ทำแกงกระหรี่กันเสร็จ แต่ละกลุ่มก็ต้องแบ่งกันกินด้วยกัน
เวลาแบบนี้นั้น ตำแหน่งที่นั่งนั้นสามารถแบ่งได้ตามบทบาทของคาแรคเตอร์คนนั้นๆ
อย่างแรก คนที่นั่งที่นั่งด้านในสุดนั้นกับไม่ใช่พระเอกของเราอย่างน่าประหลาดใจ
(ที่นั่งด้านในสุด ตามมารยาทของญี่ปุ่นเป็นที่นั่งชั้นสูงที่สุดไว้ให้สำหรับผู้อาวุโสหรือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดนั่ง)
“”…………””
ฮานะกิชิและอิกุระยิ้มด้วยสีหน้าคลุมเคลืออยู่ตลอดเวลา
พวกเขานั้นถ้ามีเรื่องให้ทำหรือให้พูดก็จะพูดตามปกติ แต่ถ้าไม่มีอะไรพิเศษก็จะปล่อยตัวเองไปตามสถานการณ์
เพราะอย่างงั้น เมื่อถึงเวลากิน เพื่อที่จะได้นั่งเร็วที่สุด ก็เลยนั่งที่นั่งในสุดตามธรรมชาติ
อีกอย่างถ้ามองอีกมุมนึง จะมองว่าเป็นการนั่งที่นั่งส่วนเกินที่เหลือก็ได้ หรือก็คือตัวประกอบนั้นจะนั่งก่อนนั่งหลังไม่ได้เกี่ยวกับเจตนาเลย
อืม……ถึงจะพูดถึงโต๊ะแต่ไม่ใช่ที่นั่งแบบในร้านซักหน่อย ก็แค่เก้าอี้กับโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางแจ้งเท่านั้นเอง
แต่เพื่อความสะดวก ให้ที่นั่งด้านในสุดเป็นที่นั่งระดับสูงไปก่อนละกัน
ผมเองก็เป็นตัวประกอบเหมือนกัน ดังนั้นจึงตั้งใจจะตามฮานะกิชิและอิกุระ
แต่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งขัดขวาง และกันไม่ให้ผมไปนั่ง
แน่นอนว่าคือนางเอก ชิโมสึกิ ชิโฮะนั่นเอง
“ชะ ช่วยรอนิดนึงนะ……อย่าเพิ่งไปนั่งเลย”
เธอจิกชุดผมด้วยสีหน้าลนลาน
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ……แต่ผมถือข้าวกับแกงกะหรี่มาแล้วด้วย ก็อยากจะรีบนั่งนะ
“ขอร้องล่ะ นากายะมะคุง……เวลาแบบนี้ คนนั้นต้องบังคับให้นั่งติดกันแน่ๆ นากายะมะคุง ช่วยเป็นบาเรียให้ที”
…..อา อย่างนี้นี่เอง
ดูเหมือนนางเอกจะไม่อยากนั่งข้างพระเอก
ก็จริงอยู่ว่าถ้าปล่อยมันไปตามสถานการณ์ ก็คงจะเป็นแบบนั้น
แต่ว่า ชิโมสึกินั้นฝืนโชคชะตา
“นี่ ริวมะโอนี่จังนั่งสิ มากินด้วยกันเถอะ”
ระหว่างนั้น พระเอกก็ถืออาหารมาถึงแล้ว
จากนั้น อาสึสะที่นำหน้านางเอกคนอื่นอยู่1ก้าว ก็ได้ออกตัวนั่งข้างริวซากิอย่างรวดเร็ว
อาสึสะนั่งลงข้างๆฮานากิชิ และดึงริวซากิมานั่งข้างๆ
“ดะ อย่าดึงสิ……ถึงไม่บอกก็นั่งอยู่แล้ว ให้ตายสิ ไม่ไหวเลย”
ริวซากิยิ้มแห้งๆ พร้อมทั้งนั่งลงโต๊ะที่กล่าว แน่นอนว่าอาสึสะอยู่ข้างๆ
แต่ทว่า ที่นั่งที่เหลืออยู่อีกข้างนั้น คิรารินั่งลง
“ถ้างั้น เรานั่งฝั่งนี้ละกัน~”
“เฮ่อ…..เพราะมัวแต่เก็บทำความสะอาด เลยอดนั่งข้างริวมะซังเลยค่ะ……แซงหน้าคนอื่นมันขี้โกงนะคะ”
ถ้าฝั่งขวาเป็นอาสึสะ ฝั่งซ้ายเป็นคิราริ ที่ที่ยุซุกิจะนั่งได้ก็มีแค่ด้านหน้าเท่านั้น เธอถอนหายใจและนั่งฝั่งตรงข้ามริวซากิ
ด้วยเหตุนี้ ริวซากิจึงถูกล้อมรอบไปด้วยนางเอกรอง ทำให้ชิโมสึกิสบายใจได้
“ฟู่ว โชคดีจัง…..ถ้างั้น นากายะมะคุงนั่งสิ?”
