Tobioriru Chokuzen no Dokyusei ni xxx Shiyo! to Teian Shite mita
ชื่อไทย : เพื่อนร่วมชั้นกำลังจะกระโดดตึกตาย ผมจึงตะโกนออกไปว่า Seggg
Chapter : 11 สาวงามมาเยือนบ้าน!
.
.
.
วันนี้วันเสาร์ ผ่านไปไม่กี่วันหลังเหตุการณ์คุรุมิซัง(ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ)
ฉันเดินเตร่วนไปมารอบๆทุกที่ในบ้านราวกับคนเร่ร่อน จนน้องสาวบ่น “เกะกะ” อยู่หลายครั้ง โหดร้ายชะมัด
อย่างไรก็ตาม ก็ช่วยไม่ได้จริงๆที่ใจฉันจะอยู่ไม่สุข นั่นก็เพราะวันนี้คุรุมิซังจะมาที่บ้าน ถึงกระนั้น มันก็เกิดเรื่องบางอย่าง ทั้งหมดเกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวานหลังเลิกเรียน
***
ระหว่างทางกลับบ้านยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ฉันเอ่ยชวนคุรุมิซัง
“พรุ่งนี้ไปเที่ยวเล่นบ้านฉันไหม?”
“…ท-ทำไมล่ะ?”
“นั่นไง คราวก่อนฉันบอกว่าจะแนะนำน้องสาวให้รู้จักใช่ไหม? พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ น้องสาวของฉันไม่มีกิจกรรมชมรม ก็เลยกะว่าจะแนะนำให้เธอ~แหนะ”
“พูดจริงนะ…”
“แน่นอน ฉันจริงจังกับคุรุมิซังอยู่เสมอนั่นแหละ ทั้งคำพูดและความรักเลย”
“…! อุ….!”
คุรุมิซังก้มลงด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขินงั้นเหรอ หรือเป็นเพราะแสงอาทิตย์กันนะ ทำไมใบหน้าของเธอมักจะย้อมเป็นสีแดงในช่วงอาทิตย์ตกดินด้วยล่ะเนี่ย
“แน่นอนว่าถ้าคุรุมิซังไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ฉันอยากแนะนำให้รู้จักกับน้องสาว ตอบแทนเรื่องที่ให้ฉันอยู่พักเมื่อวันก่อนน่ะ ว่าไงล่ะ?”
“………ก-ก็ไม่ได้มีธุระอะไรนะ ก็ได้อยู่หรอก”
“จริงนะ!? สำเร็จ!”
“ดีใจเกินไปแล้ว…ว่าแต่ พรุ่งนี้พ่อแม่ของนายอยู่ด้วยรึเปล่า?”
“เออ๋!? หรือว่าอยากจะทักทายฝากตัวอย่างเป็นทางการ!? แต่ว่า ขอโทษนะ พ่อแม่ของฉันทำงานวันเสาร์น่ะ…”
“ไม่ใช่ ไม่ได้จะฝากตัว! ก็แค่…กังวัลที่จะต้องไปพบหน้านิดหน่อย”
[ TL : ไปลักหลับลูกเขา ไม่กล้าเจอหน้าล่ะสิ( ͡° ͜ʖ ͡°) ]
ด้วยเหตุผลบางอย่าง นัยน์ตาของคุรุมิซังดูเคอะเขิน ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรกันให้ตายสิ
“พ่อตาแม่ยายในอนาคตเลยนะ?”
“มะ ไม่ใช่สักหน่อย! ยังไงก็เถอะ พรุ่งนี้ไม่อยู่สินะ?”
“เอาเถอะ ก็ตามที่พูดไปนั่นแหละ”
ไม่อยากเจอหน้าขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ เอาเถอะ ถ้าถามว่าอยากเจอหน้าพ่อของคุรุมิซังตอนนี้ไหม ก็คงต้องส่ายหน้า คงจะกรณีคล้ายๆกันล่ะมั้ง
“งั้น…อืม ไปก็ได้”
“ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากเจอหน้าพ่อแม่ก็เถอะ แต่ฉันว่าน้องสาวคงจะต้องดีใจแน่ๆถ้ารู้ว่าตัวเองกำลังจะมีพี่สะใภ้น่ะ!”
“วะ กะ ก-ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่แต่งงานด้วยน่ะ! แค่เพื่อน! แค่ไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนแค่นั้นเอง——พวกเราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม?”
“แต่ในความคิดฉันเธอเป็นภรรยาฉันแล้วนะ?”
“ในความจริงล่ะ?”
“มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน”
“โล่งอกไปที ยังมีหัวสติปัญญามองเห็นความเป็นจริงได้อยู่ โล่งอกจริงๆ”
“เห คุรุมิซังเองก็คิดว่าฉันเป็นมากกว่าเพื่อนด้วยสินะ”
ฉันรู้สึกเหมือนโดนคุรุมิซังทำราวกับเป็นคนงี่เง่า เลยเอาคืนกลับบ้าง คุรุมิซังก็เปล่งเสียงหลงออกมา
“——เอ๊ะ? อ๊ะ ไม่สิ ม-ไม่ใช่นะ…งืออ! อ-อย่ามายิ้มกรุ้มกริ่มนะ!”
“อะฮ่าฮ่า~ แล้วเมื่อไหร่จะได้เลื่อนขั้นเป็นคนรักสักทีล่ะ?”
“~~~~! มะ ไม่มีทาง! ไม่มีทางเลื่อนขั้นเด็ดขาด! แล้วจะลดขั้นเดี๋ยวนี้ล่ะ! ลดลงไปเลย! ลดขั้นแล้ว! ลดจนไปเหลือแค่เพื่อนเลย!”
“ถึงอย่างงั้นก็ยังรักษาความเป็นเพื่อนไว้สินะ โม่ ซึนเดเระจังเลยน้า!”
“…งือ นะ หนวกหู! ขยะแขยง!”
“อะฮ่าฮ่า ขอโทษ!”
“ตาบ้า งี่–เง่า!”
ฮึ๊ม คุรุมิซังเบนหน้าหนีแล้วสาวท้าวไปข้างหน้า
“ก็ขอโทษไงล่า!”
ฉันตื่นตระหนกและวิ่งตามไป
***
นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้น และวันนี้ก็เป็นวันที่ฉันสัญญากับเธอเอาไว้
ไม่แปลกเลยที่จะกระสับกระส่าย ทำความสะอาดห้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเฉพาะถังขยะ ต้องให้แน่ใจว่าไม่มีทิชชู่อยู่ในนั้น ซ่อนหนังสือลามกไว้ และลบประวัติการค้นหาคอมพิวเตอร์…เอาล่ะ เท่านี้ก็คงเรียบร้อย!
“หนวกหูนะพี่! อะ เอ่อ…ทำความสะอาดห้องเหรอ? บอกว่าเพื่อนจะมาใช่ไหม?”
น้องสาวมองไปรอบๆแล้วหยุดมามองที่ฉัน
“? ก็ทำความสะอาดดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“หืม? อ่า เพื่อนแบบนั้นสินะ”
แบบนั้น? พูดถึงอะไรกันน่ะ ขณะกำลังสงสัย สมาร์ทโฟนก็สั่น เมื่อฉันดูก็พบว่ามีข้อความจาก LIME
เจ้าสาวในอนาคต : ใกล้จะถึงสถานีแล้ว
ฉัน : ถ้างั้นจะออกไปรับนะ
คุรุมิซังจะมาที่สถานี่ที่ใกล้ที่สุด แล้วฉันก็ออกไปรับเธอที่นั่น เมื่อออกจากบ้านและตรงไปสถานี ฉันก็มาถึงในเวลาไม่ถึงสิบนาที
หลังจากรอสักพักก็พบคุรุมิซังที่ออกมาจากประตูตรวจตั๋ว
เธอสวมชุดเสื้อถักหนาเรียบง่ายสีน้ำตาลและเสื้อหนังสีดำ อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายของชุดถูกเสริมความงดงามด้วยตัวเธอ คุรุมิซังดูมีสไตล์ เธอผอมเพรียว สูงยาวเข่าดี มีหน้าอกแม้จะไม่ใหญ่มาก นอกจากนั้นยังทั้งสวยและนิสัยดี
“งาย คุรุมิซัง! ชุดเหมาะมากเลยล่ะ! สมกับเป็นมืออาชีพ!”
“ง-งั้นเหรอ? นานมาแล้วนะที่ไม่ค่อยถูกชมเรื่องชุด รู้สึกดีใจอยู่นะ”
คุรุมิซังยิ้มพลางยกมือบังปาก ปลายนิ้วที่โผล่จากแขนเสื้อเล็กน้อยทำให้หัวใจเต้นระรัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ใจจะเจ้นตึกตัก รุนแรงเสียจนราวกับมีภาพลวงตากำลังระเบิดตูมตาม
“อึก…!”
“ป-เป็นอะไรไป!?”
“อูว…คุรุมิซังน่ารักเกินไปจนหัวใจจะวายแล้ว——”
“อะเหรอ เป็นห่วงซะเปล่า”
“ไม่เย็นชาไปหน่อยเหรอ? หรือว่าจะกระวนกระวายเรื่องแต่งงาน?* เหมือนจะเป็นเรื่องลำบากก่อนแต่งงานนะ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำให้คุรุมิซังมีความสุขอย่างแน่นอน”
“โม่…ตาบ้า ว่าแต่มันหนาวนะ รีบไปที่บ้านกันเถอะ”
“นั่นสินะ——ถ้าหนาวล่ะก็สวมไหม?”
[ TL : マリッジブルー/marriage blues คือ ภาวะเครียด ซึมเศร้าและกระวนกระวายใจก่อนจะแต่งงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะแปลยังไง ]
ฉันเดินมาแค่สถานีดังนั้นจึงไม่หนาวขนาดนั้น ขณะกำลังจะถอดเสื้อคลุม คุรุมิซังก็หยุดฉัน
“ไม่หรอก ถ้าไม่ไกลขนาดนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณนะ”
“งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ!”
“ค่าค่า”
คุรุมิซังยิ้มเจื่อนบนใบหน้า และออกเดินไปที่บ้านของฉันด้วยกัน
ขณะเดินพลางพูดคุยเรื่อยเปื่อย คุรุมิซังก็ขัดจังหวะด้วยการพูดถึงเรื่องอื่น โดยปกติฉันมักจะเป็นฝ่ายพูด จึงฟังด้วยความประหลาดใจกึ่งมีความสุขครึ่งหนึ่ง
“จ-จะว่าไปแล้วใกล้จะทัศนศึกษาแล้วสินะ”
“ทัศนศึกษา…จะว่าไปอาจารย์ก็บอกไว้ เกียวโตใช่ไหมนะ?”
“อืม”
คุรุมิซังเปิดริมฝีปากออกเล็กน้อย
“ตั้งตารอทัศนศึกษางั้นเหรอ?”
เธอเปลี่ยนหัวข้อฉันจึงถามออกไป เมื่อฉันถาม เธอลังเลสักพักจากนั้นก็พยักหน้า “ฮืม” และเริ่มพูด
“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉันคงไม่ไปเด็ดขาด จะว่ายังไงดี…นั่นน่ะ? ทีแรกฉันคิดว่าอยากจะตายไปแล้ว——แต่ว่า”
เมื่อคำพูดตัดลง คุรุมิซังก็มองตรงมาที่ฉันด้วยนัยน์ตาเขินอาย
“ถ้ามีนายอยู่…อาจจะสนุกก็ได้”
“…!”
“อ๊า น่าอายจัง”
คุรุมิซังวาดยิ้มและยื่นศอกใส่ฉัน น่าอาย จั๊กจี้ น่ารักชะมัด จั๊กจี้อะ น่ารักน่ารักน่ารักน่ารักโว้ย
“ถ-ถ้าโดนคนที่ชอบพูดแบบนั้นใส่เข้าก็ต้องอายอยู่แล้วสิ! มีความสุขเกินไปแล้ว!? จะต้องแต่งงานให้ได้เลย! ไม่ว่ายังไงก็ตาม! จะไม่ยกให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น! ฉันจะเป็นคนทำให้คุรุมิซังมีความสุขเอง!”
“——ฮึก! อย่าตัดสินใจไปเองคนเดียวสิ!”
คุรุมิซังประท้วงด้วยใบหูแดงระเรื่อ เหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก
“คุรุมิซังก็เขินอยู่นี่นา”
“~~~~! ห-หนวกหู! ตาบ้า! อ-เอ่อ งี่เง่า! ตาบ้างี่เง่า!”
เธอหันหลังให้และไม่ยอมพูดด้วยจนกระทั่งถึงบ้าน แต่เพราะน่ารักฉันจึงปล่อยไว้
***
เมื่อถึงบ้าน ฉันหยิบกุญแจออกมาแล้วปลดล็อค
คุรุมิซังยังคงปิดปากเงียบ แต่ยังตามมาแต่โดยดี เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็พูดว่า “รบกวนด้วยนะคะ” ด้วยเสียงแผ่วเบา มีมารยาทจริงๆ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านบน คงเป็นเสียงน้องสาวฉัน ฉันถามเธอล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะพาเพื่อนมาแนะนำได้ไหมวันนี้ เธอคงจะลงมาทักทาย
ภายในไม่กี่วินาทีเธอก็ลงบันไดมา และน้องสาวของฉันก็ปรากฎตัวขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ น้องสาวของพี่นั่น คาสึมิค่ะ”
ไม่ใช่ท่าทางอันหยาบคายที่เธอปฏิบัติกับฉัน รูปลักษณ์ราวกับแมวที่อยู่ด้านนอก รู้สึกเหมือนโทนเสียงของเธอเพิ่มขึ้นหนึ่งหรือสองระดับ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชายเธอ โคกะ คุรุมิค่ะ”
ในทางกลับกัน ด้านคุรุมิซังรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าคงปกติ ตอนนี้คาสึมิอยู่ชั้นม.ต้นปีสาม ดังนั้นจึงไม่ได้อายุห่างจากเรามากนัก และคนที่กลั่นแกล้งคุรุมิซังก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงวัยเดียวกัน
สรุปก็คือคุรุมิซังรับมือไม่เก่งกับผู้หญิงวัยนี้
คุรุมิซังทักทายเสร็จพลางเดินเข้ามาใกล้ฉัน
“โคกะ…คุรุมิ…”
“อ-เอ่อ…อะไรงั้นเหรอ?”
คาสึมิวางมือทาบบนคางพลางจ้องไปที่คุรุมิซัง มอง มอง มอง——ใบหน้าของเธอเปื้อนด้วยความประหลาดใจ
“อะ! อ๊ะ! เอ๋!? โคกะ คุรุมิซังเนี่ย คือคนที่พี่ชายชอบ…สินะ?”
“ใช่แล้วไง?”
เธอถามมา เมื่อฉันตอบสั้นๆใบหน้าของคาสึมิก็กระตุก
[ TL : เดี๋ยวนะ น้องถามแบบนี้ถ้าไอ้พี่ชายเอ็งยังไม่เคยสารภาพรักนี่แตกเลยนะ ]
“วะว้าาาาาาาาา! มะ แม่ค้าาาาาาา! อะ ไม่อยู่นี่นา! อ๊าาาาาาาาาาา พี่ชายน่ะ พี่ชายลงมือทำอาชญากรรมไปแล้ว——! ไอ้บ้านี่! ลักพาตัวมาทำไมกัน!”
“อย่ามาพูดใส่ร้ายคนอื่นสิฟะ! ฉันไม่ได้ลักพาตัวมาสักหน่อย!”
“ถ้างั้น ทำยังไงถึงได้พาคนสวยขนาดนี้มาที่บ้านได่ล่ะ——ฮึก ม-ไม่จริงน่า สะกดจิตงั้นเหรอ…หรืออะไรทำนองนั้น!? ทั้งที่บอกว่าแค่อาชญากรรมเท่านั้นที่ห้ามเด็ดขาดเลยแท้ๆเชียววววว!”
“อาชญากรรมเนี่ยฉันไม่ได้——”
“หุบปากไปเลย! ไอ้สัตว์ร้ายกระหายเลือดนี่! ไม่ต้องห่วงนะคะโคกะซัง ฉันจะปกป้องคุณเองค่ะ!”
คาสึมิเข้ามาแทรกระหว่างฉันกับคุรุมิซังและยืนขวางราวกับมนุษย์กินคน
“ก็บอกแล้วไงว่าเข้าใจผิดดดด!”
“…หุฟุฟุ”
แฮร่ ฉันทำได้เพียงคร่ำครวญต่อคาสึมิที่แยกเขี้ยวใส่ และด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้สถานการณ์จะวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง คุรุมิซังกลับเริ่มหัวเราะยังมีความสุข
อย่างน้อยก็ให้ฉันถอดรองเท้าก่อนได้ไหม ฉันครุ่นคิดขณะแหงนหน้ามอง
—————
น้องปั่นจัดตอนนี้(ฮา) ส่วนเจ้าสองคนนี้ก็หวานกันไปอี๊ก มีซึนยอมรับว่ามากกว่าเพื่อน(ฮา) พระเอกมันหลอกถามเก่ง นักหยอดระดับชาติ
ถ้าชอบก็รบกวนฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แค่ก คนเหงาและง่วง | Facebook
—————
แปลผิดตรงไหนขออภัย พอดีไม่ช่ำ