(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 54

การแสดงเริ่มขึ้น

ข้างบนเวทีอันเรียบง่ายนั้น คู่นักเรียนชายกำลังแสดงมุกตลกกันอยู่

 

ตลกหรือป่าวนั้น น่าเสียดายที่ไม่เข้าใจ

เพราะผมไม่มีเซนส์ด้านตลก ทำให้แยกไม่ได้ว่า แบบไหนตลก แบบไหนไม่ตลก

 

เป็นส่วนหนึ่งของตัวประกอบ

ผมไม่มีงานอดิเรกหรือเรื่องที่ยึดติด ทำให้ไม่มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง

 

ไม่มีหลักการหรือข้อแม้อะไรเลย ก็แค่ปล่อยให้มันไปของมันเอง

ตอนนี้ สิ่งที่กำลังเป็นไปอยู่นี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

(หยุดการสารภาพรักของริวซากิไม่ได้….)

 

ก่อนหน้านี้ พระเอกเพิ่งจะมาประกาศสงครามกับผม

หมอนั่นคงจะรอช่วงเวลาแบบนี้มาอยู่แล้ว

 

‘ถ้าสารภาพรักที่แคมป์ไฟจะสำเร็จ’

 

เหมือนจะมีความเชื่อแบบนั้นในการเข้าค่ายอยู่

ริวซากิคิดจะใช้สิ่งนั้น และก็สารภาพรัก

 

“……”

 

ระหว่างที่บนเวทีกำลังจัดการแสดง ผมก็มองดูอย่างเหม่อๆ

 

การจะมาเข้าร่วมการแสดงนั้นไม่ได้มาจากการบังคับ แต่มาจากผู้ที่สมัครใจจะมาดู

คนที่ไม่ได้จะเข้าร่วมนั้นก็จะนอนอยู่ที่ห้องตัวเอง ทำให้มีคนหายไปเยอะ และก็ ในนั้นยังมี คนที่ไม่สนใจจะดูการแสดงและพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือคนที่กำลังพลอดรักอยู่กัยคนรัก

 

……ก็จริงอยู่ ที่บรรยากาศแบบนี้เหมาะกับการสารภาพรักที่สุดเลย

 

แสงไฟหลักมาจากแคมป์ไฟ แสงจากโคมไฟอื่นๆนั้นจะอ่อนมากและสลัวเล็กน้อย…….แต่เพราะที่ทำให้มองดูยากนั่นเอง จึงจะทำให้ระยะห่างของคนแคบลงเองโดยธรรมชาติ ปกติแล้วช่องว่างที่แตกต่างกันนั้นจะเป็นเครื่องมอบความกล้าให้ชายหญิงที่รักกัน การสารภาพรักที่ดูมีความไม่สมจริงแบบนั้นอาจจะทำให้ใจเต้นก็ได้

 

ถ้าลองวิเคราะห์ดู การสารภาพรักแบบนี้นั้น ก็จะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าสารภาพรักในวันธรรมดาที่ไม่มีอะไรเลย

เข้าใจได้แล้วว่าความเชื่อมันกำเนิดมาได้ไง

 

(บางที คิดว่าริวซากิคงจะเรียกชิโมสึกิไปสารภาพรัก…..ก่อนหน้านั้น ต้องรีบหาเธอให้เจอแล้ว)

 

อย่างไงก็ตามสำหรับตอนนี้ อยากจะอยู่ข้างๆเธอ

ถึงจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก็ตาม แต่ขอแค่ได้อยู่ข้างๆกัน ก็จะช่วยเธอได้ตลอดเวลา

 

เลือกวิธีใดซักวิธี ถ้ายอมให้ริวซากิมันสารภาพรักไปก่อนก็คงไม่เป็นไร

แต่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องที่จะใช้ความฉวยโอกาสของพระเอกต้อนชิโมสึกิให้จนมุม

 

ถ้าให้อธิบาย ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ความฉวยโอกาสนั่นในรูปแบบไหน

 

ก่อนอื่น ถ้าสถานการณ์นั้นเป็นใจให้ริวซากิล่ะก็น่ากลัว ถ้าหากว่า ถึงจะเป็นไปไม่ได้……อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นทำให้หันเหความปรารถนาของชิโมสึกิ จนทำให้สารภาพรักของริวซากิสำเร็จก็ได้

 

ถึงมันจะฟังดูเกินจริง แต่เพราะริวซากิเป็นพระเอก จะมีอะไรเกิดขึ้นก็คงไม่แปลก

 

เพราะแบบนั้น จึงต้องรีบไปหาเธออย่างด่วน…..แต่มองดูรอบๆลานกว้างแล้ว ก็ไม่พบร่างของเธอเลย

 

(สุดท้าย เพราะที่ลับสายตาเยอะเลยไม่เจอเลยนะ)

 

ทัศนวิสัยแย่กว่าที่คาดเอาไว้ซะอีก แถมมันน่าอึดอัด เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คู่รักจู๋จี๋กันทั้งนั้น

 

เพราะผมสีขาวของเธอสะดุดตา ถ้าอยู่บริเวณนี้ล่ะก็ต้องเจอทันทีแน่นอน……หรือว่า เธอจะนอนหลับไปแล้วรึป่าว

 

ถ้าอย่างล่ะก็ ก็สบายใจได้……แต่ว่า ดูเหมือนจะไม่ใช่เวลาที่ดีเอาซะเลย

 

(อะ เจอแล้ว)

 

เจอชิโมสึกิตอนที่การแสดงใกล้จะจบลงแล้ว

ใช้เวลาประมาณ1ชม. ตอนที่การแสดงของพวกนักเรียนจบ ก็พบกับผมสีขาวอยู่ด้านหน้าเวที

 

ดูเหมือนชิโมสึกิก็จะมาด้วย เธอมาผิดเวลาหรือว่าจะเพิ่งมากันแน่นะ…..เอาเถอะ ถ้าเข้าไปหาเธอได้ แค่นั้นก็ดีแล้ว

 

พอคิดอย่างนั้น ผมก็เดินไปหาเธอ

แต่ว่า เพราะคนที่อยู่หน้าเวทีนั้นมีจำนวนมาก จึงไม่สามารถฝ่าไปข้างหน้าได้ เผลอใช้เวลาไปหน่อยนึง

 

อีกด้าน เธอนั้นกำลังมองซ้ายมองขวาเหมือนว่ากำลังหาใครอยู่

จากนั้นพอเราสบตากัน เธอก็ดูเปล่งประกายขึ้นมา และจะพยายามพุ่งมาทางนี้……เวลาเดียวกันนั้นเอง

 

“ถ้าอย่างงั้น ได้เวลา’ช่วงเวลาสารภาพรัก’เหมือนทุกปีแล้วค่า! ดูเหมือนที่ผ่านมาจะมีคู่รักมากมายเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว ได้เวลาแล้วค่ะ ผู้ชายที่มีความรักได้โปรดแสดงความกล้าออกมาให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยค่า! มีใครหรือป่าวคะ?”

 

ทันทีที่ผู้จัดงานพูดออกมา

คนที่ขึ้นไปบนเวทีนั้นーก็คือพระเอกนั่นเอง

 

“ปี1ห้อง2 ริวซากิ เรียวมะ มีคนที่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆอยู่ วันนี้ ขอให้ได้สารภาพรักกับคนคนนั้นที”

 

จู่ๆ ความเงียบก็เข้าปกคลุม

หมอนั่น แน่นอนว่าเป็นคนดัง เพราะป๊อปจนเกินไป ทำให้ผู้ชายมากมายต่างพากันอิจฉา เป็นตัวตนที่แม่แต่ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องด้วยน้อยที่สุดยังยอมรับเขา

 

แต่ว่า ริวซากิคนนั้น ไม่เคยที่จะชอบใครเป็นพิเศษมาก่อน เพราะอย่างงั้นผู้คนรอบข้างต่างพากันกังวลว่า’ริวซากิกำลังคบกับใคร?’……สิ่งลี้ลับนั้น กำลังจะถูกเฉลยแล้ว

 

ไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะให้ความสนใจ

และก็ ไอ้’ความสนใจ’นั่นแหละ……เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุดเลย

 

“ชิโฮะ! มีเรื่องอยากจะบอก……ช่วย รับฟังไว้หน่อยได้มั้ย?”

 

คนที่ถูกเรียกนั้น แน่นอนว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของริวซากิ ชิโมสึกิ ชิโฮะนั่นเอง

ริวซากิมองไปที่เธอที่อยู่หน้าเวที ผู้คนรอบข้างเองต่างก็มองไปหาเธอพร้อมกันทุกคน

 

สายตามากมายต่างจับจ้อง คนแปลกหน้ากำลังสนใจไปที่ชิโมสึกิชิโฮะผู้หญิงตัวน้อยๆคนนึง

 

“ーーーーอึก”

 

ถึงจะอยู่ห่างกัน ผมก็เข้าใจ

ชิโมสึกินั้นประหม่าและสีหน้านั้นกำลังหวาดกลัวมากขึ้น

ต่อหน้าริวซากินั้นยังดูไร้สีหน้าเหมือนเดิม หมอนั่นจึงไม่รับรู้ต่อการเปลี่ยนแปลงของชิโมสึกิ ยื่นมือออกมาข้างนึงอย่างอ่อนโยน…..คงยังไม่รู้แน่ๆเลยสินะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

 

เป็นพระเอกที่คิดแต่เรื่องของตัวเองไม่เปลี่ยนเลย

ดูจะไม่รู้ด้วยว่า ตอนนี้ ชิโมสึกิไม่ชอบมากถึงขั้นที่ส่งเสียงออกมาไม่ได้เลย

 

(จะสารภาพรักแบบนี้จริงๆหรอวะ……)

 

เป็นสถานการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย ทำให้ผมกำหมัด

ดูสิ เกิดขึ้นจริงๆด้วย สถานการณ์ที่จะเป็นใจให้พระเอกมาแล้ว

 

พอลองคิดดู ก็จริง……มีแต่สถานการณ์แบบนี้เท่านั้น ที่สารภาพรักกับชิโมสึกิจะได้ผลลัพธ์ที่ดี การฉวยโอกาสนั้น ถูกใช้งานจนได้

 

ชิโมสึกิชิโฮะในตอนนี้นั้น ไม่ถูกกับริวซากิซักนิด ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จนั้นอยู่ถึงเกือบ0

 

แต่ว่า ในสถานการณ์ที่มีคนดูอยู่เยอะแบบนี้ คิดว่าชิโมสึกิจะส่งเสียงออกมาได้หรอ?

ไม่อะ ไม่มีทาง คนที่ขี้อายและละเอียดอ่อนต่อการมีอยู่ของคนแปลกหน้าแบบเธอนั้น ในสถานการณ์ที่มีคนดูอยู่เยอะแบบนี้ ไม่มีทางที่จะประกาศเจตนาออกมาได้

 

“บ้าเอ้ย”

 

การสารภาพรักที่แย่ที่สุดแบบนี้ ทำให้ผมกัดริมฝีปากตัวเอง

ผมไปหาชิโมสึกิไม่ได้อีกแล้ว

 

เนื้อเรื่องนั้นกำลังไต่ขึ้นไปถึงยอดเขา

การเป็นตัวประกอบนั้น ไม่สามารถเข้าแทรกแซงการสารภาพรักนี้ได้

 

ดังนั้นผม จึงทำได้แค่มองพระเอกเหมือนอย่างที่ผ่านมา……

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset