เธออธิบายตัวผมตอนม.ต้น ด้วยประโยคเดียว
“ดูไม่ออกเลยล่ะนะว่าโคคุงคิดอะไรอยู่”
“…..ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“อืม ดูเหมือนกับหุ่นยนต์รึป่าวนะ? ถ้าชวนคุยด้วยก็จะตอบกลับมาอยู่หรอกนะ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยโคคุงก็ดูเหมือนจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลยด้วย”
……เหมือนหุ่นยนต์ーหรอ
จะว่าไปก่อนหน้านี้ ก็รู้สึกเหมือนอาสึสะจะพูดอะไรคล้ายๆแบบนี้ด้วย
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด น่าจะก่อนที่เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับชิโฮะจะยังไม่แตกกับริวซากิ
ตอนที่อาสึสะขอร้องผม เธอพูดว่า’อยากให้เก็บเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นความลับ’
‘เพิ่งเคยเห็นโอนี่จังที่ใส่อารมณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกเลย…..ตกใจมากเลยล่ะ โอนี่จังเองก็เป็นมนุษย์จริงๆสินะ’
ก่อนหน้านั้น ก็ดูเหมือนว่าอาสึสะก็ไม่คิดว่าผมเป็นมนุษย์เหมือนกัน
แล้วก็ คิราริเองก็น่าจะมีความรู้สึกต่อผมในแบบเดียวกัน
“เราก็คิดว่าสนิทกันแล้วแท้ๆละนะ? แต่ว่า พอขึ้นม.ปลายก็เอาแต่ไม่สนใจทำเหมือนคนแปลกหน้า…..ก็เลยคิดว่าสำหรับโคคุงแล้วเราคงไม่ใช่คนสำคัญอะไรหรอกมั้ง”
“อย่างงั้นหรอ…….”
อย่างนี้นี่เอง พอถูกพูดใส่แบบนี้ก็พอเข้าใจได้
ตัวผมก่อนที่จะพบกับชิโฮะนั้น เป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ผมไม่สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระเป็นเหมือนกับหุ่นยนต์
อย่าพูดถึงเรื่องชวนคนอื่นคุย แค่แสดงอารมณ์สีหน้าออกมาผมยังแทบไม่เคยทำ
ถ้าพูดให้ถูกคงเป็น’ไร้ซึ่งความรู้สึก’แบบนี้จะตรงมากกว่า
“เรื่องนั้น ช่วงนี้รู้สึกว่าจะดีขึ้นแล้ว……เป็นคนที่เข้าใจง่ายขึ้นมาก เมื่อกี้ตอนที่เจอกับเรา ก็ทำหน้าไม่ชอบออกมาด้วยนี่นะ”
อะไรกันรู้ด้วยงั้นหรอ
ถึงผมจะไม่อยากพูดมันออกมาเท่าไร แต่ดูเหมือนคิราริจะรู้มันอยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังจะชวนผมคุย
“รู้สึกตัวมาตั้งแต่ช่วงเข้าค่ายแล้วล่ะ โคคุงเปลี่ยนไปมากเลยนะ เพราะแบบนั้น ก็เหมือนกับเราสินะ…….รักใครซักคน แล้วเปลี่ยนตัวเอง ใช่มั้ยล่ะ? เปลี่ยนตัวเองเพราะชิโมสึกิชิโฮะใช่มั้ยล่ะ?”
“………”
ผมปฏิเสธคำพูดพวกนั้นไม่ได้เลย
ระหว่างเดินในห้างอย่างเงียบๆ ผมก็ทบทวนคำพูดของเธอ
บางทีไม่แน่ ผมอาจจะเหมือนกับคิราริก็ได้
เพราะผมเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อชิโฮะเหมือนกัน
“โคคุงที่ไม่เป็นมิตร ไม่พูด ไม่แสดงอารมณ์คนนั้น……กลายเป็นคนที่วิเศษแบบนี้ได้ ไม่รู้มาก่อนเลย”
ーทำไมถึงมาพูดแบบนั้นตอนนี้ล่ะ
พูดอะไรที่มีเลศนัยแบบนั้น เธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่
“เจ็บใจมากเลยล่ะ ที่ไม่ได้เปลี่ยนเพื่อเราบ้าง คิดดูอีกที ชิโมสึกิชิโฮะนี่สุดยอดมากเลยนะ……ทั้งริวคุง ทั้งโคคุง ทุกคนต่างพากันยกย่องเธอกันหมดเลย”
พูดแบบนั้นจบ เธอก็เข้ามาจับแขนของผม
เธอจะผมเพื่อจะไม่ให้หนีไปไหน แรง…..เธอจับแรงขนาดที่รู้สึกเจ็บเลย
“เป็นเราไม่ได้หรอ?”
……คำพูดนั้น เธออาจจะไม่ได้อยากพูดมาให้แค่ผมคนเดียว
เธอปลดปล่อยอารมณ์ออกมาเหมือนกับ อยากจะพูดกับริวซากิด้วย
“เราต่างกับชิโมสึกิชิโฮะ ขนาดนั้นเลย?”
อะไรเป็นคำตอบที่ถูกต้องของคำถามกันแน่นะ
“เราเป็นตัวแทนให้ไม่ได้เลยงั้นหรอ? นี่ โคคุง……เราไม่จำเป็นต้องเป็นที่หนึ่งก็ได้นะ ถ้าชอบเราล่ะก็ เราจะเปลี่ยนตัวเองให้ขนาดไหนก็ได้ ถ้าไม่ชอบเรา เราก็พยายามเป็นเหมือนชิโมสึกิชิโฮะแล้วนะ ถึงอย่างงั้นแล้ว ทำไม………ทำไมทั้งริวคุง ทั้งโคคุง ถึงไม่หันมาบ้างเลยล่ะ?”
พอเห็นเธอครวญครางแบบนั้นออกมา อารมณ์ต่างก็พรั่งพรูออกมา
ผมสะบัดมือเธอออกและก็จ้องหน้าเธอ
ผมเกลียดคิราริ ที่ปฏิเสธตัวเองแบบนี้มาก
ดูเหมือนกับตัวผมในอดีต…..ทั้งโหดร้าย และน่าสังเวช
“ก็เพราะตรงส่วนนั้นไงล่ะ”
ทำไมเธอถึงยังไม่เข้าใจล่ะ?
ทำไมคิราริถึงเอาแต่คิดอะไรด้วยอคติของตัวเองอยู่เสมอเสมอเลยล่ะ?
“อย่ามาเกาะแกะนะ…….นี่ คิราริน่ะ อยากเป็นอะไรกันแน่?แค่อยากถูกรักนั่นคือทุกอย่างของเธอแล้ว? พอเห็นคิราริในตอนนี้แล้ว รู้สึกเศร้ามากเลยนะ……ก็จริงที่ทั้งผมและเธอเปลี่ยนไป แต่ว่า วิธีเปลี่ยนแปลงของคิราริมันแปลกนะ เธอไม่ได้แค่เติบโต แต่เธอก็ถดถอยลงไปด้วย”
ถึงอาจจะเสียมารยาทต่อคิราริก็ตาม
แต่มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ต้องพูดให้ชัดๆ
“คิราริก่อนหน้านี้น่ะเท่ห์มากเลยนะ เธอในตอนนี้น่ะก็แค่คนขี้เกียจที่กระหายความรัก แต่ไม่คิดจะได้มันมาได้ตัวเอง……คนที่ผมเคยชอบน่ะ มันหายไปไหนแล้วเล่า?”
น่าเศร้ามาก
พอเห็นอดีตเพื่อนสนิทของตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากประจบคนอื่นแล้ว ไม่อยากทนดูต่อเลย
ผมกับคิราริเหมือนกัน?
ไม่ล่ะ ผิดแล้ว การเปลี่ยนแปลงผมน่ะคือ’เติบโต’ แต่การเปลี่ยนแปลงของคิราริน่ะคือ’ถดถอย’
ไม่อยากให้นับรวมกันเลย
“เพราะริวซากิไม่หันมามอง ครั้งนี้เธอเลยจะอาศัยผมแทนงั้นหรอ?”
ถึงจะน่าเศร้า แต่ผมไม่ใช่ผู้ปกครองของเธอซักหน่อย ไม่ใช่ทั้งสายเลือดเดียวกัน ไม่ใช่คนในครอบครัว แน่นอนว่าผมไม่ใช่นักบุญที่จะมอบความรักให้ผู้อื่นแบบไม่มีเงื่อนไข
อย่างเช่นถ้าคิราริเป็นคนในครอบครัว…….สมมติว่าถ้าเธอเป็นน้องสาว
แบบนั้น ผมอาจจะรักเธอก็ได้ล่ะมั้ง ไม่ว่าจะถูกทำเรื่องโหดร้ายแบบไหน พูดอะไรใส่ ผมก็จะไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน และยอมรับมัน
แต่ว่า คิราริน่ะเป็นคนอื่น
ใจผมไม่ได้กว้างขนาดนี้ จะมาดูแลชีวิตของเธอได้หรอกนะ
“ขอโทษ ผมน่ะไม่เหมือนตอนม.ต้นอีกแล้ว…….ถึงเธอจะต้องการก็ตาม ผมก็ตอบรับเธอไม่ได้หรอกนะ”
ก็เพราะผมน่ะ มีคนที่อยากจะมอบทุกอย่างให้อยู่แล้ว
ผมช่วยคิราริไม่ได้หรอกถ้ามันจะเป็นการหักหลังเธอคนนั้นหรอก
“ขอร้องล่ะ…..อย่าทำให้ผมผิดหวังไปมากกว่านี้เลย”
“…….”
คิราริคิดอย่างไงกับคำพูดนั้นกันนะ?
ผมไม่ค่อยเข้าใจคิราริ เพราะเธอมองผมแบบไม่พูดอะไรซักคำ
เหมือนกับตัวผมในอดีตเลย…….