทุกคนได้ยินแล้วต้องรู้สึกตกใจ

ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของเฉินตงยังคงเหมือนเดิม

ในเสียงกรีดร้องเหมือนหมูที่ถูกเชือดของโจวเห้า

เฉินตงโยนท่อนเหล็กลงแล้วเอนตัวไปหาเขา “ตอนนี้นายรู้แล้วหรือยังว่าอะไรคืออันธพาลในชุดสูท?”

“มึง……มึงมัน……พี่ชายกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ ไท่ติ่งของมึงไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นคนขัดรองเท้าของพี่ชายกูโจวจุนหลงด้วยซ้ำ!” โจวเห้าเจ็บจนหน้ามืดและเหงื่อก็แตกเต็มหน้าผาก แต่เขายังคงตะโกนข่มขู่อย่างเสียงดัง

“งั้นให้พี่ชายคุณนัดเวลามาเลยนะ ผมจะไปตามนัดเอง พอดีอยากให้แกจ่ายเงินค่าสูทชุดนี้หน่อย”

เฉินตงยิ้มพูดอย่างเย้ยหยันแล้วหันมองไปที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ “กลับบ้านกันเถอะ”

เป็นประโยคง่ายๆ แต่เหมือนค้อนหนักที่กระแทกกับหัวใจของคุนหลุนและฟ่านลู่

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset