เเม้จะมาถึงห้องเรียนเเละคาบเรียนกําลังจะเริ่มเเล้วเเท้ๆ เเต่เจ้ายูอิจิก็ยังพยายามตื๊อให้ชั้นช่วยไม่หยุดหย่อน
“ไม่เห็นเป็นไรเลยหนิ! ขอร้องล่ะ เป็นคําขอร้องของทั้งชีวิตเลยนะ!”
“ชั้นพึ่งคบเป็นเพื่อนกับนายมาเเค่สองปีเองนะเฟ้ย! ไอคําขอร้องเเบบนั้นชั้นจะรับไว้ได้ยังไงฟะ! คําขอร้องของทั้งชีวิตน่ะ… นั่นสินะ นายเก็บมันไว้ใช้ขอให้ชั้นไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานเเต่งของนายเถอะ”
“สึคาสะ..! ถึงนายจะพูดอะไรที่เหมือนจะดูดีออกมา เเต่ที่พูดมานั่นชั้นไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยนะ”
“ชั้นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันแหละเฟ้ย! ว่าตัวเองพูดเรื่องอะไรออกไป”
ชั้นพูดเรื่องนู้นเรื่องนี้กับยูอิจิไปอย่างนั้น
จะว่าไปเเล้วนี่มันไม่ใช่เวลาที่ชั้นควรจะมาคุยกับยูอิจิอยู่เเบบนี้นะ
ก็เพราะว่า… ชั้นลองเหลือบมองไปยังทิศทางนึงดู
“…!”
เเน่นอนว่าจุดที่ชั้นมองไปมีนางรองของ “โอโจ้วจามะ” อย่าง ชิมาดะ เซย์ อยู่
เเต่ทุกครั้งที่ชั้นเหลือบมองไปทางเซย์จัง เเก้มของเธอจะเเดงขึ้นเเละเธอก็จะเบี่ยงหน้าหนีไปตลอด
เเบบนี้มันคงชัดเจนเเล้วล่ะ นี่ชั้นกําลังโดนหลบหน้าอยู่สินะ…
“เห้อ~ อยากตายจังเลยวุ้ย…”
“ยะ.. อยู่ๆเป็นอะไรไปล่ะ สึคาสะ? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
“หุบปากเฟ้ย นายนี่ดีจังเลยนะ ยังไงก็… ช่างเถอะ”
“เอ๊ะ อะไรล่ะ ถ้าพูดออกมาซะขนาดนั้นเเล้ว ก็พูดให้จบสิ”
เจ้าหมอนี่คือตัวเอกของมังงะไม่ว่าจะกับ ฟุจิเสะ ชิโฮะ หรือ โทโจวอิน คาโอริ ก็สามารถคบเป็นเเฟนด้วยได้ทั้งนั้น ในอีกความหมายหนึ่งหมอนี่คือผู้ชายเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่ไม่ว่าจะสารภาพรักกับใครผลก็จะออกมาสําเร็จอย่างเเน่นอน
เส้นทางที่หมอนี่จะถูกปฏิเสธน่ะ ไม่มีหรอก
เเต่กลับกันชั้นน่ะ… เป็นเเค่ตัวละครเพื่อนสนิทของหมอนี่เฉยๆ ซึ่งหมายความว่าเรื่องราวความรักของ ฮิซามูระ สึคาสะ น่ะไม่มีโผล่มาให้เห็นเลยสักนิดยังไงล่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่องความรักอย่างเดียวล่ะก็มีความเป็นไปได้ที่ชั้นจะถูกปฏิบัติต่อเเย่กว่าพวกนางรองอย่าง เซย์จัง หรือ ริเอะ ด้วยซํ้า
กล่าวอีกนัยนึงเซย์จังอาจจะเป็นนางรองที่ไม่สมหวังก็จริง… เเต่ชั้นเป็นเเค่ตัวละครที่ไม่ได้อยู่บนเวทีความรักเลยด้วยซํ้า
เห้อ~ เพราะเมื่อวานชั้นตื่นเต้นจากการที่คิดว่าทั้งหมดนี่เป็นฝัน เลยพ่นคําอย่าง [ชั้นจะทําให้เซย์จังมีความสุขอย่างเเน่นอน] ออกไป เเต่พอมาลองนั่งคิดอย่างใจเย็น มันดูเป็นไปไม่ได้เลยเเฮะ
ก็เพราะว่าเเค่ตอนนี้ชั้นก็โดนหลบหน้าเเล้วนี่นะ?
นอกจากนี้ชั้นยังสารภาพรักไปเเล้วอีกต่างหาก
เกมความรักเเบบนี้มันตัดสินกันตั้งเเต่ก่อนที่จะสารภาพรักเเล้วใช่ไหมล่ะ
เพราะอย่างนั้นก่อนที่จะสารภาพรัก จะต้องเช็คให้ดีก่อนว่าเราสนิทกับอีกฝ่ายมากเเค่ไหนเเละจะทําให้อีกฝ่ายหันมาชอบได้ยังไง เป็นการตัดสินเเบบนั้นเเท้ๆ…
เเต่มันคงไม่ใช่การตัดสินเเล้วล่ะ ถ้าชั้นสารภาพรักไปก่อนเเบบนี้
ถ้าให้เทียบกับเกมจีบสาวล่ะก็ มันจะไปมีผู้เล่นที่สารภาพรักไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้เก็บค่าความชอบงั้นเหรอ?
เเละชั้นก็ทําเรื่องเเบบนั้นไปในชีวิตจริงซะเเล้ว
“นี่ ขอร้องล่ะนะ สึคาสะ ขอเเค่วันอาทิตย์วันเดียวก็พอ”
“หนวกหูเฟ้ย! ตอนนี้บนโลกใบนี้มีเเต่ความสิ้นหวังที่รอชั้นอยู่นะ!”
“จริงๆเลย นายนี่เป็นเเบบนี้มาตั้งเเต่เช้าจนถึงพักเที่ยงเเล้วนะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“…เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยต่างหาก เเบบนั้นมันไม่เเย่กว่าเหรอ?”
“ไม่เห็นจะเข้าใจที่นายพูดเลยเเฮะ”
ชั้นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันเเหละเฟ้ย!
จะว่าไปในความเป็นจริง เซย์จังคิดยังไงกับชั้นกันเเน่นะ
ในฉบับมังงะความสัมพันธ์ระหว่าง ฮิซามูระ สึคาสะ กับ ชิมาดะ เซย์ ถ้ามากสุดก็คงเพื่อน ถ้าเเย่สุดก็คงเเค่คนรู้จักล่ะมั้ง
เพราะเพื่อนสนิทของทั้งคู่ชอบกันเเละกันเลยร่วมมือกันเป็นบางครั้งเพื่อช่วยให้พวกเขาได้คบกันเป็นความสัมพันธ์ประมาณนั้นเเหละ
เพราะงั้นชั้นคิดว่าเธอคงไม่มองเขาในเเง่ลบหรอก… ถ้าเป็น ฮิซามูระ สึคาสะ ในมังงะล่ะก็นะ
เเต่ว่าตัวชั้นได้หลุดเข้ามาในโลกนี้เเละสารภาพรักอย่างเร่าร้อนกับส่งข้อความที่น่าขยะเเขยงพวกนั้นไป
ถ้าคิดอย่างใจเย็นในจุดนั้น ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นการลดเเต้มตัวเองชัดๆ
ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงเเละชั้นกําลังกินข้าวกับยูอิจิอยู่ทางริมหน้าต่างของห้องเรียน ในขณะที่เซย์จังกําลังกินข้าวกับฟุจิเสะอยู่ตรงฝั่งประตูที่ติดกับโถงทางเดิน
…บางครั้งชั้นก็รู้สึกถึงสายตาของฟุจิเสะที่มองมาเหมือนกัน ทําไมต้องมองมาทางชั้นล่ะ?
ไม่สิ จริงๆอาจจะเเค่มองชิเกโมโตะเฉยๆมั้ง?
กะเเล้วชั้นคงคิดไปเองสินะ
ชั้นกินข้าวกล่องที่ทําให้โดยริเอะ ในขณะที่คิดว่า [มันอร่อยสุดๆเลยน้า~] ไปอย่างนั้น
อย่างที่คิดริเอะนี่เป็นน้องสาวที่น่าภาคภูมิใจของชั้นจริงๆเลยนะ กลับไปเเล้วลูบหัวเธอให้เยอะๆดีกว่า… เเต่ถ้าทําเเบบนั้นเธออาจจะไม่ชอบก็ได้? เอาเป็นว่าหยุดความคิดนี้ไว้ก่อนดีกว่า
เห้อ~ ชั้นทนไม่ได้เลยเเฮะ ถ้าไม่ได้คิดเเบบนั้น
“อ๊ะ จริงด้วยสิ สึคาสะ ถ้าเป็นนายเเค่คนเดียวคงจะหยุด คาโอริ ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
“อืม ก็คงใช่เเหละ ว่าไปเเล้วนอกจาก ยูอิจิ มันก็ไม่มีคนที่หยุด โทโจวอินซัง คนนั้นได้หรอก”
“ชั้นเหรอ? ไม่ๆ ชั้นเองก็หยุดยัยนั่นไม่ได้หรอก เเถมยัยนั่นต้องวางเเผนทําอะไรสักอย่างในวันอาทิตย์เเน่ๆ ชั้นไม่มีความรู้สึกว่าจะห้ามยัยนั่นได้หรอกนะ”
ไม่สิ ถ้าเป็นนายล่ะก็หยุดเธอได้เเน่ๆ
ถ้านายไปบ้านโทโจวอินซังในวันเสาร์เเละทําตัวหวานๆใส่เธอล่ะก็ บางทีเธอคงไม่มาขัดขวางเดทระหว่างนายกับฟุจิเสะในวันอาทิตย์หรอก
เเต่ชั้นไม่พูดออกมาหรอกนะ
“เเล้วนายคิดจะทํายังไงกับโทโจวอินซังที่เเม้เเต่นายก็หยุดไม่ได้ล่ะ?”
“อา ถ้าเเค่สึคาสะคนเดียวไม่ได้ ก็หาอีกคนมาก็สิ้นเรื่อง”
“ห๊ะ? เเล้วจะเป็นใครล่ะ?”
“มีคนที่เข้าข่ายมากๆอยู่นะ คนที่รู้ว่าชั้นกับฟุจิเสะจะไปเดทกันตอนวันอาทิตย์เเละน่าจะให้ความร่วมมืออีกด้วย…”
“หืม? อย่าบอกนะว่า…”
“ชิมาดะไงล่ะ”
“เเบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวชั้นก็ได้ตายขึ้นมาจริงๆหรอก”
“ทําไมล่ะ!?”
เเกนะเเก.. ตอนนี้ชั้นกําลังโดนหลบหน้าอยู่นะเฟ้ย!
ในสถานการณ์เเบบนี้ คิดจะให้พวกเราไปหยุดไม่ให้โทโจวอินซังเข้ามาขัดขวางเดทของพวกนายเนี่ยนะ?
มันก็ต้องเป็นไปไม่ได้เเหงอยู่เเล้วสิฟะ! ในหลายๆเรื่องเลย
“ก็มันมีเเค่ทางนี้นี่! ขอร้องล่ะนะ ขอร้องจริงๆ!”
“ชั้นเองก็ขอร้องเหมือนกัน เเค่เซย์จ.. ชิมาดะเท่านั้นที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นชั้นยอมทําคนเดียวยังดีกว่าอีก”
“ทําไมล่ะ? อีกอย่างตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้วทําไมนายถึงพูดอะไรอย่างเซย์จ.. คําที่ชั้นไม่รู้ความหมายออกมาล่ะ”
“อย่าไปเเตะเรื่องนั้นนะเฟ้ย! เดี๋ยวชั้นก็ซัดนายให้กระเด็นซะหรอก”
“ชั้นไม่เข้าใจตัวนายในวันนี้มากกว่าปกติอีกเเฮะ”
เวรเอ๊ย! จะทํายังไงดีเนี่ย…
จะบอกกับยูอิจิไปดีไหมนะ? เรื่องที่ชั้นสารภาพรักกับเซย์จัง
เเต่ว่าเจ้าหมอนี่เป็นพวกดูออกง่ายด้วยนี่นะ ถ้าหมอนี่ไม่ลุกลี้ลุกลนตอนโทโจวอินซังพูดถึงเรื่องวันอาทิตย์ บางทีอาจจะหลอกเธอได้เเท้ๆ
เรื่องนั้นก็ทําตัวเองอยู่หรอก เเต่ถ้าเรื่องที่ชั้นชอบเซย์จังหลุดไปได้ยินถึงหูคนรอบข้างล่ะก็ ความเสียหายอาจจะไม่ใช่เเค่ชั้นเเต่โดนไปถึงเซย์จังด้วยก็ได้
ไม่ว่ายังไงชั้นก็อยากจะเลี่ยงเรื่องนั้นให้ได้
“งั้นนายจะเป็นคนทําคนเดียวงั้นเหรอ?”
“ถ้าชั้นขอร้องชิมาดะได้ก็คงดีล่ะนะ เเต่ว่าตัวชั้นคนเดียวจะทําอะไรได้บ้าง พูดตรงๆก็ไม่รู้หรอก”
“อะไรล่ะ? เรื่องที่อยากจะขอร้องฉันน่ะ?”
….ไม่มีทางน่า เสียงนี้มัน…?
สถานการณ์นี้เหมือนกับที่เกิดกับโทโจวอินเมื่อครู่เลย
“อ๊ะ ชิมาดะ”
ว่าเเล้วเชียว…!
ชั้นที่คิดเช่นนั้นก่อนจะหันกลับไป ก็เห็นเซย์จังที่กําลังยืนอยู่
เพราะชั้นกับยูอิจิกําลังนั่งอยู่ทําให้ต้องเเหงนมองขึ้นไปหาเซย์จังที่กําลังยืนอยู่
“…ละ เเล้วมีเรื่องอะไรจะขอร้องฉันไม่ใช่เหรอ?”
ชั่วขณะที่เซย์จังสบตากับชั้น เธอรีบเบี่ยงสายตาไปทางยูอิจิอย่างอึดอัดก่อนจะพูดออกมาเเบบนั้น
เห้อ~ กะเเล้วเธอคงไม่ชอบที่จะต้องสบตากับชั้นสินะ…
“อ๊ะ ชิมาดะ ชั้นให้คนอื่นได้ยินเรื่องนี้ไม่ได้น่ะ หลังเลิกเรียนพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า? เป็นเรื่องของวันอาทิตย์น่ะ”
“เรื่องนั้น… คงเป็นเรื่องของนายกับชิโฮะสินะ”
“อื้ม! เรื่องนั้นเเหละ พอดีมีปัญหาเข้ามานิดหน่อยน่ะ”
“เข้าใจล่ะ หลังเลิกเรียนสินะ งั้นชั้นจะรออยู่ในห้องเรียนละกัน…”
หลังจากที่พูดออกมาเเบบนั้น อยู่ๆเซย์จังก็ตัวเเข็งทื่อไป
อย่างกับหุ่นยนต์ที่เเบตเตอรี่หมดไประหว่างทาง
“หืม? เป็นอะไรไปเหรอ ชิมาดะ”
“มะ ไม่มีอะไร…!”
เซย์จังตกใจที่ยูอิจิถามออกมาเเบบนั้น เเก้มของเธอเเดงขึ้นก่อนจะดูหัวเสียเล็กน้อย
ก่อนที่เธอจะหันมาทางชั้นเเว็บนึง ชั่วขณะนั้นชั้นกําลังมองตาของเธอพร้อมคิดว่า [ดวงตาของเซย์จังงดงามจังเลยน้า~] อยู่พอดีทําให้พวกเราสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ฮึน! หะ.. ห้องเรียนนี้ไม่ได้หรอก! หลังเลิกเรียน.. พวกเราไปพบกันที่หน้าประตูโรงเรียนหลังเลิกเรียนกันเถอะ!”
เธอพูดเเค่นั้นก่อนจะลนลานเเละหนีจากพวกเราไป
“ท่าทางของชิมาดะดูเเปลกๆเเฮะ เกิดอะไรขึ้นกันเเน่นะ?”
“นะ.. นั่นสินะ ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ทําไมเธอถึงหนีกันนะ? หรือว่าเพราะมองหน้าชั้นเลยทําให้หนีไปเเบบนั้นเหรอ… เพราะนึกถึงเรื่องของชั้นขึ้นมางั้นเหรอ?
พอสบตากับชั้นทําให้เธอเลือกที่จะไม่คุยกันที่ห้องเรียนนี้สินะ คงจะเป็นอย่างนั้นเเหละ
ห้องเรียนนี้คือสถานที่ที่ชั้นใช้สารภาพรักกับเซย์จังไปเมื่อวานนี้หลังเลิกเรียน
เพราะเหตุนั้นเลยทําให้เธอไม่อยากคุยกันที่ห้องเรียนนี้ เธอเลยหนีออกไปเเบบนั้น
เหตุผลส่วนนึงก็คงเป็นเพราะบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างพวกเราด้วย… ในความหมายเเง่ลบล่ะนะ
เห้อ~ อย่างที่คิดชั้นไม่ควรสารภาพรักไปเพราะคิดว่าเป็นฝันเลยเเฮะ
ก็มันช่วยไม่ได้ไม่ใช่รึไง ชั้นไม่เคยคิดเคยฝันเลยหนิว่าจะได้เข้ามาในโลกของ “โอโจ้วจามะ” เเห่งนี้น่ะ
ช่างเถอะ ชั้นรู้สึกดีใจซะมากกว่าที่มันไม่ใช่เเค่ความฝัน เเต่ถ้าเหตุการณ์เมื่อวานทั้งหมดเป็นเพียงความฝันได้ก็คงจะดี
ก็เพราะมันตอนนี้ชั้นเลยโดนเซย์จังหลบหน้าอยู่น่ะสิ… ถึงอย่างนั้นเมื่อวานเซย์จังน่ารักมากซะจนทําชั้นตายตาหลับได้เชียวล่ะ การที่ได้เห็นเธอเเบบนั้นช่างทําให้ชั้นมีความสุขจริงๆ
“อ๊ะ! เเย่ล่ะ ลืมไปเลย พอดีหลังเลิกเรียนนี้ดันมีประชุมของชมรมบาสน่ะสิ ชั้นเองก็จําเป็นต้องเข้าร่วมด้วย”
“ห๊ะ?”
“โทษทีนะ! เเต่หลังเลิกเรียน นายช่วยเป็นคนอธิบายเรื่องราวให้ ชิมาดะ ฟังเเทนได้ไหม?”
“หาาา!?”
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides