ーในที่สุด ก็มาถึงวันก่อนงานโรงเรียนแล้ว
ทุกคนต่างให้ความร่วมมือกันอย่างเป็นพิเศษ ทำให้การเตรียมการทุกอย่างทันเวลา
เพราะแบบนั้น ทำให้ดูเหมือนพรุ่งนี้น่าจะจัดการแสดงได้อย่างไม่มีปัญหา
(ไม่ค่อยได้คุยกับชิโฮะเลยนา…..)
นั่นเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ชวนให้กลุ้มใจ
แต่ว่า คงเป็นเพราะลูบหัวไปก่อนหน้านี้ ทำให้ชิโฮะดูสงบมากๆ ก่อนหน้านี้เธอมักจะเอาแต่ทำหน้าบึ้ง แต่พักนี้เธอดูจะมีสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น พอสบตากันเธอก็จะโบกมือมาให้เบาๆ ดูจะอดทนได้ดีกว่าแต่ก่อนมาก
เลยรู้สึกดีใจ เพราะสามารถมาจนถึงวันนี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
การทำให้ชิโฮะรู้สึกสบายใจนั้น เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้อยู่รอดต่อไปได้
กลับกัน เหล่าคณะของริวซากิดูเหมือนจะมีความอึดอัดกันอย่างมาก
ไม่รู้ทำไม เหมือนพวกฮาเร็มนั้นแตกแยกออกจากกัน พักนี้ริวซากิเอาแต่ติดแมรี่ซัง
ยุซุกิกับคิราริที่มีความได้เปรียบสูงสุดก็ตีตัวออกมาเหมือนกัน สถานการณ์มันย่ำแย่ยิ่งกว่าตอนที่ริวซากิจะสารภาพรักกับชิโฮะซะอีก
ยิ่งกว่านั้นคิราริดูไม่มีความร่าเริงอยู่เลย
พอคิดว่าเธอไม่เหลือพลังใจ ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่ร้านหนังสือแล้ว…..ครั้งนี้พอถูกริวซากิทิ้ง ก็คงจะหวนนึกถึงตัวเองสินะ
นี่น่ะเป็นผลลัพธ์ของคนที่ไม่มีความเป็นตัวเองไงล่ะ
เธอไม่ได้มีตัวตนใดๆ เป็นเหมือนดั่งวิญญาณที่ไร้ชีวิตจิตใจไร้ที่สิงสู่
พอเห็นเธอถลำลึกมาขนาดนี้แล้ว มันก็มองเห็นได้แต่ความน่าเจ็บปวด
แต่ว่า ผมก็ไม่ได้มีใจคิดจะยื่นมือไปช่วยหรอก เพราะอาสึสะเป็นน้องสาวผมเลยใจดีกับเธอ แต่ว่าคิราริไม่ใช่ ถึงจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่ผมก็ไม่สามารถแบกรับเรื่องของเธอได้
อีกอย่าง ถ้าหากเข้าไปช่วยเหลือแล้วล่ะก็…..มันยิ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นไปตามที่แมรี่ซังคิด
โครงเรื่องของเธอดูจะกำหนดเอาไว้ว่า’ฮาเร็มของริวซากิมาชอบผม’ ถ้าผมยื่นมือออกไปช่วยคิราริล่ะก็ กลัวว่ามันจะเป็นไปตามนั้น
ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ชิโฮะต้องรู้สึกเศร้าแน่ๆ
ถ้าผมไปทำตัวสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นล่ะก็ จะเป็นการทำร้ายชิโฮะ
ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น จึงพยายามรักษาระยะห่างกับคิราริเอาไว้
เห้อ…..ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ มันก็ไม่ต่างอะไรกับแบบที่แมรี่ซังต้องการเลยสิ
ต้องแรกก็ดูมีท่าทีว่าจะพังไม่เป็นท่าอยู่หรอก แต่เป็นเพราะชิโฮะทำให้เรื่องราวของเธอนั้นกลับมาได้ สภาพในตอนนี้นั้นมันก็เป็นเป็นเหมือนดั่งเครื่องบินที่เพิ่งออกจากสนามบิน
หากมีสภาพอากาศแปรปรวน ก็อาจจะทำให้สูญเสียการควบคุมได้ หากเกิดปัญหา ก็อาจจะต้องลงจอดฉุกเฉิน แต่ทว่า ในเวลานี้นั้นยังไม่มีท่าที่ว่าจะเกิดเรื่องพวกนั้น และเรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป
“นิฮิฮิ หยุดยิ้มไม่ได้เลยน้า……ทู้กกกอย่างเป็นเหมือนที่ฉันคิดเลยนะ? เน่ โคทาโร? ไม่คิดว่างั้นเหรอ?”
แมรี่ซังอารมณ์ดีสุดๆ
เธอยิ้มอย่างพอใจในรถลีมูซีน เธอนั่งกอดอกไขว่ห้างดูเหมือนกับกำลังวางท่าอยู่
“ครับครับ จริงด้วยสินะครับผิดจากที่ผมคาดไว้เลยครับ ขอโทษนะครับ…….เท่านี้พอใจยัง? ถ้าพอแล้วก็ปล่อยผมกลับไปเถอะ”
วันนี้เอง ก็โดนบังคับให้มาด้วยกันเช่นเคย
เนื่องจากวันนี้เป็นวันก่อนเริ่มงานโรงเรียน โรงเรียนจึงอนุญาตให้อยู่โรงเรียนต่อได้แม้จะล่วงเลยเวลาที่อนุญาตมาแล้วก็ตาม เพราะแบบนั้นทำให้ผมอยู่ถึงเวลา 2ทุ่ม
ส่วนชิโฮะนั้นมีเคอร์ฟิวเลยกลับบ้านไปแล้ว
ตอนแรกก็ว่าจะรีบกลับบ้านคนเดียวแท้ๆ แต่ดันโดนแมรี่ซังดักเอาไว้ระหว่างทาง
“อาา ในที่สุด พรุ่งนี้ผลงานชิ้นเอกของฉันก็จะสมบูรณ์แบบแล้วนะ? ตอนนี้ตื่นเต้นสุดๆเลยล่ะ นั่นไง ตอนที่ชิ้นงานที่ใกล้สมบูรณ์มันเป็นช่วงที่งานจะดีๆขึ้นสุดๆไปเลย เหมือนๆแบบนั้นและนะ”
“……ผมไม่ใช่ครีเอเตอร์เพราะงั้น ผมไม่เข้าใจความรู้สึกพวกนั้นหรอกนะ”
“น่าน่า ช่วยอย่าทำหงุดหงิดแบบนั้นทีได้มั้ย? ตอนนี้แค่พูดกับฉันอย่างเดียวก็พอแล้ว ตัวประกอบอย่างนาย เรื่องแค่นั้นก็ทำได้ใช่มั้ยล่ะ?”
แมรี่ซังเนี่ยยังนิสัยแย่ไม่เปลี่ยนเลยนะ แค่คุยกับเธออย่างเดียวก็รู้สึกพาให้เหนื่อยได้แล้ว
เฮ่อ…..อยากกลับไวๆจังเลยน้า……