—ในตอนเข้าวันไปทัศนะศึกษา
ผมตื่นเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง เเละเดินไปที่ครัวเพื่อแบ่งเบาภาระงานของริโกะ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเตรียมตัวอยู่นะ…
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณมินาโตะ วันนี้ตื่นเร็วกว่าปกตินะ..”
“อ..อ้อ..อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า พอดีผมตื่นสายไปหน่อย ฮะฮะ..”
“อา…ไม่เลยค่ะฉันก็พึ่งตื่นเหมือนกัน…เอ่…คุณมินาโตะอยากช่วยงานฉันเหรอคะ..?”
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำได้รึเปล่า ถ้าผมดูเป็นตัวถ่วงคุณริโกะไล่ผมออกไปได้เลยนะครับ…”
ผมพูดแบบนี้ออกไปบางทีเธออาจห้ามผมไม่ให้ผมยุ่งเรื่องพวกเลยก็ได้..แต่กลับกันริโกะหรี่ตาลงและยิ้มอย่างสนุกสนาน
“คุณคิดว่าฉันอยากคุณไล่จริงๆเหรอคะ….นั่นไม่จริงเลย ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีนะคะที่เราจะได้ทำอาหารด้วยกัน…”
“อ่อ..อย่างงั้นเหรอครับ..”
นี่มันดูเหมือนว่าพวกเราเป็นคู่แต่งงานกันจริงๆเลยไม่ใช่เหรอ..?
ริโกะคงชื่นชอบการเป็นภรรยา ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เธอหมายถึงเมื่อเธอบอกว่ามีความสุขเวลาที่ได้ทำสิ่งนั้น
“เอ่..คุณช่วยล้างผักให้หน่อยได้มั้ยคะ..”
“ตกลง!!”
โล่งอกไปที…อย่างน้อยผมก็ทำประโยชน์ได้นิดหน่อย..
แต่ว่า….วิธีการล้างผักที่ถูกต้องมันทำยังไงล่ะ หรือว่าควรจะเร่งประสิทธิภาพการทำงานและรีบๆทำให้มันเสร็จดี
ผักที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ดูแล้วไม่น่าจะสกปรก
แต่ว่ามันก็อาจยังไม่สะอาด
เอายังไงดี….ผมควรเลือกวิธีไหนดี..
นึกแล้วก็เสียใจกับตัวเองที่เมื่อก่อนล้างผักโดยไม่สนใจเรื่องนี้
ผมคิดว่ามันคงน่าจะเหลือแค่วิธีสุดท้ายแล้ว ก็คือการถามออกไปแบบไร้ยางอาย….
“ขอโทษนะคุณริโกะ การล้างผักที่ถูกวิธีควรทำยังไงเหรอครับ…”
“อ๊ะ..ขอโทษฉันลืมอธิบายเรื่องนี้เลย เช่นถ้าเป็นมันฝรั่งก็ใช้มือถูแบบนี้ได้เลย. ส่วน—~~~ฯลฯ~~”(ขี้พิมพ์555)
เธอค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆ และก้มลงจับผักขึ้นมาอธิบายวิธีการล้าง ทีละอย่างๆ ต่างกันกับผมที่ตกใจหน้าแดงเพียงเพราะว่าไหล่ของเราเกือบชนกัน ดูเหมือนว่าเธอจะลืมระยะห่างของพวกเราระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการอธิบาย
“อ่อ..เป็นแบบนี้นี่เอง”
ต้องขอบคุณคำอธิบายที่แสนละเอียดจากเธอ ในที่สุดผมก็พอเข้าใจวิธีการทำขึ้นมาหน่อย จากนั้นผมก็เริ่มลงมือล้างผักตามที่ริโกะทำเป็นตัวอย่างก่อนหน้านี้..
เธอคอยดูผมและยิ้มให้เป็นระยะ ขณะที่กำลังทำอาการอยู่ข้างๆ
“ใช่แล้วค่ะ..แบบนั้นแหละ ทำได้ดีมากเลย”
ถึงมันเป็นแค่การล้างผัก แต่เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น มันก็มีแรงบัลดาลใจขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้
“เอาล่ะคราวนี้ให้ผมทำอะไรต่อมั้ยครับ…”
“งั้น….ต่อไปก็รบกวนช่วยปอกเปลือกผลไม้ให้หน่อยนะคะ”
“ปอกเปลือกผลไม้..”
“ใช่ค่ะ..ใช้น้องโปเกม่อนในการปอกเปลือกออกมา ค่อยๆทำนะคะ..”
“โปเกม่อนที่ว่าคือชื่อของมีดปอกผลไม้เหรอ—?”
“น่ารักใช่มั้ยละคะ ฮะฮะ..”
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะครับ..”
ริโกะหัวเราะเยาะให้กับคำพูดของผม
….นี่มันเป็นควมสุขที่เอ่อล้นไปทั่วทั้งตัวเลย
บางทีการมาช่วยเธอทำอาหารมันก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะ ก่อนหน้านั้นผมคิดเพียงแค่ว่ามันจะออกมาดีรึเปล่า จะเป็นตัวถ่วงทำให้เธอช้าลงรึเปล่า แต่ด้วยคำแนะนำที่อ่อนโยนของเธอ การช่วยเหลือของเธอ มันทำให้เปลี่ยนเป็นความสนุกแบบไม่รู้ตัว…
“ว้าว..คุณมินาโตะ แบบนั้นแหละค่ะ ทำได้ดีมากเลยค่ะ”
ผมหัวเราะออกมาพร้อมกับความเขินอายเพราะได้รับคำชมเชยของเธอด้วยความจริงใจ
“คุณริโกะจะชมผมมากเกินไปแล้วนะครับ…”
“เอ…ก็มันจริงนิคะ เพียงแค่คุณมินาโตะฟังฉันอธิบายรอบเดียวแล้วทำได้ดีขนาดนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่วิเศษไปเลยค่ะ!”
“…..”
เธอเดินเข้ามาใกล้ๆและมองมาที่ผมด้วยผมสีหน้าจริงจังพร้อมกับพูดว่า “คุณมินาโตะน่ะ วิเศษสุดไปเลยนะ” มันทำให้ตอนนั้นสมองคิดอะไรไม่ออกจึงได้แค่เพียงตอบสั้นๆว่า”อ่า..อึม..”
แต่ว่าบางทีเธอก็อาจประเมินค่าในตัวผมสูงเกินไป
“พอมองมือของคุณมินาโตะเวลาทำครัวแล้ว…ฉันรู้สึกอยากลองจั—…..เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ!!……///////”
“เอ๋..!”
“อ๊ะ!!…ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ นั่น!! น้ำมันร้อนแล้วฉันขอตัวไปทำไข่ม้วนก่อนนะคะ”
ริโกะรีบหันหลังของเธออย่างรวดเร็วและมุ่งตรงไปที่เตาแก๊สทันที
ด้วยพฤติกรรมที่แสดงออกมาเธออาจทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังประหม่าอยู่ เลยแสดงความเป็นห่วงออกมาเพราะว่าผมไม่ได้ระวังมือของตัวเองเลย…
ทันทีที่คิดแบบนั้น หัวใจมันก็เริ่มเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ
รู้สึกหายใจไม่ออกแฮะ….ใจเย็นๆก่อน ค่อยๆ~~ขณะที่ผมกำลังพยายามบอกตัวเองให้สงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่ กลิ่นของน้ำมันงาที่ดูน่าอร่อยลอยเข้ามาในจมมูกทันที ผมเงยหน้าขึ้นเเละเห็นว่าริโกะกำลังจะเทไข่ลงในกระทะ
ไข่กระจายอยู่ในกระทะด้วยเสียงที่ร้อนแรง ริโกะ ขยับตะเกียบด้วยมือที่มีประสบการณ์แล้วกลิ้งไข่จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หลังจากนั้นก็ม้วนไข่ไว้อย่างสวยงามและวางลงในด้านหนึ่งของกระทะแล้วทาน้ำมันงาบาง ๆ อีกด้านหนึ่งโดยใช้กระดาษซับสำหรับทำครัวแล้วเทไข่ลงไปอีกครั้ง
ไม่รู้เหมือนกันว่าริโกะเธอมีเคล็ดลับในการทำยังไง และมั่นใจเลยว่าถ้าผมพยายามทำแบบนั้น สุดท้ายมันจะลงเอยด้วยความเละเทะ
ผมรู้สึกทึ่งมากจนไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ จนกระทั่งริโกะเธอทำไข่ม้วนเสร็จและหันหน้ากลับมาด้วยใบหน้าที่แกงก่ำ
“..อ..อย่ามองแบบนั้นได้มั้ยคะ ฉันรู้สึกประหม่าที่ถูกมองอยู่ฝ่ายเดียว…”
“อ๊ะ!..ผมขอโทษ”
“ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบนะคะ แค่มันรู้สึกอายเท่านั้นเอง…ว..ว่าแต่อยากลองชิมไข่ม้วนดูมั้ยคะ”
“ผมชิมมันได้จริงๆเหรอครับ..”
“ได้เสมอเลยค่ะ!!”
ขณะที่ผมกำลังจะหยิบตะเกียบคีบไข่ม้วนที่อยู่บนจาน ทันใดนั้นเองสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในตอนนี้—
“อย่าพึ่ง!!…”
“เห๊ะ!!?…”
“อามมมมม~~~”
ริโกะยื่นไข่ม้วนที่เธอคีบมาด้วยตะเกียบด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของเธอราวกับว่าเธอกำลังมีความสุข
แน่นอนผมกินมันโดยที่ไม่ลังเลแม้แต่นิด
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า”อ้าม”หลังจากแต่งงาน ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินคือตอนที่เป็นหวัดและถูกเธอป้อนข้าวต้มให้
ถึงมันจะเป็นครั้งที่สอง แต่มันก็ยังคงน่าอายมาก
มีความสุขไม่น้อยเลย….
“รบกวนด้วยนะครับ..”
ผมจะไม่ลังเลเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกที่จะปฏิเสธการถูกป้อนจากเธอ ผมอ้าปากด้วยความเขินอายและไข่ม้วนค่อยๆเข้ามาสัมผัสกับลิ้นของผม…
“อึ้ม อร่อย!!!!!!..”
รสชาติที่นุ่มละมุนของไข่แผ่เข้าไปทั่วปาก มันอร่อยมากจนน่าประทับใจ เมื่อริโกะได้ยินดังนั้นสีหน้าของเธอก็ผ่อนคลายราวกับว่าเธอโล่งใจ
นี่หรือว่าเป็นความรู้สึกพิเศษของการทำอาหารร่วมกันในครัวเล็กๆกันนะ…
แต่ก่อนผมไม่เคยสนใจในการทำอาหารเลย เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่…ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะสนุกขนาดนี้..
ผมทำงานพาร์ตไทม์แทบทุกวัน หากยากที่ผมจะอยู่บ้านเมื่อริโกะทำอาหาร ถ้าหากมีโอกาสผมก็อยากจะมาช่วยเธอแบบนี้อีกสักครั้ง….
จบ!!! หากมีประโยคไหนที่ดูแปลกๆสามารถเม้นท์บอกกันด้ายยย~~~