#หลังจากตอนนี้เป็นต้นไปจะมีเครื่องหมายการใช้คำพูดที่ดูเป็นระเบียบและอ่านง่ายขึ้น เช่น ในขณะที่พูดคุยสื่อสารกัน หรือว่าการบ่นพึมพำกับตัวเอง มันจะไม่ปนเปกันเหมือนตอนก่อนๆหน้านี้แล้วววว :)))
~~—ท้ายที่สุดซาวะ และเพื่อนคนอื่นๆ ร่วมกันขอโทษอย่างพร้อมเพรียงกันและพูดว่า”พวกเราติดเล่นกันเกินไป ขอโทษครับต่อไปพวกผมจะระวังให้มากกว่านี้”
ฮายาเอะ ริโกะ ดูเธอเป็นกังวลเล็กน้อย ในระหว่างนั้นอาจารย์ได้พาผมไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงโดยที่ใช้รถส่วนตัวของเขา ก่อนหน้านี้ผมได้เปลี่ยนชุดที่เปียกโชกมาเป็นชุดพละเรียบร้อยแล้ว…
หมอบอกว่า “ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่อะไร…แต่ว่าไข้ของคุณน่าจะสูงขึ้นในอีกคืนนี้” จากนั้นคุณหมอก็ได้ให้ยากับผมมา
จากนั้นผมต้องใข้เวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปรับน้ำเกลือดังนั้นผมจึงโทรหาสถานที่ที่ผมทำงานพาร์ตไทม์อยู่เพื่อขอลาป่วย
..ตอนนี้ผมสามารถเคลื่อนไหวได้อยู่แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่…
===
หนึ่งชั่วโมงต่อมา อาจารย์จึงได้พาผมกลับมาส่งที่อาพาร์ตเมนต์ของผม
“ผมขอโทษนะครับอาจารย์ เกี่ยวกับเรื่องในวันนี้ และขอบคุณมากๆที่ช่วยเหลือผม”
เมื่อผมขอบคุณอาจารย์ ที่ไปส่งผมที่โรงพยาบาลเสร็จ เขาก็ได้หัวเราะเบาๆและได้พูดออกมาว่า”นายเองก็มีวันที่แย่เหมือนกันนะ”
“นายแน่ใจใช่ไหมโอเครึเปล่า…ให้ชั้นตามไปส่งถึงห้องไหม”
“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ที่นี่มีลิฟต์ มันสะดวกอยู่พอสมควรเพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ”
“อ้อ..งั้นเหรอ งั้นช่วงวันหยุดนนี้นายก็พักผ่อนให้มากล่ะ…ถ้ามีอะไรก็โทรเรียกหาชั้นได้ตลอดเวลาเลย”
“ครับ!”
หลังจากที่ผมกล่าวขอบคุณอาจารย์อีกครั้งเสร็จอาจารย์คนนั้นก็ได้เปิดประรถยนต์ส่วนตัวของเขาและมุ่งหน้าออกไปในที่สุด….
ส่วนตัวผมนั้นหันหลังและเดินมุ่งตรงกลับไปที่อาพาร์ตเมนต์ทันไดนั้น….เมื่อเดินมาถึงที่หน้าประตูลิฟต์ผมรู้สึกแปลกใจมากกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นั่นเป็นเพราะว่าผมเห็น ฮาเนาเอะ ริโกะ นั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้าทางเข้าลิฟต์ของอาพาร์ตเมนต์
“เอ๊ะ!..คุณฮานาเอะ?”
…เธอมาทำอะไรที่นี่?
“อ๊ะ…กลับมาแล้วเหรอ..อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง—?”
เมื่อเธอได้ยินเสียงของผม เธอก็เงยหน้าขึ้นมองมาที่ผมอย่างจริงจังและวิ่งเหยาะๆมาที่ผม รู้สึกเหมือนสุนัขที่รอเจ้าของกลับมาที่บ้าน
“ท..ทำไม??”
ผมไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก เพราะเธอเองก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในอาพาร์ตเมนต์แห่งนี้
…เธอไม่ได้มานั่งรอที่นี่เพื่อให้ผมกลับมาใช่ไหม—??
ไม่..ไม่ ไม่ ไม่มีทาง…
เธอไม่ได้รอผม…
“ฉันขอโทษ…ฉันมารอคุณ….ฉันเป็นห่วงคุณจริงๆนะ”
“!!…”
ผมชะงัก…เมื่อเธอพูดออกมา…ความคิดของผมมันผิดทั้งหมด
“ตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง?”
“โอเค..ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้วหล่ะ…รู้สึกดีกว่าเมื่อตอนอยู่ที่โรงเรียนมาก”
“ดีจัง…ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย”
ผมกระพริบตาซ้ำๆตอนนี้ผมยังคงไม่เชื่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เธอบอกว่าเป็นห่วง และกำลังรอผมอยู่
เมื่อผมลองสังเกตดูดีๆ พบว่าที่ปลายจมูกของเธอเป็นสีแดง และดวงตาของเธอแสดงถึงความหนาวเย็น
…เธอมารอผมได้นานแค่ไหนกันนะ..
ระยะทางจากโรงเรียนไปโรงพยาบาลประมาณสิบนาทีโดยรถยนต์แล้วก็มีเวลาในห้อง รอเวลาทำงานของหมอเพื่อไปรับน้ำเกลือเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง…
ผมเดินไม่ค่อยได้เพราะอาการจากพิษไข้เลยใช้เวลานานกว่าปกติจะเสร็จและจนถึงเวลากลับบ้าน. สุดท้ายผมใช้เวลามากกว่าชั่วโมงครึ่งตั้งแต่ออกจากโรงเรียนมาถึงอาพาร์ตเมนต์
ถ้าฮานาเอะ ริโกะกลับมาจากโรงเรียนและตรงมาที่อาพาร์ตเมนต์ของผม….แสดงว่าเธอรอผมอยู่นานพอสมควร
..มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม
การที่เธอมาอยู่ข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆด้วยอากาศที่หนาวเย็น เหมือนเป็นการทรมานตัวเองอย่างหนึ่ง
การรอใครสักคนในสถาณการ์ณแบบนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่ซื่อสัตย์ ถ้าเป็นผมคงอยู่ได้ไม่เกิน5นาที….-.
ดั้งนั้นไม่มีทางที่เธอจะมารอผมอยู่ที่นี่ตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมง….ไม่มีทางงงง!!!
“คุณฮานาเอะ คุณมารอผมอยู่ที่นี่ทานแล้วใช่มั้ย—?”
เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่น่ารักของเธอ
“ใช่แล้วค่ะ…ฉันรีบมาที่นี่ตั้งแต่โรงเรียนเลิกเพราะคิดว่าถ้ามาช้าอาจไม่เห็นคุณนิยามะ”
มีผู้หญิงคนนึงอยู่ที่นี่…และเป็นเหมือนสุนัขที่ซื่อสัตย์..ฮานาเอะ ริโกะ..
และด้วยเหคุผลบางอย่างฮานาเอะ ริโกะ เธอจึงเหมือนสุนัขมากเกินไป เธอเริ่มดูเหมือนสุนัขที่คาดหวังคำชมจากเจ้าของของเธอจริงๆ
ไม่ไม่ไม่…บ้าไปแล้ว!
ผมคงบ้าไปแล้วที่คิดว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียนเริ่มเหมือนกับสุนัข..
ในขณะที่ผมครุ่นคิด จู่ๆ หน้าของฮานาเอะ ริโกะ ก็เริ่มไม่สบายใจ
เอ๊ะ!!…แต่เดี๋ยวก่อนนะ..เธอรู้ได้ยังไงว่าบ้านผมอยู่ที่ไหน..?
“ว่าแต่….เธอรู้ได้ยังไงว่าบ้านผมอยู่ที่นี่??”
“คุณซาวะเป็นคนบอกฉันเองค่ะว่าคุณอาศัยอยู่ที่นี่”
“…..”
“อ..เอ่อ..นี่ฉันทำตัวน่าเกลียดไปรึเปล่านะ////…..ฉันขอโทษที่ทำอะไรโดยพลการนะ :v”
เธอพูดด้วยสีหน้าท่าทางหดหู่ในระดับหนึ่ง
“เอ่อ..เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกช่างมันไปเถอะ”
“ฉ…ฉันสงสัยว่าคุณนิยามะจะเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ..ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันยังไม่สามารถกลับไปได้…”
..เธอเป็นห่วงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?…ฮานาเอะ ริโกะ เป็นผู้หญิงที่ดีแค่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ ไม่เพียงแต่น่ารักอย่างเดียวแถมยังมีบุคลิกและนิสัยที่บริสุทธิ์อีกด้วย?
“อึม…ผมขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้นนะ ผมขอโทษที่ทำให้คุณรอนาน”
“อ๊ะ..มันไม่ใช่….ไม่ต้องขอโทษ มันเป็นความคิดของฉันเองค่ะ”
“แต่ว่า…”
พวกเราทั้งสองต่างพูดไม่ออกและมีช่วงเวลาแห่งความเงียบงันชั่วครู่หนึ่งนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสิ้นสุดการสนทนาของเราผมไม่สามารถปล่อยให้ฮานาเอะ ริโกะ อยู่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว
“อ๊ะ!…มันไม่ดีเลยที่เราจะยืนคุยกันตรงนี้ตอนที่คุณไม่สบาย…”
“ไม่เป็นไรครับ อย่างไรก็ตามอาการของไข้ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไร ขอบคุณมากนะครับที่อุตส่าห์มา ถึงแม้อากาศจะหนาว”
“…..”
“แล้วพบกันใหม่นะครับ”
ผมพยายามเดินผมพยายามเดินผ่านเธออย่างเร่งรีบ ตอนนี้ผมรู้สึกเคอะเขินมาก อย่างไรก็ตามพอผมเดินพ่นออกมาในระยะนึงแล้วจึงเอาไหล่ไปกระแทกกับผนังอาพาร์ตเมนต์เบาๆ
“นี่…คุณโอเครึเปล่าคะ?”
เธอรีบวิ่งมาหาผมและเอามือทั้งสองข้างพยุงผมขึ้น บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้ผมอยากจะหนีออกจากที่นี่
ฮานาเอะ ริโกะที่พยายามจะพยุงผมด้วยแขนที่เรียวเล็กของเธออยู่ ก็ได้พูดขึ้นมาว่า…
“คุณนิยามะ….”
เธอจ้องหน้าผมอย่างลังเล จากนั้นค่อยๆกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ รางกับว่าเธอกำลังรวบรวามความกล้า
ตอนนี้ผมกำลังรอคำพูดต่อไปของ ฮานาเอะ ริโกะ ผมรู้สึกอึดอัดและไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรั้งผมไว้
“ค…คือว่า…คุณนิยามะ…ถ้าไม่เป็นการรบกวน ให้ฉันเป็นคนเฝ้าไข้ให้คุณ..จะได้มั้ยคะ”
“…เอ๊ะ!!”
หมายความว่ายังไงที่จะเป็นคนเฝ้าไข้ให้ผม เธอหมายถึงเธอจะเป็นคนที่ดูแลผมในระหว่างนี้เหรอ?
ข้อเสนอนั้นเหลือเชื่อมาก จนผมไม่เข้าใจความหมายและคำพูดของเธอเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมจะปฏิเสธเธอในขณะที่ผมกำลังสับสน
“ไม่ๆ..ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบขนาดนั้นหรอกนะ”
“ผิดแล้วค่ะ! แค่คิดว่าจะช่วยอะไรได้สักหน่อยน่ะ อย่าคิดมากไปเลยนะคะ!!”
“แต่ผมไม่อยากให้คุณตืดหวัดจากผมนี่หน่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เคยเป็นหวัดเลย สบายใจได้!!”
“แต่ห้องของผมรกมากนะ-.-*”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะช่วยเก็บกวาดมันเอง!!”
“เอ๋…”
“แค่คิดว่าฉันเป็นหุ่นยนต์รุ่นทดลองที่เพิ่งปรากฏตัวที่บ้านของคุณในวันนี้ นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องคิด!
การเปรียบเทียบของเธอหมายความวว่ายังไง ผมไม่เข้าใจมันเลย…ชีวิตประจำวันที่จู่ๆก็ได้รับหุ่นยนต์(สาวสวย)ช่วยเหลือเอนกประสงค์??
“ฟังนะครับ คุณฮานาเอะ ผมดีใจที่คุณคิดแบบนั้น แต่ยังไงผมก็คิดว่าคุณควรกลับไป”
“….”
ทันทีที่ผมกำลังจะพูดปฏิเสธ คิ้วที่สวยงามของเธอก็ย่นลง เธอมองมาที่ผมอย่างน่าสงสาร ราวกับว่าเธอกำลังทำให้ผมรู้สึกผิด สิ่งนี้ไม่สามารถทำให้ผมหาคำพูดที่จะปฏิเสธเธอได้
“ถ…ถ้างั้นก็…ขอรบกวนด้วยนะครับ”
รอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเธอปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อได้ยินคำตอบของผม…
ตอนนี้ผมลืมมันไม่ได้เพราะหลงเสน่ห์เธอจนลืมหายใจ..หรือแม้แต่ความเจ็บปวดที่ขาก็ได้หายไปชั่วขณะ
ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอ ถึงมองมาที่ผมแบบนั้น แต่ผมคิดว่านี่เป็นใบหน้าที่ยิ้มราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ~~~
จบ….
===
อ้าาา~~ตอนนี้น่าจะยาวสะใจคนอ่านพอสมควรล่ะนะสภาพตอนนี้คือแบบเบลอมากกช่วงท้ายๆอาจมีบางคำที่ดูหลุดๆไปหน่อย555 ถ้าหากมีคำผิดละก็ช่วยกันจับผิดให้หน่อยน้าว่ามีเยอะมั้ย สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าถ้าหากแปลดีหรือไม่ดีตรงไหนสามารถเม้นบอกชี้แนะได้เลยเดี๋ยวมาไล่อ่านอย่างแน่นอน! เผื่อจะได้เอาไปปรับใช้ในตอนต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้น ^^ ราตรีสวัสดิ์ทุกคน? (23.58 น. 27/6/64)