[ต่อจากอันเดิมนะ]
—ในตอนเช้า พวกเราพูดคุยทำตัวกันตามปกติเหมือนทุกๆวัน ต่างฝ่ายต่างแยกเดินทางไปโรงเรียน
เมื่อผมเดินเข้ามาในเขตโถงทางเดิน ก็พลางสังเกตบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม
รู้สึกเหมือนตกเป็นเป้าสายตายังไงยังงั้นเลย ทุกคนมองมาที่ผมและกระซิบพูดคุยกันเบาๆ
อะไรเนี่ย…
ผมไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
ได้แค่เพียงทำหน้างุนงงและมุ่งตรงเข้าไปที่ห้องเรียน
===
“…อะ!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!!!”
ข่าวหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนถูกแปะไว้บนกระดานดำหน้าห้องประชาสัมพันธ์
——สาวสวยที่สุดในโรงเรียน เจ้าหญิง ฮานาเอะ ริโกะ ทรงเลือกเเฟนแล้ว!!
*อะไรกันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่สุดในโรงเรียนหรอกเหรอ?—*
รูปภาพในหนังสื่อพิมพ์แสดงให้เห็นผมกับริโกะกำลังถือถุงผ้าด้วยกันที่ย่านการค้า
“……”
ผมมองไปรอบๆตัวด้วยความตกใจ ทันไดนั้นดวงตาก็ได้สะดูดเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นที่คุ้นเคย ถือหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนอยู่ในมือ
“มินาโตะ…!นายเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้..”
ซาวะถือหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนไว้ในมือขวาแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาผม
ห้องเรียนที่แสนคึกคักไปกับเสียงพูดคุย กำลังรอการตอบกลับของผมด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เอ่อ….”
ผมไม่คาดคิดว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้เลย ดังนั้นผมจึงไม่สามารถคิดออกเลยว่าควรจะทำยังไงต่อดี
นี่มันแย่สุดๆ…
ยังไงผมก็ต้องปิดเรื่องนี้เอาไว้
แต่จะทำยังไงดีตอนนี้รูปก็ถูกถ่ายไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ถ้าบอกเหตุผลไปว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กกันมันก็คงเปล่าประโยชน์..
ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด ไม่นานริโกะก็เดินผ่านเข้าไปในห้องเรียนของเธอตามปกติ
ถ้าขืนผมไม่ทำอะไรสักอย่างละก็ ริโกะจะต้องตกเป็นเป้าสายตาความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนแน่
ต้องปกป้องเธอ..
ผมรีบขยับร่างกายอย่างรวดเร็วไปคว้ามือของเธอ
“คุณริโกะ มานี่แปบนึงครับ!”
ทันทีที่ผมจับมือเธอและเริ่มวิ่ง เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบๆก็โพล่งออกมาด้วยเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น
ผมพาริโกะวิ่งไปตามโถงทางเดิน ผ่านเหล่าบรรดาคนในอาคารและขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า
“…คุณมินาโตะ”
เธอเรียกชื่อผมขณะวิ่งตามผมมาอย่างหอบหืดเราทั้งสองพักหายใจแทบกันไม่ทัน
“ผมขอโทษ…”
รูัตัวอีกทีผมก็กำมือเธอไว้แน่นมาก เลยรีบปล่อยมือในทันที
“สิ่งที่อยู่บนหนังสือพิม์หน้าห้องประชาสัมพันธ์…”
ผมอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดที่ผมรู้ให้ริโกะฟัง เมื่อพูดจบหน้าของริโกะก็ซีดลงเรื่อยๆ…
“เราจะทำยังไงดี…ฉันขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ ทั้งหมดเป็นเพราะว่าความผิดของฉันเองที่อยากไปช้อปปิ้งกับคุณมินาโตะ..”
“มันไม่ใช่ความผิดคุณเลยครับ ผมแค่แปลกใจว่าเราโดนถ่ายรูปได้ยังไง..”
“อันที่จริงคุณก็รู้นิคะ ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับฉัน..”
ใช่ ผมเคยเห็นริโกะถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนอยู่หลายต่อหลายครั้ง ถ้าคิดดีๆบทความเหล่านี้มันก็มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่เหมือนกัน
ผมรู้ว่าพวกเขาตีพิมพ์เกี่ยวกับนักเรียนที่โด่งดังและเป็นจุดสนใจ แต่มันก็ควรจะได้รับอนุญาติจากบุคคลนั้นก่อนเอาออกมาเผยแพร่ออกมาแบบนี้
“ฉันน่าจะบอกให้พวกเขาหยุดเรื่องพวกนี้ให้เร็วกว่านี้ ฉันขอโทษจริงๆค่ะที่ลากคุณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ฉันจะไปบอกให้พวกเขาหยุดเอง ปัญหาหลักคือตอนนี้จะหยุดความโกลาหลที่เกิดขึ้น…ยังไงดี”
ริโกะมองก้มลมพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ผมจะปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ไม่ได้
ต้องทำอะไรสักอย่างจริงๆ
แต่วิธีที่ดีที่สุดจะทำยังไง..?
อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่จะต้องหลีกเลี่ยงอย่าให้คนอื่นรู้เด็ดขาดคือเราแต่งงานจดทะเบียนสมรสและเป็นคู่สามีภรรยากัน ถ้าเกิดคนอื่นรู้เข้าจริงๆมันจะดึงดูดความสนใจมากกว่าที่เป็นอยู่
ผมอ่านบทความที่หยิบมาจากมือของซาวะอีกครั้ง สิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นก็คือเราไปช้อปปิ้งที่ย่านการค้าด้วยกัน
ในนั้นบอกว่ามีโอกาสที่พวกเราสองคนกำลังเดทกันอยู่..
“…บ-บางทีเราควรแกล้งว่าเราคบกันอยู่…”
“เอ๊ะ..?”
“ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะปกปิดความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเรา ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าถ้าหากเบี่ยงเบนความสนใจออกไปทิศทางทางอื่น”
เมื่อริโกะได้ยินดังนั้นเธอเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ ผมเริ่มคิดว่าการพูดแบบนั้นมันจะเป็นความคิดที่ดูอุกอาจเกินไป
“ผมขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น..”
“ไม่เลยค่ะ…ฉันคิดว่ามันเยี่ยมมาก!!”
“เห๊ะ..แน่ใจเหรอครับ”
“ค่ะ..ตราบใดที่คุณมินาโตะโอเคกับมัน ฉันก็ไม่มีปัญหา อีกอย่างคนจะมองเราเป็นเรื่องปกติถ้าเราจะไปช้อปปิ้งด้วยกันหรือเดินกลับบ้านด้วยกัน บางทีอาจทำสิ่งอื่นๆที่ฉันอยากทำมันมาโดยตลอด”
“คุณริโกะมีสิ่งที่อยากทำด้วยเหรอครับ..”
“เอ่อ..นั้นเป็นเพียงความคิดชั่วขณะ ได้โปรดลืมไปด้วยค่ะ!!”
ผมไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ผมก็พยักหน้าตอบตามที่เธอขอให้ลืมเรื่องนี้
“อึม..ก็ได้ครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“เอ่อ..แต่ว่าจะมีใครยอมเชื่อรึเปล่าล่ะถ้าผมบอกว่าคุณริโกะเป็นแฟนผม”
“ทำไมคิดอย่างนั้นละคะ?”
“เพราะว่าเราไม่คู่ควรกันจริงๆ..”
“…ฉันขอโทษฉันจะพยายามเป็นผู้หญิงที่ดีกว่านี้ค่ะ”
“เดี๋ยว..ผมไม่ได้หมายถึงคุณริโกะ ผมหมายถึงความจริงที่ว่าผมไม่ดีพอจะเป็นแฟนของคุณ..”
ริโกะคงต้องปฏิเสธแน่ๆ…
“ไม่จริงค่ะ ไม่เลย”
เป็นไปตามที่ผมคิด เธอปฏิเสธอย่างสุดกำลัง
ตอนนี้ผมอายจนแทบอยากจะมุดหนีเข้าไปในรูแล้ว
“กลับไปที่ห้องเรียนก่อนเถอะครับ…ใกล้จะเริ่มคาบเรียนแล้ว”
“อึม…แต่ฉันประหม่า..ที่จะประกาศว่าเราเป็นแฟนกัน”
“คุณริโกะ ผมขอถามแน่ๆอีกครั้งนะครับ คุณแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วใช่มั้ย ? ต่อให้เป็นเรื่องโกหก ทุกคนจะคิดว่าผมเป็นคนที่คุณคบหาด้วย”
เธอไม่อายที่ผมเป็นคู่ของเธอเหรอ…?
ผู้คนจะเข้าใจว่าเธออยู่เพียงกับผู้ชายธรรมดา
เมื่อผมถามสิ่งนี่ แก้มของริโกะก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูและเธอก็พยักหน้าตอบ
“….นี่เป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริงสำหรับฉันเลย”
“เอ๊ะ..?”
“เอ่อ..ไม่-ไม่มีอะไรค่ะ คุณอยากจับมือฉันตอนเดินกลับไปที่ห้องเรียนมั้ย..”
“ท..ทำไม”
ผมถามพลางหายใจหอบ
“จำได้มั้ยคะ..ว่าเราจับมือกันตอนเดินขึ้นมา”
“..อ่า..ผมจำได้”
“ฉันคิดว่ามันจะดูเหมือนคู่รักกันจริงๆ ถ้าเราเดินกลับไปแบบนี้อีกครั้งค่ะ..”
ริโกะมองมาที่ผมด้วยสายตาว่า”คุณคิดว่ายังไง?”ขณะที่เอียงศีรษะ
ถ้าจะทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ มันไม่จำเป็นต้องปฏิเสธผมจึงตอบตกลงไปในทันที
“อา..งั้นเรากลับกันเถอะครับ..”
จบ!!!!