(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 96

ผมเจอกับคิราริที่ร้านหนังสือโดยบังเอิญ

เพราะถูกเรียกครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เลยทำให้ผมหวนนึกถึงเรื่องในอดีต แต่ว่าตอนนี้เราไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนกันแล้ว

 

“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”

 

ต่อให้อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ไปก็ไม่มีอะไรจะพูดอยู่ดี

ผมก็เลยจะไปต่อแถวที่แคชเชียร์เพื่อคิดเงินค่าหนังสือภาพแต่ก็

 

“เอ๋ー? จะไปแล้วหรอ? เป็นเพื่อนกันแท้ๆ อย่าพูดอะไรชวนห่างเหินแบบนั้นสิ~”

 

เธอเข้ามากอดคอผมด้วยท่าทางที่คุ้นเคย

….ประหลาดใจมาก ดูเหมือนผมจะยังถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่’เพื่อน’สำหรับเธอ

 

“…..ห่างเหินหรอ?”

 

ทั้งๆที่ ตั้งแต่ตอนเปิดภาคเรียนเธอไม่เคยมาคุยกับผมซักครั้งเลยแท้ๆนะ

 

“แน่นอนสิ? ก็คบกันมาตั้งแต่ม.ต้นแล้วใช่มั้ยล่า~”

 

แต่ว่า คิราริก็ยิ้มมาแบบไม่มีพิษภัย

ดูเธอจะคิดว่าผมเป็นเพื่อนอยู่จริงๆ

 

(คิราริคงไม่ได้คิดอะไรกับผมจริงๆสินะ)

 

บางที คิราริคงคาดเดาความรู้สึกของผมไม่ได้

เมื่อก่อนเธอก็เป็นคนรักสันโดษ ผมก็เลยคิดตั้งแต่แลกแล้วว่าเธอเป็นคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของอื่น……แต่มันถึงขนาดนี้เลยหรอ

 

ที่จริงแล้ว สำหรับคิราริผมคงไม่ใช่เพื่อนหรืออะไรทั้งนั้นแหละ

ก็แค่บังเอิญได้เป็นคู่สนทนาของเธอในตอนม.ต้น และเธอก็ใช้ประโยชน์จากส่วนนั้น

 

“หรอ งั้นหรอ คบกันมาตั้งแต่ม.ต้นสินะ”

 

แต่ว่า ทางนี้เองก็ไม่มีความรู้สึกมากพอให้รู้สึกโกรธคิราริได้หรอก

ผมไม่ได้มีแม้แต่ความรู้สึกเกลียดที่จะปฏิเสธเธอ เลยตอบกลับไปด้วยคำพูดไม่ได้ใส่อารมณ์ไว้มาก

 

“ใช่แล้ว♪ น่าคิดถึงจังเลยน้า……ตอนม.ต้นก็คุยกันเยอะเลยไม่ใช่รึไง? นั่นไงล่ะ ตอนนั้นอ่านไลท์โนเวลไง พอมาคิดตอนนี้ รู้สึกขายหน้ามากเลย”

 

“…..ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอายตรงไหนเลยนะ เธอเลิกอ่านมันแล้วหรอ?”

 

“แน่นอนสิ เพราะกลายเป็นสาวแกลแล้ว ไลท์โนเวลน่ะไม่แปลกไปหน่อยรึไง? ไม่สิ แค่หนังสือเองก็ไม่เคยได้อ่านเลยด้วยนะ~?”

 

“ถ้างั้น ทำไมถึงอยู่ที่ร้านหนังสือล่ะ?”

 

ทันทีที่ถามแบบนั้นไป รอยยิ้มของคิราริก็หายไป

 

“…..นั่นสิ ทำไมกันนะ”

 

บางที คงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เอาเถอะ ผมไม่ได้สนใจถึงขั้นจะถามอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะจบบทสนทนานี้

 

ถึงคิวของผมพอดีเลยด้วย ผมก็เลยคิดเงินค่าหนังสือภาพ

จากนั้น พอออกจากร้านหนังสือไปทั้งๆแบบนั้นเลย คิราริก็ตามหลังมา

 

“……อะ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’นี่นา จริงสิ จะว่าไป โคคุงได้เล่นเป็นตัวละครหลักสินะ ก็เลยศึกษาหรอ? หืม เก่งนี่นา”

 

“ก็ปกตินะ จะว่าไปคิราริไม่ซื้ออะไรหน่อยเหรอ? ผมคิดว่าจะกลับแล้วน่ะ”

 

รู้สึกรำคาญหน่อยๆแล้ว

ผมอยากให้เธอหยุดและปล่อยไปซักที แต่เธอก็ยังตามมาอยู่

 

“ไม่ซื้อ อืม………ขอโทษ โกหกน่ะ ที่จริงก็ตั้งใจจะซื้อนั่นแหละ วันนี้นะ เพราะริวคุงเอาแต่หมกมุ่นกับแมรี่จนไม่แคร์เราเลย…..พออารมณ์ไม่ดีแล้ว มันก็นึกถึงวันเก่าๆน่ะ แล้วก็ คิดว่าจะกลับมาอ่านไลท์โนเวลอีกรอบซักหน่อย แต่พอได้เจอโคคุงก็เปลี่ยนใจแล้ว”

 

……ผมไม่ได้ถามเลยแท้ๆนะ

แต่เพราะเธออธิบายมาให้ ผมเลยพอเข้าใจสถานการณ์แล้ว

 

คิราริเริ่มถูกดีดออกจากตำแหน่งของตัวเอง เป็นไปดั่งพลอตที่แมรี่ซังวางไว้ บางทีคงเพราะไม่ได้รับความรักจากริวซากิเลย เธอก็เลยเหงา

 

เพราะอย่างงั้น เธอเลยคิดจะกลับไปยึดติดกับอดีต

เหมือนกับตอนม.ต้น ที่เอาแต่พูดกับตัวเองว่าต่อให้ตัวคนเดียวก็ไม่เป็นอะไร

 

แต่ว่า คิราริตรงนี้นั้นไม่ใช่’คิราริ’ในตอนนั้นอีกแล้ว

ถึงจะอยู่คนเดียว ก็ไม่มีทางที่เธอจะไม่เป็นอะไรได้

 

เพราะงั้น ครั้งนี้เธอเลยตั้งใจจะเกาะติดผมแทน

เธอตั้งใจจะใช้ผมเติมเต็มความเหงาในส่วนที่ริวซากิไม่ได้เติมเต็มให้เธอ

 

พอเห็นแบบนั้นแล้ว ผมก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา

ตอนม.ต้นนั้น ทั้งๆที่ตอนเธออยู่คนเดียวนั้นก็ยังดูเท่ห์แท้ๆเชียวนะ

 

“งั้นหรอ……ทั้งๆที่ชอบนิยายขนาดนั้นแท้ๆ แต่เลิกอ่านไปแล้วสินะ คิราริน่ะ……เปลี่ยนไปมากเลยนะ”

 

ที่เปลี่ยนไป ถึงจะไม่ได้มีแค่งานอดิเรกกับความชอบก็เถอะนะ

แต่ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรพิเศษต่อเธอถึงขั้นจะอยากพูดมันออกมาหรอก ดังนั้นผมจึงพูดไว้คลุมเคลือ

 

พอทำแบบนั้นแล้ว คิราริก็กลับมายิ้มอีกครั้ง

เหมือนกับ ตอนม.ต้น…….รอยยิ้มที่สนุกสนานตอนเธอใช้ประโยชน์จากผมโดยการชวนคุย

 

“เนียฮะฮะ ก็นะ ก็พอรู้ตัวอยู่ว่าตัวเองเปลี่ยนไป……แต่ว่าถ้าจะพูดแบบนั้น โคคุงเองก็เปลี่ยนไปมากเลยนะ?”

 

“……ผมหรอ?”

 

คำพูดนั้น ทำให้ผมเอียงคอสงสัย

คิราริรู้จักผมมากพอที่สามารถบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผมเลยงั้นหรอ

 

เรื่องนั้นผมสงสัยมาก

ตัวผมในสายตาของคิรารินั้นเป็นคนแบบไหนกันนะ…….

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset