(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 62

ตั้งแต่เข้าค่าย ก็ผ่านมาได้1สัปดาห์แล้ว

ความสัมพันธ์นั้นมีการเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ แต่ว่าชีวิตประจำวันของผมกับชิโฮะก็ยังไม่ต่างจากเดิม

 

“……….”

 

 

ตอนอยู่ที่โรงเรียน เธอก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม

เพราะขี้อายและเป็นอุจิเบงเคด้วย ทำให้เวลาอยู่ด้านนอกนั้นเงียบมากต่างจากปกติเช่นเคย

 

ทั้งที่มีใบหน้าที่ดูทำอะไรได้หมดแท้ๆ แต่ก็มีส่วนประหลาดที่เธอทำอะไรไม่เป็นอยู่ด้วยอย่างชวนคาดไม่ถึง

 

สอบย่อยคณิตศาสตร์ได้3คะแนน คาบพละก็ไม่ได้ลงวิ่งเพราะไม่ชอบมาราธอน คาบทำอาหารก็หลับอย่างหบายใจ เป็นยัยบ๊องที่ชวนให้ห่วงเรื่องอนาคตจริงๆ

 

มีเธอคอยเฝ้าดูอยู่แบบนี้ พักนี้ทำให้ผมรู้สึกสนุกขึ้นมา

ทักการเคลื่อนไหวของเธอน่ารักไปหมด ทำให้หลงเธอโดยไม่รู้ตัว

พอเธอรู้ตัวว่าผมมองอยู่ เธอจะยิ้มแป้นและโบกมือให้ นั่นน่ะน่ารักที่สุดเลย

 

จะว่าไป ส่วนนี้น่ะอาจจะเป็น’การเปลี่ยนแปลง’ก็ได้

ชิโฮะมักจะยิ้มมากขึ้นตอนอยู่ในโรงเรียน

 

ที่ผ่านมา เพราะติดที่เรื่องริวซากิ ทำให้เห็นแต่สีหน้าไร้อารมณ์ของเธอ……แต่ว่านั่นคงเป็นผลลัพธ์ที่มันหายไปแล้วสินะ

 

ใช่ใช่ ริวซากิตั้งแต้ตอนนั้นมา ก็มีท่าทางแปลกไปเล็กน้อย

จะพูดไงดี……รู้สึกเหมือนความโง่ของเขาโดดขัดถูใหม่ สีหน้าท่าทีเองก็แสดงออกแค่พอเหมาะพอควร

 

บทสนทนากับสมาชิกฮาเร็มเองก็น่าอึดอัด เลิฟคอมเมดี้ของหมอนั่นเหมือนมีเมฆครึ้มก่อตัวขึ้น

ไม่แน่หมอนั่นอาจจะขาดคุณสมบัติการเป็นพระเอกไปแล้วก็ได้

 

…..เอาเถอะ ถ้าให้พูดตรงๆ ภายภาคหน้าของริวซากิเรียวมะจะเป็นไงผมก็ไม่สน

จะกลายเป็นเลิฟคอมเมดี้แบบไหน ก็ตามใจหมอนั่นเลย ขอแค่เรื่องที่ชิโฮะอยู่ข้างผมไม่เปลี่ยนไป เท่านั้นก็พอแล้ว

 

แต่ว่า ก็นะ……ถึงพระเอกอย่างริวซากิเรียวมะจะล่มไปแล้วก็ตาม

แต่ทว่า ความรักของนางเอกรองนั้นเป็นของจริง หญิงสาวที่อยากเป็นกำลังใจให้ริวซากิเรียวมะปรากฏตัวขึ้นมา

 

ในนั้นก็มี อดีตเพื่อนสมัยเด็กของผม อดีตเพื่อนสนิทของผม พยายามให้กำลังใจริวซากิอย่างตั้งใจ ไม่แน่ในพวกเธออาจจะได้กลายเป็นนางเอกล่ะน้า

 

แต่ว่า อาสึสะไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว

ตั้งแต่ที่อาสึสะโดนริวซากิปฏิเสธ เธอก็ปลีกตัวออกมาจากฮาเร็ม

 

ตอนนี้เธอก็เอาแต่ขาดเรียน และเหม่อลอยอยู่ในบ้าน

ถึงจะมีส่วนที่เป็นห่วงในฐานะพี่ชาย แต่พักนี้เธอก็เริ่มดีขึ้นทีละนิด และเริ่มกลับมากินอาหารได้แล้ว บางทีคงจะใกล้ได้เวลากลับมาโรงเรียนแล้วมั้ง

 

ตอนนี้ถึงจะเจ็บปวด แต่ซักวันเธอต้องกลับมายิ้มได้แน่นอน ผมอยากจะค่อยๆรอไปจนกว่าจะถึงตอนนั้น

 

ーーทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทำนองนั้น

แต่ว่าทุกวันของผมนั้น ได้รับการเติมเต็มอย่างมาก

 

ก็เพราะ คนที่เงียบต่อหน้าทุกคนนั้น…..เธอช่างพูดอย่างมากเมื่ออยู่แค่ต่อหน้าผม และเธอก็ส่งความรักมาให้อย่างเปิดเผยเลยด้วย

 

“เน่ๆ โคทาโร่คุง นี่ อ้า~มให้หน่อยสิ? เอ๊ะ อายหรอ? ไม่ได้นะ อยากให้ฉันงอนหรอ? ถ้าฉันงอนล่ะก็จะโมโหแก้มตุ่ยเป็นกระรอกเลยนะ? อยากจะให้น่าเกลียดจริงๆหรอ ไม่อยากให้เวลาไหนก็ตามเป็นชิโฮะจังที่แสน’น่ารัก’หรอ?”

 

พักกลางวัน ระหว่างกินข้าวด้วยกันเธอก็ยิงคำพูดมาฝ่ายเดียว

รู้สึกได้ว่าเธอพูดเยอะขึ้นกว่าที่ผ่านมา คงเพราะความรู้ชอบที่เพิ่มมากขึ้น

 

แต่ว่า แน่นอนว่าไม่ได้เกลียดหรอก

ที่จริง ผมอยากคุย มากขึ้นมากขึ้นกว่านี้อีก

 

“ชิโฮะน่ารักตลอดอยู่แล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก”

 

และก็ผมเอง ที่ผ่านมาถึงจะเอาแต่ฟังอยู่อย่างเดียว แต่พักนี้ผมก็เริ่มส่งคำพูดออกไปด้วยตนเอง

 

ผมพยายามแสดงความรู้สึกออกไปอย่างชัดเจน ว่าผมคิดอย่างไง รู้สึกอย่างไง

พอทำแบบนั้น ชิโฮะก็ปลาบปลื้มอย่างมาก

 

“น่ารัก? อาระอาระ อุฟุฟุ……อะไรกัน โคทาโร่คุงนี่ล่ะก็พูดเก่งขึ้นมากเลยนะ โม่ว ชมแบบนั้นแล้วคิดว่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นหรอ? ให้ตายสิ……ใช่แบบนั้นแหละ ถึงจะไม่ผิดก็ไม่เถอะ แต่เพราะเหมือนถูกทำเป็นเรื่องง่ายแล้ว รู้สึกยัวะขึ้นมาเลย”

 

ชิโฮะเป็นประเภทที่จะเขินเวลาถูกชม

ถึงคำพูดจะออกมาดูไม่ชอบ แต่การแสดงออกของเธอนั้นชัดเจนว่าเธอมีความสุข เป็นผู้หญิงที่เข้าใจง่ายจริงๆ

 

(สนุกจังเลยน้า…..)

 

แค่ได้มองเธอ ผมก็ได้ผ่อนคลายแล้ว

เป็นเพราะชิโฮะ วันๆอันเป็นสีเทาของผมได้ถูกแต่งแต้มด้วยสีสัน

 

เธอยอมพูดกับผม คนที่เคยเป็นตัวประกอบมาก่อน

 

นั่นทำให้ผมดีใจมาก

 

…..เอาล่ะ จากนี้ไปเลิฟคอมเมดี้ระหว่างผมกับชิโฮะจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

บางทีเรทตอนจบอาจจะต่ำจนกลายเป็นผลงานที่ไม่ได้เรื่องรึป่าว

ก็เพราะมันเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่มียอดเขาหรือหุบเหวอะไรทั้งนั้น มีเพียงแค่เส้นขนานที่เรียกว่า’ความสุข’อย่างเดียวไม่มีความเข้มข้น

 

แต่ว่า แบบนั้นดีแล้ว

ผมไม่อยากเห็นชิโฮะร้องไห้ออกมาอีกแล้ว

 

ก็เพราะใบหน้าตอนยิ้มของชิโฮะน่ะ น่ารักเป็นที่สุดอย่างไงล่ะ……..

 

 

(บทที่ 1 จบ)

 

อาวล่ะ ในที่สุดก็จบบทที่1ซักทีนะครับ ก็เป็นการดีที่จะแจ้งช่วงนี้ก็จะลงให้เร็วเท่าที่ทำได้เพราะช่วงเดือนหน้าผมก็ต้องเตรียมตัวทบทวนไปสอบนู่นนี่นั่นอีก อาจจะไม่มีเวลามานั่งแปล(รึป่าวก็ไม่รู้ ฮา)+กับเปิดเทอมขึ้นปี4ด้วย อาจจะยุ่งๆซักหน่อย ก็ขอบอกไว้ล่วงหน้าก่อนนะครับ และก็ขอขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนถึงตอนนี้นะครับ ส่วนเพจก็ยังไม่มีเช่นเคย ถถถ

-จากMofuXD-

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset