ต่อจากกนี้เดี๋ยวพาคอนอ่านย้อนอดีตไปขยายความสักหน่อยดีกว่า~~~
—การอาบน้ำทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นและผ่อนความลง แต่ว่ายังไงมันก็ยังรู้สึกเหนื่อยๆอยู่ดี ผมเดินออกจากห้องน้ำหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว..
ริโกะ เธอบอกว่าจะเตรียมอาหารเย็นไว้รอผม แต่ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่
แต่ว่า…
ผมไม่อยากจะปฏิเสธอาหารที่เธออุตส่าห์ตั้งใจทำให้กับผม ผมควรจะทำยังไงดี..?
ผมเปิดประตูห้องนั่งเล่นออกอย่างลังเล ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นของน้ำซุปก็ลอยมาเตะจมูกของผมทันที..
*หอมจัง..*
ผมรู้สึกประหลาดในทันทีที่เปิดประตู ท้องของผมซึ่งเคยอ่อนล้าก่อนหน้าพอๆ กับร่างกายของผม คราวนี้มันกลับรู้สึกตื่นเต้น
เอ่อ…ผมคิดว่าน่าจะพอยังกินมันได้อยู่นะ..
ขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่ ริโกะก็ได้ขยับเข้ามาอยู่ข้างๆผมแล้ว
“ฉันกลังวลว่าไข้ของคุณจะสูงขึ้นอีก เพราะฉะนั้นคุณไปรอฉันที่ห้องนอนก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะเอาข้าวต้มและยาตามไปทีหลัง”
“รับทราบแล้วครับ!”
ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อย แต่ตอนนี้ผมปล่อยตัวเองให้ไปตามสถานการณ์ ผมถูกริโกะพูดบังคับและค่อยๆมุ่งหน้าตรงไปที่ห้องนอน อันที่จริงแล้วผมรู้สึกค่อยค่างเฉื่อยชา แต่พอคิดว่าใกล้จะถึงเวลาเข้านอนแล้วก็โล่งใจ
สักพักผมได้ยินเสียงเคาะประตูออกมาจากนอกห้องดัง”ก๊อกๆ”เบาๆหลังจากนั้นเธอค่อยๆเปิดประตู เดินเข้ามาพร้อมกับถือถาดอาหารที่มีกลิ่นหอมๆลอยออกมา
เธอวางถาดอาหารบนโต๊ะข้างเตียงและค่อยๆจัดหมอรให้ผมนั่งพิง เธอเป็นคนที่คิดถึงรายละเอียดเล็กน้อยได้ดีมาก มีบุคลิกที่ดี ใจดีและน่ารัก สามารถทำงานบ้านแทบทุกอย่างได้
เธอเป็นมนุษย์เหมือนผมจริงๆเหรอ…?
ขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่
ตอนนั้นเอง ริโกะได้ลุกแอกมาจากเก้าอี้และมานั่งลงบนเตียงข้างๆผม
“อยากกินอะไรก่อนไหม—?”
“อึม…ขอเป็นโจ๊กก่อนละกันครับ”
ริโกะหยิบช้อนขึ้นมา ด้วยความปลาดใจของผมทำให้ผมตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ….ควันที่ลอยขึ้นมาจากโจ๊กแสดงถึงการที่พึ่งปรุงเสร็จใหม่ ด้วยความที่มันร้อน เธอเป่ามันเบาๆเพื่อให้มันเย็นลง จากนั้นเธอมองมาที่ผมแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ถ้างั้น..คุณนิยามะ อ้าปากขึ้นค่ะ..อ่าา~~~❤️”
“เดี๋ยวก่อน!! คุณฮานาเอะเดี๋ยว!!”
หลังจากที่ผมขอให้เธอหยุดสีหน้าของเธอดูเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย ผมควรจะทำยังไงดี?
“คุณพูดว่า “อ้ามม” ให้ฉันฟังได้มั้ยคะ”
เธอแน่ใจนะว่า….มันไม่น่าขนลุกสำหรับเธอเหรอ ผมไม่ได้ขอให้เธอทำอย่างนั้นสักหน่อย
นอกจากนี้ผมยังเป็นคนป่วย ใช่แล้ว..แบบนี้มันก็ไม่แปลกสักเท่าไหร่
ดังนั้นเมื่อผมเป็นไข้และรู้สึกอ่อนเพลีย…ผมควรได้ระบความรู้สึกดีๆสักครั้ง…ใช่มั้ย?? ผมรู้สึกสับสนมากจนไม่รู้ว่าตอนนี้ความคืดของผมไปไกลแล้ว
“คุณนิยามะ…”
ได้โปรด อย่ามองมาที่ผมด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยแบบนั้นมันราวกับว่าเธอจะสะอื้นไห้ได้ตลอดเวลา
“โอเค…”
เป็นไงเป็นกันวะ!
