Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 88 ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว

บทที่ 88 ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว

การเปลี่ยนน้ำเสียงของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้เฉินตงมีความสุข

บางที…ความรู้สึกระหว่างพวกเขาสองคนในคืนนี้อาจเปลี่ยนไป!

เฉินตงตกลงโดยไม่ลังเล

หลังจากวุ่นวายมาตลอดทั้งบ่าย

เฉินตงเลิกงานก่อนเวลาและรีบไปที่Genting Sky

นี่คือสถานที่ที่กู้ชิงหยิ่งและเขานัดกันทางโทรศัพท์

ในไม่ช้า ร่างของกู้ชิงหยิ่งก็ปรากฏขึ้นที่ประตูGenting Sky

ตาของเฉินตงเป็นประกายขึ้น เขาก็ลุกขึ้นและโบกมือ “เสี่ยวเห้า”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มแล้วเดินมาหาเฉินตงอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่นัดกันตอนทุ่มหนึ่งหรือไง?”

“ฉันอยากมารอเธอ”

เฉินตงยิ้มและพูด “เธอก็มาเร็วเหมือนกัน”

“ฉันก็อยากมารอนายก่อน” กู้ชิงหยิ่งไม่ได้ยิ้มเย็นชาเหมือนแต่ก่อน

สิ่งนี้ทำให้เฉินตงอุ่นใจ

หลังจากสั่งอาหารแล้วทั้งสองก็คุยกัน

บรรยากาศที่สนุกสนาน ทำให้เฉินตงรู้สึกเหมือนกลับไปตอนที่กู้ชิงหยิ่งเพิ่งกลับมาที่ประเทศ

และไม่แคร์การเจอกันก่อนหน้านี้ทันที

หลังจากอาหารบนโต๊ะมาพร้อมแล้วทั้งสองคนก็กินและคุยกัน

เฉินตงมีความสุขเมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งมีความสุข

แต่มีคำพูดหนึ่งของกู้ชิงหยิ่งทำให้เฉินตงนิ่งลงทันที

“เฉินตงฉันจะไปต่างประเทศสักสองสามวัน” กู้ชิงหยิ่งพูด “ไปเยี่ยมพ่อแม่ฉัน”

เฉินตงหัวใจเต้นแรงแต่แสร้งทำเป็นสงบและพูด “ทำไมเธอไปกะทันหันจัง”

กู้ชิงหยิ่งทำตัวไม่ถูก ยักไหล่และยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่เพราะนายดังเกินไปหรือไง?”

เฉินตงนิ่งไปชั่วครู่

ก่อนที่จะตอบกลับ “เพราะการสารภาพรักที่หลงถิงฮัวหยวนหรือไง?”

“ใช่”

กู้ชิงหยิ่งลูบผมของเธออย่างหงุดหงิด “มันไม่ใช่เพราะนายอย่างเดียว ยังมีจากการที่ฉันไล่จางเห้อหมิงออก จางเห้อหมิงเป็นคนที่พ่อของฉันจัดให้ในบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ แต่เมื่อฉันไปถึงจางเห้อหมิงก็จากไป พอพ่อถามไปถามมาก็ไปเจอกับเรื่องที่นายสารภาพรักกลับฉัน”

“บ่ายวันนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีสายจากต่างประเทศโทรมาขอให้ฉันกลับไป”

เฉินตงตาโตทันที

เขาไม่คิดเลยว่าคำสารภาพที่หลงถิงฮัวหยวนจะดึงดูดความสนใจของพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งในต่างประเทศ

หลังจากคิดดูแล้วเฉินตงก็พูดว่า “หรือฉันจะไปกับเธอ”

“นายคิดอะไรอยู่” กู้ชิงหยิ่งพูด

เฉินตงยักไหล่ “ในเมื่อปิดบังไม่ได้ก็ต้องออกไปพูดให้ชัดเจนใช่มั้ย?”

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งเป็นประกาย คิ้วโค้งลงเล็กน้อย “ลืมไปเถอะ ฉันจะอธิบายให้พวกท่านฟังไปก่อน ที่เหลือก็ค่อย ๆ ก้าวไปที่ละก้าวเถอะ”

เฉินตงมองอย่างเหม่อลอย ยิ้มอย่างขมขื่น “อย่างนั้นก็ได้แล้วจะไปเมื่อไร?”

“พรุ่งนี้เช้าบิน” กู้ชิงหยิ่งพูด

“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปส่งเธอที่สนามบิน” เฉินตงฝืนยิ้ม

สีหน้ากู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปและพยักหน้า “โอเค”

หลังกินอาหารเสร็จ

กู้ชิงหยิ่งขับรถกลับบ้านทันที

เฉินตงเดินอยู่บนถนน เดินรับสายลมยามค่ำคืน แต่ในใจกลับรู้สึกเศร้า

เขาคิดว่ากู้ชิงหยิ่งยกโทษให้เขา

แต่กู้ชิงหยิ่งบอกเพียงว่า “ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว” เห็นได้ชัดว่าเธอยังแคร์เรื่องครั้งที่แล้วที่Genting Sky

แต่ว่าเขาก็ไม่คิดจะถามถึงเหตุผล

ในโลกของผู้ใหญ่ บางครั้งการถามมากเกินไปแม้แต่เพื่อนก็อาจจะไม่ได้เป็น

เขายกมือขึ้นเรียกแท็กซี่

หลังจากขึ้นรถแล้ว เฉินตงก็เอนตัวลงบนเบาะมองวิวยามค่ำคืนนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

กู้ชิงหยิ่งกลับมาในช่วงที่เขาทุกข์ที่สุด

ในใจของเขากู้ชิงหยิ่งอยู่ต่ำแหน่งเท่ากับแม่ของเขาอยู่แล้ว

ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งจากไป เหมือนหัวใจของเขาได้จากไป อยู่ดี ๆ หัวใจมันว่างเปล่าขึ้นมา

กลับไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซาน

ห้องนั่งเล่นมีแสงสว่าง

หลี่หลาน ท่านหลง คุนหลุนและฟ่านลู่อยู่ที่นั่นทั้งหมด

ดูทีวีและพูดคุยเรื่อยเปื่อย

เฉินตงยิ้ม สีหน้าของเขาไม่หดหู่เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

ภาพด้านหน้า คือความรู้สึกของการอยู่บ้าน

“แม่ ท่านหลง กำลังพูดอะไรกันอยู่”

เฉินตงยิ้มแล้วเดินไป

“ตงเอ๋อ กลับดึกอีกแล้ว ลูกกินข้าวหรือยัง?” หลี่หลานบ่นแต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์

เฉินตงเห็นดวงตาของแม่เป็นสีแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งร้องไห้

“ผมกินแล้ว ไปกินกับเสี่ยวเห้าข้างนอก” เฉินตงไม่ถามอะไรมาก

นับตั้งแต่ท่านหลงกลับมา เมื่อกี้ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบหน้ากัน

พูดเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นแล้วดวงตาแม่จะแดงขึ้นก็เป็นเรื่องของความรู้สึก

“แล้วเสี่ยวเห้าล่ะ”

หลี่หลานมองไปด้านหลังเฉินตงแสร้งทำเป็นผิดหวัง “ผู้หญิงดีขนาดนี้ ทำไมไม่พากลับบ้านมาด้วย”

เฉินตงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับและกลอกตา “แม่ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยพบว่าแม่จะเป็นแบบนี้?”

คำพูดนี้ทำให้พวกเขาทั้งสี่คนหัวเราะ

เฉินตงก็หัวเราะ

นั่งคุยกันสักพัก

เฉินตงขอตัวกลับห้องไปก่อน

เขานอนอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้คิดจะหลับ มองขึ้นบนเพดาน คิดถึงสิ่งที่ท่านหลงพูดเมื่อตอนเที่ยง

ก่อนหน้านี้ เขาคงมองตระกูลเฉินธรรมดาเกินไปแล้ว

แม้ว่าพ่อที่ไม่เคยพบกันจะเป็นหัวหน้าของตระกูลเฉิน แต่เขาก็ยังไม่ได้คุมทุกอย่างในตระกูลเฉินเลย

การเกิดของเขากลายเป็นจุดที่ทำให้คุณหญิงใหญ่เริ่มขัดขว้างพ่อของเขา

ยังไงเขาก็ไม่ได้แคร์เรื่องนี้มากนัก

ตราบใดที่โครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองของไท่ติงขายที่ได้ทั้งหมด เขามั่นใจว่าจะยืมลมตะวันตกนี้เพื่อทะยานขึ้น

แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉิน เขาก็ไม่กลัว

ลูกสวะและชนชั้นสูง ไม่ใช่ว่าจะไม่มีช่องว่างที่ให้ผ่านเข้าไปได้!

