หลังจากที่ได้ฟังแมรี่ซังพรรณนาอยู่คนเดียว
ผมก็เผลอหัวเราะออกมาจนได้
“ฮะฮะ……..อะ โทษที ไม่ได้เยาะเย้ยหรอกนะ ก็แค่ มันตลกน่ะ”
ผมรีบแก้แต่ทันที แต่แมรี่ซังก็ทำหน้าไม่พอใจไปซะแล้ว
เธอเหมือนจะโมโหเพราะพลอตเรื่องของเธอโดนหัวเราะเยาะ
“อะไร? ถ้ามีอะไรจะติ ก็พูดมาตรงๆสิ เพราะฉันเป็นคนใจกว้าง จะยอมรับฟังก็ได้”
“ไม่ไม่ ไม่มีอะไรจะติหรอก ทำไปตามใจชอบได้เลย…….ก็แค่ จะให้คำแนะนำไว้ซักหน่อยนะ”
เพราะแต่เดิมของผมคือ’ตัวประกอบ’ต่อให้ผมทำอะไรก็เปลี่ยนใจแมรี่ซังที่เป็นตัวเอกไม่ได้
เนื้อเรื่องที่จะเข้าไปมีส่วนได้คือเนื้อเรื่องของคนที่ยอมรับผมว่าเป็นพระเอก
แต่ว่า ในเนื้อเรื่องนี้ไม่มีคนนั้นอยู่ เพราะอย่างงั้นบางที ผมคิดว่าจะเคลื่อนไหวตามที่แมรี่ซังคิดไว้
ให้เหมือนกับเต้นอยู่บนฝ่ามือของเธอ
แต่ว่ามีเรื่องที่แมรี่ซังนั้นเข้าใจผิดไปอยู่
นั่นคือ……คนที่เรียกว่าริวซากิเรียวมะนั้นมีความเป็น’พระเอก’มากกว่าที่เธอคิดไว้
และก็ อีกหนึ่งอย่าง ครั้งนี้ดูท่าคิราริจะได้เล่นบทแบบเดียวกับที่อาสึสะเล่น แต่ผมก็สงสัยว่า เธอจะทำตามที่คิดไว้ได้จริงหรอ
เธอนั้นมีจิตใจที่เข้มแข็ง ต่อให้จะโดนริวซากิปฏิเสธก็ตาม ผมก็ไม่คิดว่าจะทำให้เธออกหักได้ ไม่ต้องมาพูดถึง เรื่องที่เธอจะมาชอบผมเลย…..เรื่องแบบนั้น เป็นไปไม่ได้
“เธออย่าดูถูกตัวละครเหล่านั้นเชียวล่ะ ริวซากิกับคิราริน่ะรับมือยากกว่าที่แมรี่ซังคิดไว้อีกนะ”
ผมให้คำแนะนำเอาไว้ก่อน
แต่ว่า แมรี่ซังก็หัวเราะให้คำเหล่านั้นอย่างขำขัน
“HAHAHA! ไม่อะไม่อะ ฉันไม่ได้ไร้ความสามารถจนขนาดคุมคนพวกนั้นไม่ได้หรอกนะ? อดีตของสองคนนั้นก็สืบมาแล้ว พวกนั้นคิดอย่างไง จะคลี่คลายมันอย่างไง ฉันรู้หมดเลยนะ เพราะแบบนั้น ไม่มีทางไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดหรอก”
“งั้นหรอ เอาเถอะ ถ้าแมรี่ซังจะคิดแบบนั้น ก็ได้ แต่ว่านะ จะว่าไงดี……ถึงจะเสียมารยาท แต่ผมคิดว่าสถานการณ์ของแมรี่ซังมันจะพังลงในไม่ช้าน่ะนะ?”
“ーーทำไม?”
อะ โกรธแล้ว
ถึงเธอจะดูถูกผมมาตลอดก็เถอะ แต่คำพูดเมื่อกี้ดูจะฉุนจริงๆ สีหน้านั้นเคร่งขรึม
ถึงเธอจะมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น…..แต่น่าเสียดาย เพราะผมมั่นใจมาก
เธอดูเหมือนจะเล่นตามเลิฟคอมเมดี้ที่ผมกับริวซากิทำไว้ครั้งก่อน
เธอที่ไม่สนใจวิธีการนั้น บางทีคงไม่ได้ใจจะทำมันจริงๆละมั้ง ถึงจะวิธีการแบบเก่าเหมือนที่ทำมา……แต่ว่า ผมไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยหรอกนะ
ก็เพราะ ตอนนั้นกับตอนนี้มันแตกต่างกันอย่างมาก
เพราะนั่นーーมีตัวละครนางเอกอยู่
“ด้วยคาแรคเตอร์แบบแมรี่ คิดว่าจะเป็นนางเอกได้จริงๆงั้นเหรอ?”
ครั้งก่อน มีชิโฮะนั่งตำแหน่งนั้นอยู่
แม้ว่าเธอจะเป็นคนนอก แต่เธอก็มีคุณสมบัตินางเอกเพียงพอเลย
แต่ว่า แมรี่ซังนั้นน่าเสียดาย ผมมองไม่เห็นจุดนั้นของเธอเลย
“ท้ายที่สุดแล้วเพราะเธอเป็นตัวละครเสริมที่เป็นนางเอกรอง เลยน่าจะแสวงหาความสุขให้ตัวเองก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ”
จะว่าไงดี มันดูตลกมากเลยล่ะ
เหมือนกับตัวประกอบที่หลงคิดว่าตัวเองเป็นพระเอก เหมือนผมสมัยก่อนเลย
เพราะงั้นเมื้อกี้ผมดลยเผลอหัวเราะออกมา
แมรี่ซังที่พยายามจะเล่นบทบาทที่ไม่เข้ากับตัวเธอเองนั้น ดูน่าสงสารมาก
“หืーม? พูดมาจนได้เนอะ……ก็นะ ช่างเถอะ ถ้าดูไปเดี๋ยวก็คงรู้เอง ว่าฉันน่ะไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”
“อา นั่นสินะ ผมจะคอยดูแมรี่ซังไปตลอดเลยล่ะ ก็เต้นอยู่บนฝ่ามือเธอนี่ เนอะ”
“…….โคทาโร่นี่ไม่ขัดขืนเลยน้า เคลื่อนไหวตามที่ฉันคิดเนี่ย ไม่ได้ไม่สบายใจหรอกหรอ?”
“ไม่นะ อย่างไงซะ ถ้าผมขัดขืนเธอคงเอาชิโฮะมาเกี่ยวข้องด้วยใช่มั้ยล่ะ? ขอแค่เธอคนเดียวที่ไม่อยากให้มายุ่ง เพราะงั้น ผมจะยอมเป็นของเล่นของแมรี่ซัง”
เอาเถอะ……อืม
มันไม่มีความหมายที่ผมจะต้องสอดมือด้วย ก็เลยไม่ขัดขืน
ก็เพราะ แมรี่ซังน่ะจะต้องพังทุกอย่างลงด้วยมือตัวเองอยู่แล้ว ผมแค่คอยเฝ้าดูอย่างเดียวก็พอ
“อย่าคิดว่ามันจะเป็นไปตามที่คิดเชียวล่ะ? อย่างไงก็ พยายามเข้าล่ะ”
คำเสียดเผลอออกมาจากปากของผมเอง
ขนาดผมเองยังตกใจ
……อา งั้นเหรอ บางทีผมอาจจะโมโหอยู่ก็ได้
ก็เพราะ แมรี่ซังน่ะบอกว่าตัวเองเป็นนางเอก
หรือก็คือ เธอกำลังคิดว่าตัวเองนั้นมีคุณสมบัติเหมือนกับชิโฮะ
เรื่องแบบนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก
ก็เพราะชิโฮะน่ะ เป็นคนที่มีเสน่ห์ขนาดที่แมรี่ซังเทียบไม่ได้เลยไงล่ะ……