เมื่อผมเริ่มอ้าปากอย่างเชื่องช้า ริโกะหรี่ตาของเธอราวกับว่าโล่งใจ จากนั้นข้าวต้มก็ค่อยๆหยดลงบนลิ้นของผม ในขณะนั้นรสชาติของน้ำซุปและไข่หวานเล็กน้อย…หอมมันอร่อยมากมันยังทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและคลุมเครือในใจของตัวเอง ข้าวต้มอุ่นๆพอแล้วต้องขอขอบคุณความพยายามของ ริโกะ ในการเป่าให้เย็นลงทำให้ผมได้ลิ้มรสมันอย่างเอร็ดอร่อย ผมกลืนมันลงเพื่อลิ้มรสชาติที่ตามมาภายหลัง
*อร่อย!!*
“รสชาติมันจางไปมั้ยคะ”
“ไม่หรอก..ไม่ใช่อยากนั้นหรอก..มันอร่อยดีออก”
“จริงเหรอคะ..ค่อยยังชั่ว”
ริโกะถอนหายใจเบาๆ แสดงถึงความโล่งออกของเธออย่างเห็นได้ชัด
“อยากลองซุปขิงดูมั้ยคะ :3”
“อ่า…ไม่เป็นไรผมกินเองได้”
“คุณนิยามะ..อย่าทำท่าทางแบบนั้นได้มั้ย..ในขณะที่คุณกำลังลำบาก คิดว่าคงไม่มีใครยอมอ้อนให้ขนาดนี้หรอกนะ..”
“ฮึก..!!”
“คุณนิยามะอย่าฝืนตัวเองไปหน่อยเลยนะคะ”
“ต..แต่ว่า “
“ฉันคืดว่าไม่เป็นไร เรื่องที่ให้คนอื่นมาดูเเลคุณเมื่อคุณรู้สึกไม่สบาย คุณไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยเหรอคะ?”
ผมสงสัยว่านี่เป็นเรื่องจริงรึเปล่า ผมเริ่มสงสัยในความจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นเพียงความฝันที่ผมมีเพราะเป็นไข้ทุกอย่างไม่ได้รู้สึกจริง ดังนั้นอันที่จริงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นสะดวกเกินไปสำหรับผม
มันเป็นความฝันที่เป็นจริง ที่สาวสวยที่สุดในโรงเรียนมาที่บ้านของผู้ชายธรรมดาอย่างผมและดูแลพิถีพิถันอย่างอ่อนโยน
แม้ว่ามันจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่นี่มันไม่ใช่ความฝันเลยเหรอ??!
ผมเริ่มคิดอย่างนั้นจริงๆ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง มาทำตามที่ฮานาเอะ ริโกะ พูดกันเถอะ
บอกตามตรงมันยาก สำหรับการที่จะไม่มีความสุขจากการที่ได้รับการดูแลจากผู้หญิงที่น่ารักคนนี้…
ผมนอนเอนหลังพิงหมอนแล้วหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ปล่อยตัวตามสถานการณ์ ทำสิ่งที่เธอต้องการทั้งหมด เธอป้อนอาหารทั้งหมดให้กับผมด้วยมือแล้วพูดคำว่า”อ้ามมม”
“อย่าหักโหมเกินไปนะคะ คุณไม่มีความอยากอาหารตอนเป็นไข้ใช่ไหม”
“ใช่แล้วครับ..แต่ฝีมือการทำอาหารของคุณฮานาเอะมันอร่อยมากเลย”
ผมถูกดึงดูด้วยอาหารฝีมือของเธอ ผมคิดว่าผมจะไม่มีวันเบื่ออาหาร มันมีความสุขมากเมื่อได้กินอาหารของเธอ ผมบอกเธอว่า”มันอร่อย” ริโกะก็แสดงอาการยิ้มเขินๆเล็กน้อย มันน่ารัก…น่ารักซะจนผมหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ไม่..นี่อาจเป็นอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากไข้ แต่ว่า…
“ฉันดีใจมากเลยนะคะที่คุณชอบมัน คุณนิยามะ ขอบคุณที่บอกนะว่ามันอร่อย..ฮิฮิ…ดีใจจัง”
“…..”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ…มีอะไรติดอยู่ที่ปากของคุณด้วย”
เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดไปที่ปากของผมเบาๆ..
นี่มันอะไรกันเนี่ย!! ผมรู้สึกอายมาก มันกำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆ มันสับสนไปหมด น่าแปลก..แต่ผมก็ไม่รู้สึกรังเกียจมันแต่อย่างใด
หรือว่า..นี่อาจเป็นความสุขเหรอ…
ผมไม่รู้ว่าผมอ่อนแอเพราะเป็นหวัดรึเปล่า ยิ่งริโกะดูแลผมมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
ทำไมผมรู้สึกแบบนี้กันนะ…นี่จะต้องเป็นปาฏิหาริย์แน่ๆ เมื่อริโกะกลับบ้านไปหลังจากดูแลผม ปาฏิหาริย์ภาพลวงตานี้จะหายไป..แค่ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ผมจะไม่มีวันลืมมัน…
มันดูโหดร้ายที่จะพูด แต่ผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยและถ้าผมไม่คิดจะมี ผมจะได้ใช้ชีวิตกะบความทรงจำที่แสนมีความสุขไปจนวันตาย..
ผมเริ่มค่อยๆง่วงนอนด้วยฤทธิ์ยา ให้ตายสิ..ผมยังไม่อยากนอน…ไม่อยากให้ความสุขนี้จบลงไปเลย~~
ตัวผมไม่ได้รู้สึกดีแบบพิเศษกับผู้หญิงคนนี้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอความรู้สึกดีๆแบบนี้มาก่อน…..
ตรงข้ามกันเลย.. ภาพลวงตาที่ผมคาดไว้ ฮานาเอะ ริโกะ ไม่ได้หายออกไปจากชีวิตผม มันเป็นเช้าของวันรุ่งขึ้น..เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมา..(จบ!!)
##ถ้าหากมีประโยคไหนอ่านแล้วรู้สึกขัดใจเม้นบอกกันได้เลยน้าา จะได้เอาไปปรับปรุงในตอนต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้น!!!!