ชิโมสึกิเดินตามหลังมาอย่างช้าๆ
“อุฟุฟุ เป็นครั้งแรกที่ได้มาบ้านเพื่อนเลย เน่ๆ นากายะมะคุงรู้สิ่งที่ต้องทำในเวลาแบบนี้มั้ย? มีธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติ ถ้ามาบ้านเพื่อนผู้ชายครั้งแรกอยู่นะ? ฉันเห็นมาจากอนิเมะ แล้วอยากลองทำดูมาตลอดเลย”
เธอคาดหวังอยากเห็นห้องของผมมาก จึงต้องพามาอย่างช่วยไม่ได้
เพราะชิโมสึกิเป็นคนแปลกๆ เธอเลยคิดว่าผมเป็นคนพิเศษ เพราะอย่างงั้นพอถูกเธอบอกว่า อยากเห็นห้อง ก็ปฏิเสธไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าเธอจะตั้งหน้าตั้งตาที่จะเห็นห้องของผมมาก ย่างก้าวของเธอช่างดูนุ่มและเบา ราวกับเธอกระโดดโลดเต้นอยู่
“ธรรมเนียม? ไม่รู้เลยนะ…..เพราะไม่ค่อยได้ดูอนิเมะด้วย”
“เอ๋? นากายะมะคุงเอาจริงหรอเนี่ย? ฉันไม่คิดว่าชีวิตมันมีความหมายหรอกนะ ถ้าไม่ดูอนิเมะเนี่ย…..หรือว่านากายะมะจะตายไปแล้ว? แบบนั้นแย่เลย เพราะนากายะมะคุงเป็นเพื่อนของฉันต้องฟื้นคืนชีพกับมานะ”
“ไม่สิ ยังไม่ตายหรอกนะ”
ยิ้มแห้งๆแล้วตอบไป เธอก็พ่นลมออกมาทางจนูกอย่างดีใจ
“แน่นอนว่ารู้อยู่แล้ว เมื่อกี้เป็นมุกนะ? ถ้าเป็นไปได้อยากให้นากายะมะคุงตบมุกเป็นภาษาคันไซว่า’ยังบ่ตายนะ’นะ แต่เอาเถอะให้คะแนนแล้วกัน ฉันน่ะ ชอบรายการตลก เลยค่อนข้างละเอียด”
(คันไซก็อยากแปลให้มันเป็นอีสานอยู่นะครับแต่ผมไม่ค่อยรู้ก็เลยเอาไปแบบนี้ละกัน)
งานอดิเรกเธอนี่ เยอะเอาเรื่องเลย
และก็ เธอดูจะเป็นประเภทที่เพราะแค่รู้รอบด้านหลายอย่างก็เลยเข้าใจผิดว่าเข้าใจแต่ละอย่างอย่างดี
อืม….เอาเถอะ ไม่ว่าจะมุกหรือตบมุก ผมก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วละนะ เพราะชิโมสิกึนั้นบ๊องเอาเรื่อง เลยทำให้คุณภาพของสิ่งที่เธอทำออกมาดูต่ำอย่างคาดไม่ถึง
เกิดนั่นเกิดนี่ และก็มาถึงห้องผมจนได้
เพราะว่าคุยกัน เลยทำให้ก้าวเท้าช้าลงจนมาถึงช้า
ผมสงสัยว่าชิโมสึกิอาจจะเปลี่ยนใจหรือป่าว แต่ว่าเธออยู่ในสภาพตื่นเต้นพร้อมเข้าห้องผมเหมือนเดิม
“ที่นี่สินะ? ถ้าอย่างงั้น ขอรบกวนด้วยนะค้า! เอาล่ะ ได้เวลาเฉลยคำตอบแล้ว…..ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติเป็นอย่างแรกเมื่อมาห้องของผู้ชายครั้งแรกก็คือーーตามล่าหนังสือลามก! ในอนิเมะก็เป็นเรื่องปกติด้วย เลยอยากจะลองดูบ้าง”
ชิโมสึกิเข้าไปในห้องอย่างภูมิใจ
อารมณ์เธอคงจะพุ่งสูงขึ้นสินะ เธอถึงเสียงดังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
เพราะอยู่กันแค่2คนด้วย แน่นอนว่าไม่มีอาการเขินอาย
คงเป็นเพราะอาการอุจิเบงเคสินะ เธอตอนนี้ดูกระตือรือร้นอย่างมาก
“เอาล่ะ อยู่ตรงไหนนะ!? ใต้เตียง? หรือว่าในสุดของลิ้นชัก? หรือจะในตู้เสื้อผ้า? อุฟุฟุ ก่อนหน้านี้เพิ่งดูหนังนักล่าสมบัติมา เลยเก่งเรื่องหาสมบัตินะ? ไม่มีของที่ฉันหาไม่ได้หรอก!”
พูดเสร็จ ชิโมสึกิเริ่มทำการค้นห้องของผม
ผมจ้องมองเธออย่างเหม่อๆ
ถ้าเป็นปกติอาจจะลุกลี้ลุกลนก็ได้…..แต่ว่าน่าเสียดาย ไม่มีเหตุการณ์น่าสนใจอะไรเกิดขึ้นหรอก
ก็เพราะ ผมไม่มีงานอดิเรก
แต่เดิม ผมก็ไม่มีอะไรที่ชอบอยู่แล้วด้วย
เกี่ยวกับหนังสือลามก เอาตรงๆผมก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับมันเท่าไร
เพราะเป็นสันดานของตัวประกอบที่น่าเศร้าล่ะมั้ง…..ผมน่ะไร้สีสัน
ทั้งหลักการและความคิดที่เรียกได้ว่าเป็นบุคลิกส่วนตัวนั้น เหมือนถูกตั้งค่ามาให้ไม่มี…..จนกลายเป็นดั่งเมต้า อารมณ์ประมาณนั้น
เพราะงั้น ถึงจะไม่ดีกับเธอที่ตื่นเต้นอยู่ก็ตาม…..แต่ถึงเธอจะหาในห้องของผมเท่าไร ก็ไม่มีของที่น่าสนใจหรอก
“คือว่านะ ชิโมสึกิ? โทษที แต่ไม่มีหนังสือลามกหรอกนะ?”
ถึงจะไม่ดี แต่ก็ต้องตอบไปตรงๆ
“ผมไม่มีงานอดิเรกหรือชอบอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ…..เพราะงั้น ถึงไม่มีพวกสิ่งบรรเทิงอะไรแบบนั้น”
ขณะที่พูด ก็รู้สึกสมเพชตัวเองด้วย
ผมที่ไม่เหมือนคนปกติเนี่ย อย่างที่คิดเป็นได้แค่ตัวประกอบ
ถ้าห้องผมโดยรวมแล้ว จะรู้ว่าไม่มีอะไรบอกลักษณะของตัวผมเลย
เฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ในห้องมีแค่ เตียงนอน โต๊ะเรียน ตู้เสื้อผ้า และก็ชั้นหนังสือเท่านั้น
ส่วนสิ่งของต่างๆก็มี อุปกรณ์การเรียน ชุดเปลี่ยน ของใช้บนเตียง ที่เหลือก็แค่พวกของใช้ประจำวัน ที่ไม่ได้พิเศษอะไร
ห้องที่น่าเบื่อแบบนี้ อย่างที่คิดไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมสำหรับชิโมสึกิเท่าไร
อย่างไงก็ตาม เริ่มรู้สึกอยากออกจากห้องแล้ว เพราะคิดว่าไม่ดีถ้าจะให้ผู้หญิงแสนวิเศษอย่างชิโมสึกิอยู่ในที่แบบนี้
แต่ว่า ชิโมสึกิกับยิ้มอย่างไม่ถือสา ให้ผมที่ต่ำต้อย
“มู่ว เข้าใจแล้ว….ถึงจะน่าเสียดาย แต่คงทำตามที่หวังไม่ได้สินะ อูว ถึงจะตั้งตารอก็เถอะ แต่ช่วยไม่ได้นะ ไม่มีงานอดิเรกนี่ นากายะมะคุงเป็นคนที่แปลกจังเลยนะ รู้สึกสนใจและตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมอีก”
ต่อหน้าผม ชิโมสึกิไม่เคยทำสีหน้าขุ่นหมองเลย
สิ่งที่ผมคิดว่าไม่ได้เรื่อง กับกลายเป็นเสน่ห์สำหรับเธอ
ผู้หญิงอย่างเธอราวกับเป็นนางฟ้า
“ถ้าอย่างงั้น ฉันจะสอน’เรื่องสนุก’หลายๆอย่างให้เอง หรือก็คือฉันเป็นอาจารย์เรื่องงานอดิเรก….อุฟุฟุ วิเศษไปเลยนะ ฉันเองก็เล่นคนเดียวมาตลอดอยู่แล้วด้วย เลยอยากเล่นกับเพื่อน แบบนี้คิดว่า วิน-วิน ทั้งคู่นะ!”
สอนงานอดิเรกเนี่ย…..นั่นน่ะ พูดง่ายๆก็คืออยากจะเล่นด้วยกันไม่ใช่เหรอ?
ผมแอบคิดอย่างนั้นแป๊ปนึง แต่ก็รู้สึกยินดีที่เธอยื่นข้อเสนอมาให้
มันจะเป็นไปได้มั้ยนะที่จะเติมสีสันให้ตัวประกอบที่ไร้สีสันแบบนี้
ถ้าหากว่า ตัวประกอบอย่างผมสามารถมีบุคลิกเป็นของตัวเองได้ล่ะก็……นั่นน่ะ คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
ถ้าหาก ผมเปลี่ยนแปลงตัวตนของตัวเอง และก้าวขึ้นสู่เวทีเนื้อเรื่องโดยไม่ใช่จุดยืนของตัวประกอบล่ะก็
เวลานั้น ผมคง…..สามารถมองชิโมสึกิในมุมมองที่ไม่เหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน
พูดตามตรง ตอนนี้ถึงจะอยู่ในฐานะเพื่อน แต่ก็ยังหวั่นๆอยู่ไม่น้อย
ถ้าเกิด เท่าเทียมกว่านี้……อย่างเช่น ผมคิดว่าถ้าผมมีความกล้ามากพอที่จะบอก’ชอบ’เธอได้คงดี……