ที่ดังกล่าวนั้นคือข้างยุซุกิ
ไม่สิ แต่ว่า……อยากให้ลองนึกดูดีๆ ตอนนี้นั้นที่นั่งเป็นประมาณนี้
ฮานะกิชิ , อาสึสะ , ริวซากิ , คิราริ
อิกุระ , ว่าง , ยุซุกิ , ว่าง
ใช่แล้ว ที่ข้างๆอิกุระว่างอยู่ ถ้าพูดถึงบทบาทตัวละครแล้วล่ะก็ที่นั่งนั้นควรเป็นของผม
แต่ว่า ตรงนั้นดูเหมือนชิโมสึกิจะไม่ชอบ
“…..หรือว่า คิดจะกินข้าวไปพร้อมดูใบหน้าที่น่ารักของน้องสาวไม่แท้หรอ? ไม่ได้นะ เรื่องแบบนั้นไม่ยอมให้ทำหรอก”
จะว่าไป เธอก็มีด้านยันเดเระอยู่ด้วย
ผมไม่ค่อยได้คุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยได้เห็นเธอแสดงอาการออกมา แต่อยู่ดีๆก็ปรากฎออกมาอย่างนี้ทำให้รู้สึกกลัวนิดหน่อย
แน่นอนว่า ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว สุดท้ายที่นั่งก็กลายเป็นแบบนี้
ฮานะกิชิ , อาสึสะ , ริวซากิ , คิราริ
อิกุระ , ว่าง , ยุซุกิ , ชิโมสึกิ , ผม
……ข้างอิกุระ ยังว่างอยู่แหละน้า
แน่นอนว่าเรื่องผิดธรรมชาติแบบนี้ ทำให้คนอื่นในกลุ่มจ้องมาที่ผม
ภายในนั้น สายตาของริวซากิเจ็บเป็นพิเศษ
“……เห้บ นากายะมะ? ไปอยู่ซะมุมแบบนั้นไม่เหงารึไง? ตรงนี้ยังมีที่ว่างอยู่ มาซะสิ”
หมอนั่น กำลังระแวงผม
คิดว่าน่าจะกำลังไม่พอใจตัวประกอบที่พยายามเข้าหานางเอก
“ชิโฮะก็รำคาญใช่มั้ยล่ะ? ใช้กำลังเข้าหาคนอ่อนแอแบบนั้นมันเสียมารยาทล่ะนะ……พอแค่นั้นแหละ ชิโฮะถ้าไม่ชอบก็ต้องพูดไปตรงๆเลยนะ?”
บางที ริวซากิมันคงคิดว่าผมฝืนมานั่งข้างๆชิโมสึกิ เพราะอย่างงั้นเลยใช้สกิลพระเอกที่เรียกว่า’การสั่งสอน’
ปกติเป็นพระเอกที่ใจดี แต่ก็มีบางครั้งที่เข้มงวดขึ้น แต่ว่าการที่ต่อว่าแบบนั้นใส่ นางเอกจะคิดว่า’เขาคิดถึงฉันอย่างดีเลยสินะ’และก็แก้มแดงขึ้น
แต่ว่า ดูเหมือนว่าครั้งนี้ จะไม่เป็นไปตาม’เซ็ตติ้ง’นั้น
เพราะว่าชิโมสึกินั้น…….เหมือนจะไม่สบายใจอย่างมากเลย
“ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย”
ーครั้งแรก คงไม่ใช่ละมั้ง
เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอโต้เถียงกลับไป
ปกติจะมีแค่ไม่เธอเอามือปิดหูเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงริวซากิ ก็ตอบกลับไป1คำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไม่มีทางรำคาญได้หรอก”
คำพูดที่2ปรากฏออกมา
หน้าตาที่จะไร้อารมณ์ตามปกติ แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน เธอปิดปากแน่น และมองที่ริวซากิเหมือนกับว่าจ้องแรงๆใส่
ดูเหมือนว่าชิโมสึกิจะให้อภัยคำพูดเมื่อกี้ไม่ได้
ในใจของเธอคงต้องคิดว่าผมสำคัญมากอย่างแน่นอน
ーรำคาญเนี่ย ถึงจะแค่พูดเล่นแต่ก็เป็นไปไม่ได้
เธอแสดงทัศนคติแบบนั้นออกมาอย่างตรงๆ
อีกด้าน ริวซากินั้น……..ตื่นตระหนกอย่างหนัก
“งะ งั้นหรอ……ถ้าชิโฮะไม่มีปัญหา ก็ไม่มีอะไร…..เอ่อ ขอโทษนะ? อาจจะเข้าใจผิดไปหน่อย”
ริวซากิเหงื่อออกและยิ้มออกมาอย่างลึกลี้ลุกลน
เห็นได้ชัดเลย หมอนั่นถูกตอนให้จนมุม
ตอนนี้พระเอกกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
…….ถ้าปกติ เห็นท่าทางแบบนั้นแล้ว อาจจะคิดว่า’สมน้ำหน้ามั้ยล่ะ’นิดหน่อยก็ได้
ความรู้สึกดำมืดในใจผมอาจจะกำลังเดือดพล่านอยู่ก็ได้
แต่ว่านะ ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดแบบนั้น
ก็เพราะนี่น่ะーーเป็นเพียงแค่’หุบเขา’ที่เอาไว้เติมแต่งให้ยอดเขาของเรื่องราวเฉยๆเอง
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
เป็นปกติของเนื้อเรื่องเพื่อจะทำให้ตอนท้ายมีความน่าตื่นเต้น ก็เป็นเทคนิคทั่วไปที่จะทำให้พระเอกตกลงในหลุมนั้น
สวนทางกับนางเอก จากนั้นสวิตช์ไฟแดงของความสัมพันธ์จะถูกกด และกระตุ้นความรู้สึกวิตกให้ผู้อ่าน
แต่ว่า นั่นก็เป็นเพียงแค่การโหมโรง
นี่จะเป็นการพลิกกับของพระเอกครั้งยิ่งใหญ่
มาถึง จุดนี้ซะแล้วหรอ
เรื่องราวนั้นใกล้จะมาถึงจุดจบแล้ว………