ก่อนหน้านี้ ชิโมสึกิยังกระปี้ประเป่าและพูดเก่งอยู่เลย แต่พออาสึกลับบ้านมา เธอก็กลายเป็นคนเงียบขึ้นทันที เหมือนกับแมวที่คนฝากเลี้ยงแล้วเอาแต่กระสับกระส่าย
เหมือนอาการขี้อายจะถูกใช้งานดีเลย
บางทีเธอคงไม่สบายใจล่ะมั้ง เธอเลยตัดสินใจขอกลับไปก่อน
“ถะ ถ้างั้น เจอกันพรุ่งนี้นะ…..บ๊ายบาย นากายะมะคุง วันนี้ขอบคุณนะ สนุกมากเลย อ๊ะ แต่ว่า สัญญานะ ว่าถึงฉันจะไม่อยู่แล้วแต่ก็จะไม่จู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่น?”
พอเธอกระซิบข้างหูเสร็จ เธอก็ไป
“….!”
แต่ดูเหมือนเธอคงรู้สึกอึดอัดถ้าผ่านอาสึสะไปแบบเงียบๆ ระหว่างที่หน้าแดง เธอก็ก้มหัวให้อาสึสะ
“อะ อืม ยินดี……”
อาสึสะก็ก้มหัวให้ จากนั้นชิโมสึกิก็ยิ้มอย่างกระวนกระวายและหนีออกประตูไป
เหลือไว้เพียงแค่ผมกับอาสึสะ
น้องสาวที่นานๆทีจะกลับมาบ้าน มองตามหลังชิโมสึกิที่ออกไป
“….รู้สึกเหมือนเพิ่งเคยเห็นชิโมสึกิซังทำหน้าแบบนั้นครั้งแรกเลยนะ”
กะแล้ว แม้แต่อะสึสะ สำหรับเธอก็คงคิดว่าเป็นสาวที่เงียบมากละมั้ง
ทั้งที่คิดว่าเป็นสาวไร้อารมณ์ราวกับน้ำแข็งแท้ๆ พอได้เห็นเธอหน้าเขินและกระวนกระวายแบบนั้น ก็ไม่แปลกที่จะทำอะไรไม่ถูก
“ปกติเป็นคนไม่พูดด้วย แล้วเรียวมะโอนี่จังก็บอกว่า’ชิโฮะชอบอยู่คนเดียว’ ก็เลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยเท่าไร…..แต่ดูเหมือนจะสนิทกับโอนี่จังสินะ”
“อา อืม……นั่นสินะ”
ตอบกับอาสึสะไป ระหว่างที่เกาแก้มตัวเอง
พูดตามตรงรู้สึกอึดอัดไม่มากไม่น้อยไปกว่าตอนอยู่กับชิโมสึกิเลย ขอบคุณสิ่งนั้น ทำให้ตอนนี้แม้แต่จะนั่งโซฟายังทำไม่ได้ และได้ยืนแช่อยู่อย่างนั้น
ก็เพราะนี่เป็นการคุยกันแบบ’พี่น้อง’ครั้งแรกในรอบหลายวันเลย
พวกเราเคยสัญญากันว่าถ้าอยู่ข้างนอกจะเป็น’คนแปลกหน้า’ เป็นตอนหลังจากพิธีเปิดภาคเรียนจบและอาสึสะได้พบกับริวซากิ…..เธอบอกว่า ‘จะรักริวซากิคนเดียว’ พอเธอตัดสินใจได้ ก็แยกจากกับผม
อาสึสะเหมือนจะคิดว่า ถ้าหากยังมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอยู่ ตัวตนของริวซากิจะไกลเกินเอื้อมจนตามไม่ทันได้
‘โอนี่จังในอุดมคติที่อาสึสะตามหาน่ะ บางทีอาจจะไม่ใช่โอนี่จังก็ได้ ริวมะซังน่ะ อาสึสะคิดว่าเป็นโอนี่จังที่แท้จริง’
ผ่านมาได้แค่2เดือน หลังจากเธอพูดแบบนั้นมา
แต่ผมคิดว่ามันผ่านมานานแล้วหลังจากตอนนั้น
ตั้งแต่ตอนนั้น เราก็สัญญากันว่าจะเป็น’พี่น้อง’กันเฉพาะตอนอยู่ที่บ้าน
พออยู่นอก ความสัมพันธ์พวกเราก็ลดลง ขนาดเธอขออยากให้เรียกว่า’นากายะมะซัง’เหมือนคนแปลกหน้า
แต่ว่า อาสึสะก็ยังอาจจะอึดอัดอยู่เล็กน้อย…..เธอไม่อยากที่จะเจอหน้าผม และก็เริ่มหมกตัวอยู่ที่บ้านริวซากิ
เธอไปค้างเกือบทุกวันและสนุกสนานกับ’ริวมะโอนี่จัง’สุดที่รักของเธอ
เพราะงั้น ไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับมาวันนี้
“เกิดอะไรขึ้นหรอ? แปลกดีนะ ที่กลับมา”
หรือว่า สภาพร่างกายเธอจะไม่ดี?
ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็อยากให้พักผ่อน……เป็นห่วงเรื่องนั้นอยู่ แต่ดูเหมือนเหตุผลจะไม่ใช่อย่างงั้น
“ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรหรอก…..แต่ว่าวันนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์น่ะ เพราะแบบนั้นก็เลยกลับมา…..ขอโทษนะ มารบกวนรึเปล่านะ?”
“ไม่หรอก อย่างไงที่นี่ก็เป็นบ้านอาสึสะอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก
ถึงผมจะเป็น’โอนี่จัง’ในอุดมคติของเธอไม่ได้ ถึงจะเป็นแค่ของปลอมก็ตาม…..แต่เรื่องที่เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
“ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็พูดมาเลย ถ้าเป็นกำลังให้ได้ จะช่วยเอง”
คนที่ผมครั้งหนึ่งเคยชอบนั้น ไปไกลเกินกว่าจะตามทันแล้ว
ตอนนี้เธอไปชอบคนที่ไม่ใช่ผม และก็ดูเหมือนเธอจะยอมมอบชีวิตเพียงเพื่อแค่คนคนนั้น
ผมอาจจะทำให้เธอมีความสุขไม่ได้แล้วก็ได้
ผมถูกจำกัดสิทธิให้เป็นพี่ชายได้แค่ในบ้าน….เพราะงั้นอย่างน้อย ตอนอยู่ในบ้านก็อยากให้เธอเป็นน้องสาวที่ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็ง
แต่บางที อาสึสะอาจจะไม่ได้หวังแบบนั้น
เธอส่ายหัวแบบช้าๆ
“ไม่เป็นไรหรอก หนูน่ะ ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะอ้อนโอนี่จังได้อีกแล้ว…..ไม่ต้องใส่ใจหรอกนะ? ขอโทษด้วยนะ ได้รับความใจดีมาตลอดเลย”
เหมือนเธอจะเตรียมใจมานานแล้ว
เหมือนจะตัดสินใจเอาไว้แล้วว่า จะไม่ยุ่งกับผู้ชายคนอื่นนอกจากริวซากิ และก็จะใช้ทุกอย่างที่มีรุกเขา
….อา ทนดูไม่ได้เลย
เพราะเป็นน้องสาวของตัวเอง เลยมองตรงๆไม่ได้เป็นพิเศษ
ทนดูไม่ได้เลย
มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าจริงๆ เวลามองดูเธอ
นางเอกรองนั้น……ผมคิดว่าเป็นตัวตนที่น่าเวทนามากกว่าตัวประกอบซะอีก…….