สิ่งที่เฉินตงสนใจคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น!

ตามที่ท่านหลงเล่า พ่อของเขากลายเป็นอันดับหนึ่งในตระกูลเฉินเพียงตอนอายุ 20 ปี เป็นเรื่องที่หน้าภูมิใจอย่างมาก

แต่ทำไมถึงได้มาอยู่กับแม่ได้?

เหตุใดมรดกที่ทิ้งไว้จึงหายไปหลังจากพ่อจากไป?

เขาไม่เชื่อว่าแม่ของเขาจะทำงานสองสามอย่างทุกวันเพื่อให้รอดจากความเจ็บป่วยและทิ้งมรดกที่พ่อของเขาทิ้งไว้

คำพูดของท่านหลง เหมือนจะพุ่งไปที่แม่อีกครั้ง

เขาไม่สามารถจัดการความสงสัยนี้ได้ ทำได้เพียงรอโอกาสที่เหมาะสมที่จะถามแม่ของเขา

คำตอบ อยู่ในใจของแม่

ในตอนนั้นเอง เฉินตงนึกถึงกู้ชิงหยิ่งอีกครั้งและรู้สึกเศร้าอีกครั้ง

เดิมทีต้องเป็นวันที่สงบสุข แต่เพราะการกลับมาของท่านหลงและการจากไปของกู้ชิงหยิ่ง อารมณ์ของเขาก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อีกครั้ง

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เฉินตงขมวดคิ้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วตะลึง

มันมาจากโจวเย่นชิว!

ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมโจวเย่นชิวโทรมา?

เฉินตงรับโทรศัพท์พร้อมความสงสัย “ประธานโจว มีอะไรเหรอ?”

“เฉินตงคืนพรุ่งนี้นายว่างหรือไหม? มาฉลองกันสักหน่อยเถอะ และให้ฉันได้เป็นคนไกล่เกลี่ยหน่อย” โจวเย่นชิวพูดด้วยรอยยิ้ม

เฉินตงขมวดคิ้ว “ไกล่เกลี่ยอะไร?”

โจวเย่นชิวกลั้นเสียงหัวเราะของเขาและพูดเสียงเข้ม “เย็นวันพรุ่งนี้ โจวจุนหลงจะมาด้วย ฉันรู้ว่านายกับเขาบาดหมางกัน ดังนั้นฉันอยากเป็นคนกลางที่ช่วยจัดการปัญหาที่แก้ไม่ได้”

เฉินตงเลิกคิ้วและลังเล

ก่อนหน้าเป็นเพราะคุนหลุนและฟ่านลู่ ทำให้เขากับโจวจุนหลงทะเลาะจนไม่สามารถที่จะคุยกันได้

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่น จากที่เขาดึงมีดออกจากต้นขาโจวจุนหลง

ความแค้นนี้ของโจวจุนหลง คงไม่มีวันปล่อยไป สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือหยุดความยุ่งเหยิง

ไม่มีทางพูดถึงการไกล่เกลี่ยได้เลย!

แต่ว่า โจวเย่นชิวจะช่วยเขา เขาก็ต้องไว้หน้าเขา จึงพยักหน้าตอบ “โอเคพรุ่งนี้กี่โมง ฉันจะไปที่นั่นแน่นอน”

“สองทุ่ม!”

อีกด้านหนึ่ง โจวเย่นชิววางสาย

ดันแว่นที่ดั้งจมูกเขายิ้มแล้วมองคนตรงหน้า “คืนพรุ่งนี้นายจะได้เห็นเขาแล้ว”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset