##รู้ก่อนอ่าน ชื่อสถานีรถไฟ จะใช้ A,B,Cแทนนะ ถ้าใส่เป็นภาษาไทยมันจะดูแปลกถ้าใส่อังกฤษกลัวว่าจะอ่านสะดุดหรือถ้าใส่ญี่ปุ่นนี่คงแล้วใหญ่เลยเอาเป็นว่า ABCนี่ง่ายสุดละเนอะ!! ขอให้สนุกกับการอ่าน
—เครื่องเคียงและข้าวปั้นที่ ริโกะ ทำเพื่อพวกเราทุกคนถูกบรรจุอยู่ในกล่องอาหารกลางวันสุดหรู และตอนนี้ผมก็ถือมันไว้ในกระเป๋าเป้อย่างระมัดระวัง
*ต้องรักษาให้ได้เท่าชีวิตเลย*
เราออกจากโรงเรียนโดยรถบัสตามแผนที่วางเอาไว้ และหลังจากเดินทางไปถึงที่หน้าวงเวียนสถานีโยโกฮาม่ากิจกรรมกลุ่มของเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
“เอาล่ะ! เริ่มออกเดินทางกันเลยทุกคน ..ว่าแต่ต้องไปที่ไหนล่ะเนี่ย”
อาซาคุระ ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ว่ากําลังจะไปไหนทั้งๆที่เธอเดินออกหน้าอย่างกระฉับกระเฉง และหันมองกลับมาที่ผมด้วยสีหน้าอันสิ้นหวัง
แน่นอน ซาวะ ไม่ได้ถือคู่มือการเดินทางไว้ในมือและตอนนี้ ริโกะ ผู้นำทางกำลังซื้อตั๋วรถไฟให้สำหรับพวกเราทั้งสี่คน
คิดว่าคงมีแค่ผมที่ต้องตอบเธอไป…
“อันดับแรกพวกเราต้องเดินทางออกจากสถานีโยโกฮาม่าไปขึ้นที่สถานี A แล้วขึ้นรถไฟสาย B ไปลงที่สถานี C “
ผมตอบคำถามพวกนี้ได้คล่องเหมือนหุ่นยนต์เลย..
[เรย์นะ]”โอ้! นี่นายก็เตรียมตัวมาดีนี่ นายเพื่อนสมัยเด็ก”
[มินาโตะ]”เอ่อ..ก็คงงั้นครับ”
เราสามารถตรวจสอบดูได้จากคู่มือการเดินทาง ยังไงแล้วดูแค่นั้นก็รู้จุดหมายของเราแล้วไม่ใช่เหรอ?
ผมไม่สามารถตอบนี้ออกไปได้…
[เรย์นะ]”ชั้นคิดว่านายน่ะเป็นคนที่เยี่ยมมาก เพราะชั้นไม่ค่อยสนใจอะไรพวกนี้เลย นายพึ่งพาได้จริงๆเลยนะ คุณเพื่อนสมัยเด็ก “
[ริโกะ]”เฮ้..ทุกคนฉันกลับมาแล้ว!!”
เมื่อผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคย จึงหันไปและเห็นริโกะถือตั๋วรถไฟอยู่ในมือของเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกำลังหายใจหอบหืดเมื่อมาถึง
เธอรีบวิ่งมาเหรอ…? เวลายังเหลืออีกมาก บางทีเธออาจกลัวว่าพวกเราจะรอนาน
เพราะว่าเธอเป็นคนแบบนั้น…
[ริโกะ]”นี่ค่ะ ตั๋วของคุณ”
[มินาโตะ]”อ๊ะ..ขอบคุณครับ”
ผมกล่าวขอบคุณและเธอก็ยื่นตั๋วให้ ผมคิดว่าริโกะแอบมองมาอยู่ครู่หนึ่ง แต่นั่นผมอาจคิดไปเองก็ได้
===
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟสาย A ซึ่งคนค่อนข้างแน่นมาก พวกเราทุกคนถูกผลักไปที่ด้านหลังของรถรถไฟและพลัดหลงกันในที่สุด..
ด้วยความเร่งรีบของผู้คนและฝูงชนที่อยู่บนรถไฟ ซาวะ และ อาซาคุระ ดูเหมือนจะถูกเบียดไปในอีกทางใดทางหนึ่ง และตอนนี้ผมมองไม่เห็นทั้งสองคนแล้ว
ผมได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับสถานีที่เราจะลงแล้วดังนั้นก็มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นอะไร
[ริโกะ]”ที่นี่คนแน่นมาก..ขยับตัวไม่สะดวกเลย”
ในรถไฟขบวนนี่เห็นนักเรียนสองสามคนใส่ชุดนักเรียนม. ปลายแบบเดียวกับเรา แต่โชคดีที่พวกเราไม่ได้อยู่ใกล้มาก
วันนี้เราคงจะคุยกันได้ อย่างน้อยพวกเราก็อยู่กลุ่มเดียวกัน..เพราะปกติเราเดินแยกทางกันตอนไปโรงเรียน แต่สำหรับวันนี้คงไม่มีปัญหาอะไร
[มินาโตะ]”อึม..แต่ว่ารถไฟสาย A เส้นทางไม่ไกลเท่าไหร่อดทนรออีกสักหน่อยนะครับ…”
[ริโกะ]”ฉันพึ่งเคยนั่งรถไฟกับคุณมินาโตะเป็นครั้งแรกเลย”
ไม่อยากเชื่อเลยว่าริโกะจะคิดแบบเดียวกัน ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างเขินอายต่อใบหน้าที่กำลังประหลาดใจของผม…
[ริโกะ]”มันรู้สึกผ่อนคลายดีนะคะ”
[มินาโตะ]”..อึ้ม”
[ริโกะ]”ไม่เหมือนทุกวัน ที่ฉันต้องคอยเเสร้งทำเป็นไม่รู้จักคุณมินาโตะ ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมากเลยค่ะ”
ผมได้แต่พยักหน้าตอบกลับไปเงียบๆโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร….แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
รถไฟเข้าโค้งและสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งขบวน ด้วยความที่ว่าคนที่อยู่ด้านในแออัดมาก ทำให้ริโกะเสียการทรงตัว
“อ๊ะ!!!”
ผมพยายามจะดึงแขนเธอเอาไว้แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ทำให้ริโกะเอียงล้มลงมาทางนี้และหน้าของเธอได้ซุกเข้าที่หน้าอกของผมเต็มๆ
“ฉันขอโทษค่ะ…”
“ไม่เป็นไรครับ..ไม่ใช่ความผิดคุณเลย”
“อึ้บ!!…จะทำยังไงดี..ฉันขยัยตัวไม่ได้…”
รถไฟตอนนี้เบียดแออัดกว่าเดิม พื้นที่ที่ริโกะเคยอยู่ถูกปิดอย่างรวดเร็ว
“ฉ..ฉันขออยู่ตรงนี้สักพักได้มั้ยคะ..”
“ถ้าคุณริโกะไม่ว่าอะไรผมก็ไม่มีปัญหาครับ..”
“อึม..”
ริโกะตอบอย่างเขินอายและก้มหน้ามุดลงที่หน้าอกต่อ…
ตอนนี้ผมรู้สึกประหม่าอย่างมากที่ได้เห็นต้นคอสีขาวของเธอ ผมพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะขจัดความคิดสกปรกต่างๆออกไปและพยายามปกป้องริโกะจากการถูกเบียดจากคนรอบข้างพลางสวดอ้อนวอนอย่างสุดกำลังเพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจของผมลดลงก่อนที่ริโกะจะสังเกตเห็น…
จบ!!! ตอนนี้อาจไม่ยาวมาก แต่อยากถามคนอ่านว่าตอนนี้แปลออกมาได้หวานมั้ยย~~~~