(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 47

“ไม่เป็นไรนะ? เอ่อ แล้วก็…..จงหายไป~เนี่ย ไม่ทำไม่ได้เหรอ?”

 

เธอคนนี้หรือว่าเธอจะเป็นประถมจริงๆหรือป่าว

พอชิโมสึกิทำตัวเป็นเด็กน้อยแล้วเล่นเอาทำอะไรไม่ถูกเลย ให้ทำแบบนั้นมันน่าอายจริงๆนั่นแหละ

 

“มู่ว นากายะมะคุงขี้เหนียว…..แค่ลูบหัวไม่เห็นจะเป็นอะไรแท้ๆ ถ้างั้น ช่วยส่งแรงใจหน่อยนะ? พูดว่าพยายามเข้าหน่อยสิ?”

 

“ถ้าแค่นั้นล่ะก็นะ…..เอ่อ พยายามเข้าชิโมสึกิ อย่าแพ้ให้ความเจ็บนะ”

 

ผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะเนี่ย?

ผมกำลังคิดอยู่ว่าส่งแรงใจไปมันจะได้ผลหรอ แต่ทันทีที่เชียร์เธอชิโมสึกิก็หยุดร้องไห้ เลยทำเอาตกใจ

 

“ฟู่ว…..ใจเย็นลงแล้ว เมื่อกี้ถึงจะเจ็บแทบตาย แต่พอนากายะมะคุงส่งแรงใจมาก็ดีขึ้นเลยล่ะ ฉัน แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย? แย่แล้ว ไม่อยากจะแข็งแกร่งไปมากกว่านี้แล้วแท้ๆ”

 

ไม่อะ ชิโมสึกอะอ่อนแอนะ สบายใจได้บางทีอาจจะใกล้เคียงกับอ่อนแอที่สุดเลยก็ได้

เธอก็ยังบ๊องอยู่เช่นเคย คิดว่าเรื่องออกแรงเองก็คงจะตอบสนองช้า ถึงได้รับบอลเข้าเต็มหน้าอย่างนั้น

 

แล้วก็อีกอย่าง เธอกระเด็นไม่น้อยเลยล่ะ เพราะแบบนั้นทำให้เสื้อคลุมเธอเปื้อน และมีเศษดินติดตามใบหน้า

 

“หน้ากับชุด เผื้อนหมดแล้วนะ? มีชุดเปลี่ยนมั้ย?”

 

เพราะกังวลเลยลองถามดู ชิโมสึกิยิ้มและส่ายหัว

 

“ไม่มี เพราะแบบนั้นขอยืมผ้าขนหนูกับเสื้อได้มั้ย? ฉัน แพ้แสงแดดน่ะถ้าไม่ใส่เสื้อแขนยาวไม่ได้นะ ก่อนหน้านี้เองก็บอกไปแล้วใช่มั้ยล่ะ? คิดว่าเพื่อนอย่างนากายะมะคุงก็คงจะไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”

 

ดูเหมือนเธอตั้งใจจะบังคับเอาจากผมนะ

 

“…..ถ้าบอกว่าเป็นไปได้ก็อยากจะปฏิเสธ เพราะมันมีเหงื่ออยู่นิดหน่อยล่ะ?”

 

“ไม่ได้นะ? ห้ามทำเรื่องอย่างปฏิเสธ”

 

ดูเหมือนในใจเธอคงจะมั่นคงเรื่องเอาจากผมไปแล้วล่ะ เธอถอดเสื้อคลุมกีฬาออก เผยให้เห็นถึงแขนสีขาวอันบริสุทธิ์ของเธอ

 

มันดูขาวจริงๆ คงเพราะไม่ได้โดนแดดเลย มันบริสุทธิ์ถึงมองต่อไม่ได้ ผมเลยเผลอหันหน้าหนี

คงเป็นเพราะปกติมันถูกซ่อนเอาไว้อยู่ เลยทำให้ผมใจเต้น

 

ถ้ายังให้เธอเปิดเผยแบบนี้อยู่ล่ะก็ รู้สึกได้ว่าแย่นิดหน่อย

พอคิดอย่างนั้น ผมก็ถอดเสื้อคลุมออกอย่างช่วยไม่ได้

 

“……นี่ครับ เชิญเลย”

 

“จ้า ขอบคุณ”

 

พอยื่นให้ เธอก็ฉกเอาเสื้อคลุมนั้นไปจากผม

จากนั้น เธอก็สวมเสื้อนั้นด้วยรอยยิ้มที่แกล้งกัน และก็รูดซิปปิดแน่น

 

คงเพราะเธอตัวเล็ก เสื้อของผมนั้นเลยดูใหญ่เทอะทะขึ้นมาเลย ความยาวเหมือนกับชุดเดรสวันพีซ ส่วนแขนเสื้อนั้นก็มีที่เหลือให้มันหักลงมาได้

 

ผมคิดว่าใช้เสื้อที่มันตรงไซส์มากกว่านี้ดีกว่าจริงๆนั่นแหละ

อาจารย์เองก็น่าจะมีสำรองด้วย ลองถามดูดีมั้ย? พอกำลังจะถามเธอ…….

 

“เอะเฮะเฮะ ชุดของนากายะมะคุงเนี่ย……ได้กลิ่นของนากายะมะคุงด้วย ฟืดฟืด อืมคิดว่าไม่เลวเลยล่ะ ไม่สิ จะบอกว่าไม่เลวก็ไม่เชิง ที่จริงแล้วดีล่ะมั้ง…..หม่าม้าของฉันน่ะนะ มีความคลั่งไคล้กลิ่นด้วยล่ะ ในที่สุดก็เข้าใจความรู้สึกนั้นแล้ว”

 

แต่ว่า ชิโมสึกิดูพอใจอย่างมาก เลยไม่ได้พูดอะไรออกไป

 

เธอยังคงทำตัว จั๊กจี้หัวใจผู้ชายไม่เปลี่ยนเลย

 

“นี่ ขอยืมผ้าขนหนูด้วยสิ? ผ้าขนหนูของฉันมันก็เปื้อนเลยต้องล้างก่อนน่ะนะ…..อืม ถ้าไม่พันคอไว้แบบนี้ เดี๋ยวก็โดนแดดเผาเอานะ แต่ว่า พอทำแบบนี้แล้วเหมือนโดนนากายะมะคุงกอดอยู่เลย จะว่าไงดีใจเต้นตึกตักเลยนะ”

 

ที่แก้มเธอแดงอยู่ตอนนี้ ใช่เพราะแดดเผาจริงๆเหรอ

หรือว่า บางที…….เพราะกำลังเขินอยู่

 

“อึก……!”

 

พอมองด้านนั้นแล้ว ผมใจเต้นจริงๆนั่นแหละ

จริงๆเลยเธอคนนี้ ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ?

 

แล้วก็……ริวซากิมันจะคิดอะไรอยู่กันนะ ตอนที่จ้องมาที่ซีนแบบนี้

 

(มองมาตลอดเลยน้า……ปล่อยผมไปเถอะ)

 

ถึงชิโมสึกิจะไม่รู้ตัว แต่ผมมองเห็นริวซากิได้จากองศานี้

หมอนั่นมองผมกับชิโมสึกิมาจากที่ไกลด้วยใบหน้าเหมือนจะกรีดร้อง

 

ผู้หญิงที่ตัวเองกำลังมีความรักให้ จู๋จี๋อยู่กับชายอื่นต่อหน้าต่อตา……ในใจคงแตกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ

 

ดูเหมือนเนื้อเรื่องจะเตรียมเข้าสู่ฉากไคลแมกซ์แล้ว

ช่วงเวลาที่ริวซากิ ต้องทรมานคงจะดำเนินต่อไปอีกเล็กน้อย……

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset