Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 82 คนตระกูลหวางที่ไม่ยอมแพ้

บทที่ 82 คนตระกูลหวางที่ไม่ยอมแพ้

ช่วงเวลาหนึ่งวันผ่านไป สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะ

ถึงจะเป็นเฉินตงก็ต้องรู้สึกเพลีย

เมื่อนั่งอยู่บนรถของกูหลังไม่นานเขาก็หลับไป

เมื่อรถมาถึงเขตวิลล่าเขาเทียนซาน กูหลังก็ปลุกเฉินตงขึ้นมา

กลับมาถึงบ้าน

แม่ยังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นเฉินตงกลับมา

หลี่หลานเดินเข้ามาบ่นและหยิบเสื้อสูทในมือของเฉินตง “แต่ละวันทำให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนี้ ไม่รักตัวเองหรือไง”

“นี่ไม่ใช่เพราะงานยุ่งหรือไง?” เฉินตงพูดด้วยรอยยิ้มพลางลูบท้อง “แม่มีข้าวเย็นที่ฟ่านลู่ทำให้แม่กินอีกไหม ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย”

“ไม่มีแล้ว แม่จะทำบะหมี่มะเขือเทศไข่ให้ลูกกิน”

หลี่หลานพูดด้วยรอยยิ้ม

เฉินตงไม่ได้ห้าม ตั้งแต่เด็กเขาชอบกินบะหมี่มะเขือเทศไข่ที่แม่ของเขาทำมากที่สุด

ตั้งแต่แม่ป่วยหนัก นี้ก็นานมาแล้วที่เขาไม่ได้กิน

งานพวกนี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่

เฉินตงพับแขนเสื้อขึ้นและเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับแม่ของเขา

“ลูกเข้ามาทำไม? ออกไปพักดื่มน้ำ ที่นี่ให้แม่จัดการเอง” หลี่หลานรู้ว่าเฉินตงทำงานเหนื่อย

เฉินตงยิ้มและพูดว่า “แม่ไม่เป็นไรผมจะทำอาหารกับแม่ ผมไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว”

หลี่หลานยิ้มและชี้ไปที่กระเทียมข้าง ๆ เขา “งั้นช่วยหยิบกระเทียมมาหน่อย”

“ได้ครับ” เฉินตงตอบด้วยรอยยิ้ม

“ยังไงก็ตาม ลูกรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวลู่เด็กคนนั้นไหม? เด็กนั้นเมื่อวานกลับมาทำอาหารให้แม่กินรอจนแม่กินเสร็จ เธอก็รีบหยิบกระติกน้ำร้อนและออกไป แล้วยังมีคุนหลุนอีกคน? เด็กทั้งสองต่างก็ไม่อยู่ แม่อยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียวแม้แต่คนจะคุยด้วยยังไม่มี”

หลี่หลานถามเฉินตงในขณะที่กำลังยุ่งอยู่

เฉินตงไม่อยากให้แม่ของเขากังวล จึงอธิบายด้วยรอยยิ้ม “คงจะเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขาที่ต้องไปจัดการมั่ง”

หลี่หลานพยักหน้าเลิกคิ้วทันทีและมองไปที่เฉินตงอย่างมีเลศนัย “เสี่ยวตง ลูกคิดว่าคุนหลุนและเสี่ยวลู่จะตกหลุมรักกันหรือเปล่า?”

เฉินตงหายใจไม่ออก

ความคิดของแม่เขาโหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า?

หรือ…นี่เป็นปัญหาทั่วไปของคนวัยกลางคน?

เมื่อเห็นดวงตาของหลี่หลานที่เปล่งประกายเฉินตงก็ยิ้มอย่างเชื่องช้า “แม่หยุดพูดถึงพวกเขากันเถอะ ถ้าพวกเขากำลังจะคบกันก็เป็นเรื่องของพวกเขา”

หลี่หลานพูดอย่างตื่นเต้น “ถ้าพวกเขาสนใจกันจริง ๆ แม่ก็จะเป็นแม่สื่อช่วยพูดให้ ถ้าพวกเขาคบกันได้ก็จะดีมาก”

“แม่…………ผมหิว” เฉินตงพูดด้วยความเสียใจพร้อมกับรอยบนหน้าผากของเขา

หลี่หลานรู้ว่าเฉินตงไม่ต้องการพูดเรื่องนี้ต่อ เธอจึงกลอกตาและยุ่งต่อไป

และทำเพียงแค่พึมพำในปากของเธอ “ลูกไม่สนใจแต่แม่สน รอเสี่ยวลู่กลับมาแม่จะถามเสี่ยวลู่ คุนหลุนเด็กคนนั้นดูไม่ฉลาดมากนักแต่เขาก็เป็นคนดีใช้ได้“

เฉินตงเม้มปากพูดอย่างไม่เข้าใจ เขาวางกระเทียมที่สับแล้วเดินออกจากครัว

เขากลัวว่าถ้าคุยต่อแม่ของเขาจะพูดเรื่องเกี่ยวกับคุนหลุนและฟ่านลู่อีก

ไม่นานนักบะหมี่มะเขือเทศไข่ก็พร้อม

เฉินตงได้กลิ่นนี้นิ้วชี้ก็ขยับกินบะหมี่ชามใหญ่จนหมด

หลี่หลานเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ยิ้มและเตือนเฉินตงให้กินช้า ๆ

เธอไม่คิดที่จะบอกเรื่องเมื่อเช้าเกี่ยวกับจาวซิ่วจือและหวางเต๋อให้เฉินตงฟัง

เธอเป็นแม่ที่รักลูกชาย เธอไม่อยากให้เฉินตงกังวลและเหนื่อยมากขึ้น

…………………………

ตระกูลหวาง

ในเวลานี้มีเสียงร้องแสบแก้วหูดังขึ้น

หวางเต๋อนั่งลงบนโซฟาและมองไปที่จาวซิ่วจือที่ซ่อนใบหน้าร้องไห้ของเธอ

ตั้งแต่เธอถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขตวิลล่าเขาเทียนซานไล่กลับลงมา จาวซิ่วจือก็ร้องไห้ตั้งแต่เช้าจนเย็น

หวางเต๋อไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไปแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ร้องไห้พอหรือยัง? ฉันเตือนเธอแล้วเป็นเธอเองที่ไม่ฟัง อยากจะสร้างปัญหา”

เพี้ยะ!

จาวซิ่วจือใช้ฝ่ามือตบหวางเต๋อ

“คุณมันก็ไร้ค่า วันนี้ฉันต้องขายหน้าขนาดนี้ โดนทำร้ายขนาดนี้ คุณไม่คิดจะออกหน้ารับแทนฉัน?”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดของจาวซิ่วจือ หวางเต๋อทำได้เพียงถอนหายใจและไม่กล้าโต้แย้ง

ยิ่งหวางเต๋อถอยห่างมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้จาวซิ่วจือเกลียดมากเท่านั้น

เพียงแค่นั้น

เมื่อหวางเห้ากลับมาเห็นจาวซิ่วจือร้องไห้ สีหน้าของหวางเห้าก็เปลี่ยนไปทันที

“แม่เกิดอะไรขึ้น”

เมื่อเห็นหวางเห้า จาวซิ่วจือยิ่งร้องไห้หนักขึ้นทันที

“โถ่วลูก เสี่ยวเห้าลูกกลับมาแล้ว พ่อกับแม่ถูกทำร้าย……………..”

เปรี้ยง!

หวางเห้าเหมือนถูกฟ้าผ่า

ทันใดนั้นเขาโกรธขึ้นมา “ใคร ใครมันทำกัน? ผมจะไปจักการพวกมัน!”

ท่าทางของหวางเห้า ทำให้จาวซิ่วจือเหมือนจะเจอคนที่เข้าข้างเธอ

เธอร้องไห้ไปและพูดไปด้วย “วันนี้พ่อกับแม่ไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซาน…………….”

“เฉินตง? ไอ้บ้านั้น แม่ ผมจะไปหามันเดี๋ยวนี้!”

สีหน้าของหวางเห้าดูโหดเหี้ยม หันหลังกลับต้องการที่จะออกไป

“กลับมา!”

หวางเต๋อเรียกหวางเห้าและพูดว่า “ไม่ใช่เฉินตง เป็นแม่ของลูกและพ่อที่แม้แต่เขตวิลล่ายังเข้าไปไม่ถึงด้วยซ้ำก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่ออกมาแล้ว”

หวางเห้านิ่งไป

เขากัดฟันพูด “พ่อแม่จะไปไหนทำไมไม่เรียกผมไปด้วย? ถ้าผมอยู่ด้วยพวกมันไม่กล้าไล่พ่อแม่ออกไปแน่นอน”

เรื่องนี้เฉินตงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาจะไปโทษใครได้ ความโกรธที่ลุกขึ้นมาก็ไม่มีที่ลง

เขานั่งซึมบนโซฟา

จาวซิ่วจือยังคงร้องไห้และพูดว่า “แม่จะรู้ได้ไงว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นจะกล้าทำร้ายกันแบบนี้”

ขณะที่พูดจาวซิ่วจือก็ทุบอกและกระแทกเท้าของเธอ “ทำไมชีวิตฉันถึงรันทดเช่นนี้ ลูกสาวของฉันก็ไร้ประโยชน์ สามีก็เช่นกัน ตอนนี้ลูกชายของฉันกำลังจะแต่งงาน ฉันแม้แต่เงินหมั้นของลูกชายก็ยังไม่มี…………….”

หวางเต๋อหน้าแดง เขาก้มศีรษะไม่พูดอะไร

เมื่อหวางเห้าได้ยินถึงเรื่องเงินหมั้น เขาก็ชะงักไป

เขามองไปที่จาวซิ่วจือด้วยความเศร้าใจ “แม่ ผม…ผมจะได้แต่งงานกับเสว่เอ๋อได้เมื่อไหร่กัน?”

“โอ้…พระเจ้า!” จาวซิ่วจือถูกถามแบบนี้ราวกับว่ามีมีดแทงอยู่ในหัวใจของเธอและเธอก็ร้องไห้อีกครั้ง

หวางเห้ามองด้วยความงง

เขาต้องการแต่งงานกับหลินเสว่เอ๋อเพียงคนเดียวเท่านั้น!

แต่ตอนนี้ครอบครัวเขาไม่สามารถหาเงินได้มากขนาดนั้น

หลินเสว่เอ๋อยังคงส่งมาเตือนเขาอีก………..

เขากัดฟันแน่น สีหน้าของหวางเห้าแข็งกร้าวขึ้น “แม่ หรือว่า…ผมจะไปหาเฉินตงพรุ่งนี้ ผมรู้ว่าบริษัทของเขาอยู่ที่ไหน ถ้าเราเอาพี่เขยกลับมาได้ อนาคตครอบครัวของเราจะดีขึ้น”

“ใช่แล้วๆ ไปที่บริษัทของเขา!” จาวซิ่วจือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ

“มันไม่น่าขายหน้าไปเหรอ?” หวางเต๋ออดไม่ได้ที่จะพูด

“ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!”

จาวซิ่วจือเตะเข้าที่น่องของหวางเต๋อ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มและพูดกับหวางเห้า “เสี่ยวเห้า ลูกจำไว้ พรุ่งนี้ตอนไปถึงบริษัทของพี่เขย ลูกต้องใส่ใจเรื่องน้ำเสียงของลูก พูดกับพี่เขยเขาดี ๆ อย่าลืมที่จะขอโทษ อย่าทำให้พี่เขยลูกโกรธเป็นอันขาด”

“แม่ไม่ต้องกังวล” หวางเห้าพยักหน้า นี่มันสำคัญและเกี่ยวข้องกับการแต่งงานของเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะทำพลาด

“เด็กดี เสี่ยวเห้า ลูกเป็นเด็กดีของแม่จริง ๆ”

จาวซิ่วจือยิ้มอย่างมีความสุข “พี่สาวของลูกไม่คิดจะต่อสู้ พี่เขยที่สูงส่งแบบนี้ยังจะทำเขาหลุดมือไปได้ ตอนนี้ในบ้านก็มีแต่ลูกที่รู้เรื่อง พรุ่งนี้ลูกต้องพยายามเอาพี่เขยของลูกกลับมา”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset