หากปล่อยข่าวในหนังสือพิมพ์ไว้แบบนี้ จะมีคนอย่างพวกชมรมหนังสือพิมพ์ได้ความคิดแปลกๆไป และเริ่มเสาะหาความสัมพันธ์ของพวกเราแน่
ริโกะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านต่างๆจนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดพวกเขาหาเจอ เรื่องที่ว่าเราอยู่ด้วยกันอาจถูกเปิดเผย
ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจกลับไปห้องเรียนพร้อมกันและประกาศความสัมพันธ์ของเราในที่สุด
เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก จึงต้องใช้วิธีการโกหกอย่างรอบคอบและแนบเนียนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เรื่องราวของเรามันจะไม่เสียหายมากกว่านี้
ผมเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง เพราะเหตุนั้นริโกะจึงอาสารับหน้าที่อธิบาย
“ริโกะ!! หนังสือพิมพ์โรงเรียนนี่มันอะไรกัน ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันจริงๆเหรอ..? จริงจัง?”
อาซาคุระ ที่ดูเหมือนจะมาโรงเรียนช้ากว่าพวกเรานิดหน่อยได้เห็นหนังสือพิมพ์นี้เข้าและรีบเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับว่าเธอโวยวายอยู่ เพื่อนร่วมชั้นทางฝั่งเธอเองก็เข้ามาหุ้มล้อมรอฟังคำตอบเช่นกัน
*นี่ นี่ นี่ คุณฮานาเอะหมายความว่ายังไง พวกเราคิดว่าพวกคุณเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กกัน นั่นไม่ใช่เหรอ?*
“ตอนนั้น เราไปเดทกันจริงๆ…ใช่มั้ย คุณมินาโตะ”
ริโกะน่ารักเกินไป ขณะที่เธอเอียงศีรษะและยิ้มถามออกมา
บ้าไปแล้ว นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาชื่นชมเธอนะ อย่างไรก็ตามผมรีบพยักหน้าและตอบคำถามของริโกะ
“อะ..อึม..ใช่ครับ”
เพื่อนร่วมชั้นมองมาที่ผมกับริโกะสลับกันไปมาราวกับว่าเขาไม่เชื่อ
*พวกเขาบอกว่ากำลังคบกัน*
*ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย*
*นี่คุณฮานาเอะ นิยามะเขาคุมจุดอ่อนอะไรบางอย่างของคุณไว้รึเปล่า?*
*ไม่หรอกฉันนะคิดว่านิยามะเหรอจะทำแบบนั้นได้ แต่ถ้าเขาทำจริงๆเรื่องมันคงจะซับซ้อนขึ้นไปอีก*
ผมได้รับปฏิกิริยาจากคนรอบข้างแล้ว
ใช่…
ขนาดผมยังไม่เชื่อเลยว่าจะได้เป็นแฟนของสาวที่สุดที่สุดในโรงเรียน
ริโกะตอนนี้ดูเศร้าๆ บิดมือซ้ายขวาไปมาและในที่สุดเธอก็เอามือมาโอบแขนผมไว้ ทำให้มือขวาของเราประสานกัน ราวกับว่าแขนของผมกำลังถูกริโกะกอด นั่นยิ่งทำให้เราเหมือนคู่รักขึ้นไปอีก
“ทำไมทุกคนถึงคิดว่าฉันมีจุดอ่อนบางอย่าง”
“ก็..นะ มันเป็นไปไม่ได้ที่ริโกะกับนายเพื่อนสมัยเด็กจะออกไปข้างนอกด้วยกันแบบนี้ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอริโกะ แต่เธอไม่เคยรับรักจากผู้ชายหน้าตาดีเลยสักคน…มันเป็นไปได้มั้ยที่ริโกะจะไม่ชอบผู้ชายหล่อ..?”
เมื่ออาซาคุระเข้ามาถามริโกะอย่างตื่นเต้น เธอเงียบตามปกติและพูดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อทำให้ผมตัวเเข็งทื่อหยุดอยู่กับที่
“ทำไม…คุณมินาโตะเท่จริงๆนะ”
ในขณะนั้น ห้องเรียนก็เงียบลง
ความเงียบสงัดในตอนนี้เป็นเหมือนการปฏิเสธสิ่งที่ริโกะพูดอย่างเห็นได้ชัด
ฮึ….
ผมรู้ว่าไม่ใช่ผมที่จะหล่อที่สุดในโลก แต่ก็ยากที่จะเลี่ยงถูกมองแบบนี้ในคราวเดียว
แต่มันก็ดีใจที่ได้ยินแบบนี้
“อา…ก็ใช่น่ะสิ ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ ไม่เป็นไร แต่พวกเธอกำลังเดทกันจริงเหรอ!!”
“ใช่…”
“ไม่อยากเชื่อเลยยยย”
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็ส่ายหัวยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและแยกย้ายกันไปที่สุด จากนั้นซาวะที่มองมาทางผมก็หรี่ตาลงราวกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พอนึกขึ้นได้…
ไม่นะ..
เมื่อวันก่อนซาวะคุยเรื่องคนที่ผมชอบด้วยนี่หน่า! ในช่วงเวลาที่อึดอัดสุดๆ ผมก็พูดออกไปว่า”มีคนที่ชอบแล้ว” อะไรประมาณนั้น
ตอนนี้ซาวะคงคิดว่าผมกำลังแย่แล้วที่ออกไปเที่ยวกับริโกะขณะที่ผมมีผู้หญิงอื่นที่ชอบ
พอมองเข้าไปใกล้ๆ พบว่าสายตาของซาวะนั้นเข้มงวดกว่านักเรียนคนอื่นมาก
อา…ผมต้องแก้ตัวให้ถูกวิธีในคราวนี้
—
“ฉันเสีนใจที่ได้ยินทุกคนพูดออกมาว่าไม่เชื่อฉัน”
ริโกะพึมพำออกมา เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่แถวนั้นก็ก้มหน้าขอโทษ
ผมเดาว่าพวกเขารู้สึกผิดเหมือนกำลังรังเเกริโกะ
“ฉันขอโทษ ริโกะ พวกเราแค่แปลกใจ ไม่ใช่พวกเราจะขัดขวางอะไรนะ”
“จริงๆเหรอ..”
“ใช่ๆ ใช่ไหมพวกเรา!!”
ทุกคนรีบพยักหน้าพร้อมกันตามเสียงอาซาคุระ
หากเป็นแบบนี้ ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติแล้ว
ทันทีที่ผมหวังเช่นนั้น
“ฉันดีใจที่ ได้หลงรักคุณมินาโตะ ฉันอยากให้เรย์จังช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะ”
“เอ๊ะ…หมายความว่าเธอเป็นคนตกหลุมรักเขา?”
“ใช่ ฉันรักคุณมินาโตะ เลยตัดสินใจสารภาพรักกับเขา ตอนนี้ฉันมีความสุขมากๆเลยล่ะ”
พวกเขาทั้งหมดอ้าปากค้างและมองมาที่ผมจุดเดียว แต่นั่นก็ไม่สามารถซ่อนความจริงที่ว่าตอนนี้ใบหน้าผมแดงขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าริโกะจะพูดว่า”ฉันรักคุณมินาโตะ”กับทุกคนแม้ว่าจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม
ผมได้รับความสุขมากมายจากริโกะซึ่งนั่นก็ไม่คู่ควรเลย….
“เอ๊….ใช่ๆ ฉันพยายามมาตลอดเลยก่อนหน้านี้และในที่สุดก็ได้สารภาพรักกับเขาได้สำเร็จ!”
ไม่นะ…
หัวใจผมกำลังจะพุ่งทะลุออกมาอีกแล้ว
เดี่ยวก่อนริโกะ คุณต้องลดความน่ารักลงอีกหน่อย
ผมรู้ว่าคุณพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวคุณแต่ว่าใจผมมันรับไม่ไหวเเล้ว
ทันใดนั้น เสียงออดก็ดังขึ้นในที่สุด ริโกะกับผมมองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าให้กันเล็กน้อนและแยกกันไปตามปกติ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ริโกะดูมีความสุขมากจริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ท่าทางนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวราวกับภาพติดตา..
“เห้อ…มินาโตะ ก่อนหน้านี้นายคิดยังไงก็แน่…”
ซาวะพึมพำด้วยเสียงเครียดพลางกุมขมับไปด้วย
จบ!!! ไม่น่ามีอะไรค้างคา เพราะง้านนนน ตัดจบแบบนี้เลยยย!!!