หลังจากจับมือกับชิโฮะอยู่ที่สวนสาธารณะ
วันนี้เพราะเธอเหนื่อยมากเลยกลับไปนอนที่บ้าน จึงเป็นวันที่หาได้ยากที่ชิโฮะไม่ได้อยู่ที่บ้านผม ไหนๆก็เป็นโอกาสอันดีแล้ว ผมเลยตัดสินใจว่าจะไปหาดูโทรศัพท์ ที่ห้างที่อยู่ใกล้ๆ
จะว่าไป ผมคิดว่าถ้าไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยจะไม่สามารถซื้อได้นะ แต่ลองไปถามคนขายเพื่อยืนยันดูก่อนดีกว่า
ผู้ปกครองของผมกับอาสึสะนั้นเป็นคนงานยุ่ง ผมก็คิดว่าถ้าขอร้องพวกเขาก็จะมาพบนะ แต่ว่าก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันเป็นเวลานานได้อยู่ดี ดังนั้น ผมจึงได้เช็คไว้ล่วงหน้าเพื่อที่จะได้ใช้เวลาน้อยที่สุด
“……อย่างนี้นี่เอง ไม่เข้าใจเลย”
แต่ว่า ผมไม่เข้าใจเลย ไม่สิ ก็เข้าใจเรื่องการทำสัญญาอยู่หรอก แต่ผมไม่รู้ว่ารุ่นไหนถึงจะดี
สุดท้ายแล้ว ผมก็ได้ใช้เวลาฟังพนักงานร้านอธิบายไปอย่างไร้ความหมาย
อาจจะไม่ควรมาคนเดียวจริงๆก็ได้นะ
ครั้งหน้าลองชวนชิโฮะหรืออาสึสะมาด้วยกันจะดีกว่ามั้ยนะ? ทั้งคู่ค่อนข้างจะติดโทรศัพท์ด้วย ก็ควรจะรู้ละเอียด
ด้วยเหตุนั้น ผมจึงคิดจะกลับทันทีแต่ว่า…….ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า ผมนั้นต้องรับบทเป็นนักแสดงหลักด้วย
(อย่างไงซะ ไปศึกษาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องไว้ก่อนดีกว่ามั้ง)
ตอนเด็กๆผมเคยดูภาพยนตร์มาแล้วเลยพอรู้เนื้อหาอยู่บ้าง แต่ว่า จะว่าไปผมยังไม่เคยดูแบบเป็นตัวอักษรเลย
อย่างไงผมก็ต้องเล่นเป็นตัวหลักอยู่แล้ว เลยต้องรู้พวกรายละเอียดไว้ก่อน
พอนึกขึ้นเสร็จ ผมก็มุ่งหน้าไปร้านหนังสือ
ในเวลาแบบนี้ ห้างที่มีร้านค้าอยู่มากมายนั้นจึงสะดวกมาก สามารถทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกันด้วย……อะ จะว่าไปก็นึกขึ้นได้ว่าอาสึสะบอกว่า’ซื้อของหวานกลับมาฝากด้วย’นี่นะ หลักจากนี้เดี๋ยวซื้อโดนัทไปให้ละกัน
ระหว่างคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ผมก็มองหาหนังสือ
โฉมงามกับเจ้าชายอสูรมันก็โด่งดังอยู่หรอก แต่ที่ผมหาได้มีแต่หนังสือภาพสำหรับเด็กทั้งนั้น
ช่วยไม่ได้ เอาเถอะช่างมัน อย่างน้อยมีก็ดีกว่าไม่มีล่ะนะ……แล้วก็ หนังสือภาพชิโฮะอาจจะเข้าใจง่ายกว่าก็ได้
ก็ระหว่างที่หยิบหนังสือภาพและกำลังจะเดินไปที่แคชเชียร์
“”………อะ””
ผมก็ได้สะดุดลงเพราะพบใบหน้าที่คุ้นเคย
การพบกันโดยบังเอิญนี้นั้น อาจจะมีความหมายอะไรไม่น่าพึงประสงค์อยู่ก็ได้
จนถึงตอนนี้ เธอกับผมนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยทำให้ระดับตัวตนของเธอต่ำ แต่ว่าในเนื้อเรื่องครั้งนี้นั้น เธออยู่ในจุดที่ถือว่าจำเป็น
ดังนั้นหากใช้โอกาสนี้ เจาะลึกคาแรคเตอร์ของเธอลงไปอีกครั้ง อาจจะมีอะไรที่ใช้ประโยชน์ในอนาคตข้างหน้าได้
“โคคุงนี่นา หายากจังเลยนะ”
พอถูกชวนคุยอย่างไม่คาดคิด ทำให้ผมตกใจ
เธอที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนนั้น ปล่อยบรรยากาศนุ่มนวลออกมาเหมือนกับว่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่
แต่ว่าสำหรับผมน่ะ ไม่สามารถกลับไปคุยกันเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว
“อะ อืม……ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คิราริ”
ーผ่านมากี่เดือนแล้วนะที่ได้คุยกันแบบนี้?
บทสนทนาหลังจากตอนเปิดเรียนมันจะน่าอึดอัดไปก็ช่วยไม่ได้
คิราริหัวเราะให้ผม ที่เป็นแบบนั้น
“หา? ก็เจอกันที่โรงเรียนทุกวันนี่ อะไรล่ะนั่น เลอะเลือนไปแล้วหรอ? เนี๊ยะฮะฮ่า”
คิราริเป็นสาวเกลที่ดูดีกับผมที่ย้อมเป็นสีทองกับคอนแทคเลนส์สีฟ้า ผมกังวลตรงชุดของเธอที่ดูหลวมๆและเปิดเผยหน้าอกบางส่วนด้วย
พอผมเห็นเธออย่างนั้นแล้ว ผมก็นึกถึงตัวตนของเธอในอดีตออกมาได้
ตอนม.ต้นนั้นเธอไว้ผมดำ แถมเธอยังมัดผมไว้เหมือนกับลูกโมจิและก็สวมแว่นด้วย เครื่องแบบเองก็สวมอย่างดี เป็นเด็กสาวเรียบร้อยแท้ๆ……ตอนนี้ไม่มีแบบนั้นอยู่อีกแล้ว
ที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ ถึงผมจะคิดว่าเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของผมก็เถอะ
แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไงผมก็ไม่คิดว่าเธอในอดีตกับเธอในปัจจุบันนั้นเป็นคนคนเดียวกัน……