ーพอลองมองย้อนกลับไป ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นเหมือนกับพระเอก
เพื่อนสมัยเด็กยุซุกินั้นบ้านใกล้กัน ทำให้อยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ
ช่วงประถมนั้น ได้สนิทกับเพื่อนร่วมชั้นคิราริ เล่นด้วยกันเหมือนเพื่อนสนิทเพศเดียวกัน
พอขึ้นชั้นม.ต้น แม่ของผมที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นได้แต่งงานใหม่ทำให้ได้น้องสาวมา ตั้งแต่ตอนนั้น3ปี ก็ใช้เวลาร่วมกับอาสึสะมาเสมือนพี่น้องแท้ๆ
เพราะอย่างนั้น ทั้ง3คนจึงเป็นตัวตนที่สำคัญสำหรับผม
เคยคิดว่า อนาคตคงได้ใครซักคนมาเป็นคู่ชีวิต และใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ด้วยกัน…….เป็นความทรงจำอันล้ำค่า
ได้สนิททั้ง3คนที่เป็นคนมีเสน่ห์
เป็นคนที่มีดวงอย่างที่ปกติไม่มีทางเป็นไปได้
ผมต้องเป็นพระเอกแน่นอนーจะเข้าใจผิดแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษกับทั้ง3คน
ยุซุกิก็แค่บังเอิญอยู่บ้านใกล้กัน คิราริก็แค่บังเอิญเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน อาสึสะก็แค่บังเอิญเป็นลูกติดของอีกฝ่ายที่แต่งงานใหม่กับแม่
ถึงไม่ใช่การพบพานแห่งโชคชะตาอะไร แต่เรื่องที่ทั้ง3คนนั้นคือคนสำคัญก็ไม่เปลี่ยนไป และทั้ง3คนเอง ก็มองว่าผมเป็นคนสำคัญ……เคยคิดไว้แบบนั้น
แต่ว่านั่นน่ะ ผมเข้าใจผิดเอง
ที่ได้พบกับพวกเธอนั้นไม่ใช่’โชคชะตะ’แต่อย่างใด หากแต่เป็น’บังเอิญ’เท่านั้น
สำหรับพวกเธอ ผมเหมือนจะเป็นได้แค่’คนแปลกหน้า’แค่นั้น
หรือก็คือ คนที่โอบอุ้มความรู้สึกที่พิเศษเอาไว้ มีแค่ผมคนเดียว
เปิดภาคเรียนม.ปลาย ช่วงเวลาที่เรื่องราวของพระเอกฮาเร็มอย่างริวซากิ เรียวมะได้เริ่มขึ้น ผมก็รู้ตัวว่าตัวเองเข้าใจผิด
สิ่งที่น่ายินดีเกิดขึ้นคือ ทั้ง3คนเริ่มถูกริวซากิ เรียวมะดึงดูด
พอได้พบกับเขา พวกเธอตอนนั้นก็ได้พบพระเอก’ตัวจริง’เป็นครั้งแรก
และในเวลาเดียวกัน พวกเธอก็รู้ตัว
พวกเธอเดาได้ว่าผมเป็นเพียงแค่’พระเอก’ชั่วคราว
‘โอนี่จัง…….คือว่านะ บางที พี่ชายที่แท้จริงของอาสึสะ อาจจะเป็นเรียวมะโอนี่จังก็ได้’
น้องสาวพูดแบบนั้นใส่ ผมก็สูญเสียตัวตนในฐานะพี่ชายไป
‘โคทาโร่ซัง……ฉันอาจจะเจอ บุคคลในโชคชะตาแล้วก็ได้ ได้เจอกับคนที่อยากจะมอบทุกอย่างให้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ’
เพื่อนสมัยเด็กพูดใส่แบบนั้น สำหรับเธอผมไม่ได้เป็นแม้แต่เพียงผู้ชายที่สนิทด้วยกันอีกต่อไป เธอที่หมกมุ่นอยู่แต่กับริวซากินั้น อาจจะลืมผมไปแล้วก็ได้
‘โคคุง ขอโทษนะ? ฉันน่ะมีคนที่ชอบแล้วล่ะ เพื่อจะทำให้เขาชอบ ฉันจะทำทุกอย่างเลย……ถึงจะต้องฆ่าตัวฉันเองในแบบที่ผ่านมา ฉันก็อนากเป็นคนที่เขาชอบ’
เพื่อนที่เคยสนิทกันมากอย่างคิรารินั้น ยอมสังเวยบุคลิกของตัวเอง เพื่อให้ริวซากิชอบ ย้อมผม สวมคอนแทคเลนส์สี เปลี่ยนวิธีการพูด เปลี่ยนบุคลิกไปหมดเลย
เธอไม่ใช่อาซากุระ คิราริเพื่อนสนิทของผมอีกต่อไป กลายเป็นอาซากุระซังที่เป็นคนแปลกหน้ากันอย่างสิ้นเชิง
หรือก็คือผมนั้น สูญเสียคนสำคัญทั้ง3คนไปในเวลาเดียวกัน
เป็นการตกต่ำของพระเอกที่เกินความเป็นไปได้
ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่อง ก็เป็นฉากจบที่น่าหดหู่
….ไม่ใช่ว่า มีความรักอะไรให้หรอก
ถ้าจะให้เลือกระหว่างชอบกับเกลียดก็คงบอกว่าชอบ แต่ก็ไม่ได่หมายความว่า มีความรักให้กับพวกเธอ
ผมไม่ได้คิดพิเศษแบบว่า เพราะเป็นผู้หญิง เพราะน่ารัก เพราะอยากคบด้วย
ก็แค่เพราะพวกเธอเป็นคนสำคัญ ก็เลยมีความรู้สึกที่พิเศษ
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะสนิทมากขึ้นไปอีก
ถึงจะนาาเวทนา แต่ถ้าให่ผมพูดสิ่งที่ฝันไว้ได้ล่ะก็……ก็คิดว่า ถ้าได้คบกับใครซักคนนึงใน3คนนี้ก็คงจะดี
แต่ว่า ในกรณีที่เลวร้ายสุด……ถึงเธอจะแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ผม เรื่องนั้นก็ช่วยไม่ได้ คิดว่ามันดีแล้วล่ะ ถ้ามันทำให้เธอมีความสุข
แต่ว่า แม้ผมจะมีความคิดแบบนั้น ผมก็ยังเป็นอุปสรรคสำหรับพวกเธออยู่ดี……ตัวตนของผมนั้น ถูกสีของริวซากิทาทับจนหมด
อีแบบนี้ ไม่มีทางเป็นพระเอกได้หรอก
เพราะอย่างนั้น ผมถึงได้คิดแบบนี้
มันเหมือนกับตัวประกอบเลยนะ
้พอคิดได้แบบนั้น ก็สดชื่นขึ้นในหลายๆอย่าง
เจ็บปวดเพราะคิดไปเองว่าตัวเองเป็นพระเอก พอยอมรับว่าตัวเองเป็นตัวประกอบแล้ว ก็ได้พักผ่อนใจ
ถึงจะโดนหักหลัง ถึงจะโดนผิดหวัง ถึงจะผิดจากที่คาด ทั้งหมดนั้นมันก็ช่วยไม่ได้
ก็เพราะผมเป็นตัวประกอบ จึงเป็นเรื่องธรรมดา
จากนั้น ผมก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นตัวประกอบ
ผมคิดทุกสิ่งทุกอย่างตามมุมมองแบบเมต้า และบังคับตัวเองให้เข้าใจว่าจะไม่มีทางสมหวังแน่นอน
แต่ว่า ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่คิดจริงๆล่ะก็……ผมเอง ก็อยากเป็นพระเอก
ไม่ใช่ว่าที่ผมเป็นตัวประกอบเพราะผมต้องการจะเป็น
ริวซากิ…..เพราะอย่างนั้น นายน่ะไม่ใช่หมาขี้แพ้ซักหน่อย
หมาขี้แพ้น่ะ มันผม
ตัวประกอบผู้น่าสงสารที่หลงคิดไปเองว่าเป็นพระเอก ถ้าไม่ใช่หมาขี้แพ้แล้วจะเรียกว่าอะไร……