(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 5

ด้วยเหตุนั้น จึงได้เพื่อนใหม่

เพื่อนคนแรกตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมานั้น เป็นเหมือนสาวสวยที่หลุดมาจากอีกโลกที่คิดว่าไม่น่าจะได้เกี่ยวข้องกับผม

 

“อืม ไม่ไหวเลยนะ เพราะเอาแต่หมกมุ่นกับการคุย ก็เวลาป่านนี้แล้ว…..พระอาทิตย์เองก็ใกล้จะตกดินแล้วด้วย ผู้หญิงเดินกลับบ้านคนเดียวเวลานี้ก็อันตรายด้วยสิ แล้วนากายะมะคุงที่เป็นเพื่อนคิดอย่างไงหรอ?”

“คะ คิดอย่างไงนี่?”

“อยากรู้ว่าจะปล่อยให้ฉันกลับคนเดียวในเวลาแบบนี้หรอ จะว่าไปนากายะมะคุงเป็นผู้ชายที่ปล่อยให้สาวสวยเพราะยีนส์ของพ่อแม่อย่างฉันที่เพิ่งจะเป็นเพื่อนกัน กลับบ้านคนเดียวงั้นหรอ?”

“…..เดี๋ยวไปส่งนะ”

 

ไอ้แบบนี้ ใครจะกล้าไม่ทำเป็นไม่สน เจตนารมณ์ที่บอกว่า ‘ไปส่งซะ ‘อย่างโจ่งแจ้งแบบนั้นได้ล่ะ

 

“แต่ว่า ถ้าถูกใครเห็นตอนที่กลับบ้านกับผม2คนเข้า จะไม่รู้สึกไม่ชอบหรอ”

 

ตัวประกอบแบบนี้ กับนางเอกที่น่ารักอย่างชิโมสึกิน่ะ เข้ากันไม่ได้ ก็คิดแบบนั้นอยู่หรอก แต่เธอเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนั้น

 

“ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกไม่ชอบที่เธอพูดออกมาเลยนะ แค่อยากจะกลับบ้านด้วยกันกับเพื่อนแท้ๆ ทำไมต้องคิดลบแบบนั้นด้วย? หรือว่า อยากให้ปลอบหรอ? เด็กดีเด็กดี กลับบ้านด้วยกันนะ?”

 

ชิโมสึกิยืดตัวและรูปหัว

ไม่ดิ เดี๋ยวนะ…..ไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อยนะ

 

จะว่าไป

ยัยนี่ ตอนจะถูกนริวซากิลูบหัวยังดูไม่ชอบแท้ๆ ถ้าตัวเองลูบคือไม่เป็นไรหรอ……ไม่สิ ไม่ใช่มั้ง เรื่องถูกลูบหัวน่ะ ไม่ใช่เพราะชอบหรือไม่ชอบ แต่เพราะไม่ถูกกับริวซากิเลยไม่อยากถูกจับสินะ

 

เธอนั้นดูอย่างไง ก็เหมือนจะไม่ชอบริวซากิจริงๆ

พระเอกฮาเร็มหนุ่มฮอต ที่นางเอกเพื่อนสมัยเด็กไม่สนใจนี่ รู้สึกว่าหาได้ยากมาก

 

ถ้าเป็นตามปกติคิดว่าน่าจะเป็น1ในฮาเร็มนั่นแหละนะ

 

“นี่ ไปกันเถอะ? อุฟุฟุ ใฝ่ฝันว่าอยากจะกลับบ้านด้วยกันกับเพื่อนแบบนี้ด้วยล่ะ ให้อารมณ์เหมือนกับนักเรียนนี่วิเศษไปเลย…..นี่ อยากคุยเรื่องอะไรหรอ เห็นแบบนี้ ฉันมีงานอดิเรกเยอะพอตัวเลยนะ ทั้งอนิเมะ,เกม,ทีวี หรืออะไรก็ได้หมดเลยนะ อ๊ะ แต่ว่า มังงะกับนิยายห้ามนะ ฉันไม่ถูกกับตัวอักษร”

 

ระหว่างที่กำลังเดินนำหน้าผม เธอก็รัวคำพูดใส่มาอย่างต่อเนื่อง

ผมแบบสงสัยว่าอีแบบนี้มันนับเป็นการสนทนารึเปล่า แต่ผมเองก็สนุกที่ได้ฟังถึงสิ่งที่ชิโมสึกิสนใจอยู่เหมือนกัน

 

น่าแปลกใจ ดูเหมือนว่าเธอจะชอบพวกวัฒนธรรมย่อย ไม่สิ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกมั้ง ไอ้งานอดิเรกที่ถูกเรียกกันมาว่า โอตาคุเนี่ย ทุกวันนี้ก็เริ่มจะมีให้เห็นทั่วไปมากขึ้นล่ะนะ

 

“อ๊ะ แล้วก็ก่อนอื่น นั่นน่ะ ทั้งที่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วแท้ๆ แต่’นากายะมะคุง’ ดูห่างเหินกันไปหน่อยนะ…..ว่าแล้ว คิดชื่อเล่นไว้น่าจะดีกว่านะ? นากสยะมะคุงมีชื่อแนะนำไหม?”

 

แล้วก็ชิโมสึกิดูเหมือนจะยึดติดกับการตั้งชื่อเล่นด้วย

คำว่าเพื่อนสำหรับเธอ เหมือนจะต้องมีชื่อเล่นที่เอาไว้เรียกกันด้วย

 

“อืーม เอาไงดีนะ?”

 

ออกจากโรงเรียน และเดินต่อตามเส้นทาง

จะว่าไปชิโมสึกิอาศัยอยู่ที่ไหนนะ? ถึงจะไม่รู้สถานที่ แต่ถ้าบอกจะไปส่งแล้ว ก็คงต้องไปส่งถึงบ้านด้วยสิ เอาเถอะจะที่ไหนก็ช่างมัน

 

อย่างไงซะก็กลับคนเดียวอยู่แล้วนิ

ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเวลาอะไรอยู่แล้วด้วย

 

“รู้สึกไม่ดีเลย ให้ตายสิ นากายะมะคุง ไม่ร่าเริงเลยนะ…..เหมือนฉันตอนที่อยู่ข้างริวซากิคุงเลย จะเป็นคนที่น่าเบื่อแบบนั้นไม่ได้นะ? หึ”

“ถ้าแบบนั้น ชิโมสึกิก็จะกลายเป็นคนน่าเบื่อไปด้วยนะ จะเอาแบบนั้นหรอ”

“ก็อย่างนั้นแหละ? ฉันน่ะต่อหน้าริวซากิคุงแล้วเป็นคนสุดแสนจะน่าเบื่อแท้ๆ คิดว่าแปลกๆนะที่เขายังมาชวนคุยด้วยแบบนั้น ไม่ได้สนิทด้วยสิ ไม่มีอะไรจะพูดด้วยแท้ๆ พูดหญิงแบบนี้มีอะไรดีกัน? หรือว่าหน้าตา? ถ้าแบบนั้นคงไม่ใช่ฉัน แต่ต้องเป็นป่าป๊ากับหม่าม้าแล้วล่ะที่มอบยีนส์นี้มาให้”

 

รู้สึกว่าจะออกนอกประเด็นไปหน่อยนะ

แล้วเธอมีโรคที่ถ้าไม่พูดตลอดเวลาแล้วตายด้วยรึเปล่าเนี่ย ระหว่างกลับบ้าน เธอพูดตลอดเวลา ผมแค่ตอบกลับบ้างไปนิดหน่อยระหว่างนั้น แต่เธอก็ยังพูดต่ออย่างสนุกสนาน ดูลึกลับจริงๆ

 

แต่ว่าชิโมสึกิ แค่ชอบพูดเฉยๆ ไม่ได้แปลว่าเธอพูดเก่ง

ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่เธอออกนอกประเด็นมากเกินไป และก็ไม่มีประเด็นหลักให้คุยเลย สุดท้ายแล้ว ชื่อเล่นเองก็ยังคิดไม่ได้

 

“อาระ? คุยเพื่อนไปหน่อยจนถึงบ้านแล้วล่ะ…..อุฟุฟุ คุยกับเพื่อนนี่สนุกจังเลยนะ ที่ผ่านมากลับบ้านทั้งน่าเบื่อและพริบตาเดียวเองด้วย เลยตื่นเต้นไปหน่อย ขอบคุณที่มาด้วยกันนะ นากายะมะคุง?”

 

เธอยิ้มอย่างสนุกสนานและจับมือของผม

ถึงดูจะตั้งใจจับมือก็เถอะนะ แต่ระยะห่างของเพื่อนของเธอคนนี้มันดูใกล้ชิดกันจังนะ เพราะจู่โจมมากระทันหันเกินไป เลยทำให้รู้สึกใจเต้น

 

“ถ้างั้น เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“อา อืม เจอกันพรุ่งนี้นะ…..”

 

ตอนท้ายเธอยังโบกมือให้ และเข้าบ้านไป

บ้านชิโมสึกิเป็นบ้านเดี่ยวที่หาได้ทั่วไป คิดว่าเธอน่าจะมีสายเลือดของเศรษฐีเพราะรูปลักษณ์ที่เหมือนหลุดมาจากอีกโลกซะอีก แต่เธอดูปกติผิดคลาด

 

“กลับบ้างดีกว่า”

 

บ้านชิโมสึกิค่อนข้างใกล้โรงเรียนมาก

ใช้เวลาโดยรวมประมาณ15นาที และทางกลับบ้านก็ทางเดียวกันด้วย ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆก็สามารถกลับบ้านได้

 

แต่ก็ชินแล้วล่ะ เพราะเป็นทางที่ใช้เดินกลับคนเดียวอยู่แล้ว

วันนี้ ต้องขอบคุณชิโมสึกิ เพราะเธอทำให้ฝีเท้าผ่อนคลายลง……

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset