—จากการโดยสารโยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ20นาทีรวมกับเวลาเดินทางมาถึงทางเข้าฟาร์มสัตว์ขนาดใหญ่ ริโกะร้อง”ว้าว”ออกมาด้วยความดีใจ
“ฟาร์มสัตว์นี่หน่า…ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่คุณตัดสินใจพาฉันมาที่นี่ แต่ก็ขอบคุณนะคะ..”
“ด-ด้วยความยินดีครับ….ถึงมันจะแปลกไปหน่อย หวังว่าคุณริโกะจะชอบมันนะครับ..”
“ฉันชอบมากเลยค่ะ ฮิฮิ..”
ผมเฝ้ารอปฏิกิริยาตอบรับของเธออย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อเธอเห็นดังนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกาย นั่นเลยทำให้ผมโล่งอกขึ้นมา…
ดีใจ..ที่เหมือนจะเลือกจุดหมายที่ถูกต้องแล้ว….
บังเอิญว่านี่คือฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในเขตชานเมือง เดิมทีแล้วผมไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับสถานที่นี้มากนัก
=====
—ย้อนกลับไประหว่างอาซาคุระกับมินาโตะคุยกัน
“เอาจริงๆเหรอครับ…ฟาร์มสัตว์แถวชานเมืองน่ะนะ ไปพวกดิสนีย์หรือไม่ก็โรงหนังพวกนี้ไม่ดีกว่าเหรอ”
“ดิสนีย์ถึงจะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการออกเดท แต่ก็ต้องใช้เวลามากทั้งวันเช่นกัน นายมีเวลามากพอเหรอแถมค่าใช้จ่ายก็แพงมากด้วบ..”
“เรื่องค่าใช้จ่ายผมใช้จากค่างานพาร์ทไทม์ได้ครับ”
“ไม่…ไม่ใช่เรื่องเงินสักหน่อย นายลองคิดดีๆนะ ราคามันไม่เหมาะกับเด็กมัธยมปลายอย่างพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อราคามันแพงขนาดนั้น ชั้นคิดว่าริโกะไม่น่าจะให้นายเป็นคนจ่ายคนเดียวนะ..”
“เอ่อ..มันก็ใช่ครับ..แต่แล้วถ้าเป็นโรงหนังล่ะ มันเป็นสถานที่นัดพบทั่วไป มันคงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าใช่มั้ย”
“อ่า….นั่นมันก็ดูธรรมดาเกินไป ไม่มีอะไรใหม่ และอีกอย่างนายจะไม่สามารถคุยกับเธอได้เลยในขณะที่ดูหนังไปด้วย นายจะเสียเวลาสองชั่วโมงกว่าๆไปโดยเปล่าประโยชน์…”
“อึัม..ผมเข้าใจแล้วครับ..ว่าทำไมตัวเลือกสองข้อนี้ไม่เหมาะ..แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่นอีกเยอะนะ”
“ฟาร์มสัตว์แถวชานเมืองที่ชั้นแนะนำดีกว่าที่อื่นแน่นอน!! มีความแปลกใหม่ที่นายคาดไม่ถึงเลยล่ะ ปกติคนเรามักจะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ในฟาร์มใช่มั้ย สิ่งที่ริโกะจะได้เห็นชั้นคิดว่าเธอต้องประหลาดใจและมีความสุขอย่างแน่นอน!
“….”
“มันเหมือนกับคู่รักที่แสนอบอุ่นเลยใช่มั้ยล่ะ”
“คู่รักที่แสนอบอุ่น…”
“เดี๋ยว! นี่นายจะหน้าแดงทำไมเนี่ย ฉันก็อายเหมือนกันนะ…”
“ข-ขอโทษ…”
“ฮ่า ฮ่า…นายนี่ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
=====
—หลังจากแลกเปลี่ยนการสนทนาดังกล่าว สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเลือกฟาร์มสัตว์แถบชานเมืองตามที่อาซาคุระบอก และนี่จึงเป็นจุดหมายของเรา..
ผมซื้อตั๋วเที่ยวชมสำหรับสองคน ซึ่งเป็นราคาแบบย่อมเยา เด็กมัธยมปลายสามารถจ่ายได้โดยไม่มีปัญหา ตามที่อาซาคุระคาดไว้ ริโกะไม่ยอมรับให้ผมเป็นคนจ่ายค่าตั๋วของเธอ และถ้ามีอะไรเธอจะพยายามจ่ายเงินให้ผม ซึ่งผมก็ต้องหยุดเธอไม่ให้ทำในลักษณะดังกล่าว
ดีใจจังที่ไม่ได้เลือกดิสนีย์..ขอบคุณอาซาคุระ
เราเดินผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ ผ่านทางเดินไม้ สำหรับดูนก และมาถึงทุ่งหญ้าที่มีรั้วขอบชิด
ทางด้านซ้ายของรั้วมีพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ มีคนกำลังขี่ม้าเล่นกันอย่างสนุกสนาน
สิ่งแรกที่เราทำคือไปพื้นที่ทางขวามือเพื่อไปดูเขาสาธิตการขี่ม้าเบื้องต้น
บางทีเราน่าจะเล่นอยู่ที่นี่ได้เกือบสองชั่วโมง
มีรถม้าอยู่ในสวนสาธารณะฝั่งตะวันออก
ริโกะปรบมือเข้าด้วยกันแล้วร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นและปลื้มปิติ
“ว้าว…ฉันไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”
“ใช่..เห็นด้วยเลยครับ..นี่ก็ครั้งแรกของผมเหมือนกัน”
“มันน่าทึ่งจริงๆ…..”
เธอหายใจออกมาอย่างตื่นเต้นและชื่นชมม้าตัวหนึ่งขณะที่มันกำลังวิ่งอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนเธอคงจะชอบม้าเอามากๆ ประสบการณ์การขี่ม้าน่าจะเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเธอ…
“คุณริโกะครับ ตรงนั้นเขาบอกว่าขี่ม้าได้ด้วยไปลองดูกันมั้ยครับ…”
“เอ่อ..อึม..ฉันก็อยากลองนะ..แต่ว่า..ฉันใส่กระโปรงอยู่….”
“อ๊ะ…จริงด้วยครับ คุณพูดถูก”
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะขี่ม้าด้วยกระโปรงแบบนี้
อา…ผมทำให้ล้มเหลวโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ก่อน
“ฉันขอโทษที่ทำโอกาสดีๆแบบนี้เสียไป….เป็นเพราะฉันตัดสินใจเลือกกระโปรงมา..ที่จริงฉันควรใส่ชุดที่มันควรเคลื่อนไหวได้ดีกว่านี้”
“ไม่ครับ..คุณริโกะไม่ผิดเลย นากจากนี้ชุดนั้นน่ารักมากจริงๆ..”
“ข-ขอบคุณ…”
“อ่า..ครับ”
ริโกะแสดงความเขินอายออกมา ซึ่งนั่นทำให้ผมติดไปด้วย เราทั้งคู่หน้าแดงกันอยู่พักหนึ่ง จู่ๆเธอก็พูดขึ้นว่า…
“อึม..ถ้าคุณมินาโตะไม่รังเกียจ คุณไปขี่ได้มั้ย ฉันจะนั่งดูคุณอยู่ห่างๆ”
“เอ่อ…ไม่ดีมั้งครับ”
“มันน่าสนุกนะคะ…ไม่ต้องอายหรอก”
นั่นทำให้ผมประทับใจมากเมื่อได้ยินดังนั้น
อย่างไรก็ตามผมพยายามปฏิเสธการขี่ม้าแบบสุดกำลัง
ใช่แล้ว..!! การให้อาหารพวกมัน ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่ใส่กระโปรง
“คุณริโกะครับ ไปให้อาหารม้ากันเถอะ ทางนี้ๆ”
“เอ๊ะ…”
“เขาบอกว่าเราให้อาหารพวกมันได้”
“ว้าว~~”
“ปลอดภัยแน่นอนครับ ผมรับประกัน”
จากนั้นเราแวะไปซื้ออาหารให้ลูกมาและมุ่งไปที่รั้ว
ม้าตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาดตัวที่เล็กกว่าตัวอื่นนิดหน่อย แน่นอนมันน่ารักมาก น่าประทับใจสุดๆ
เมื่อผมกำลังจะหยิบแครอทออกมาจากถังเพื่อป้อน จู่ๆ ก็สังเกตุว่า…—
“เอ…เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนๆ!!”
ด้วยเหตุผลบางอย่างม้าทุกตัวก็เริ่มวิ่งกรูเข้ามาเกาะกลุ่มรวมตัวต่อหน้าผม แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยงบางคนกำลังให้อาหารพวกมันอยู่ แต่ม้าทั้งหมดก็พร้อมใจกันวิ่งเข้ามาหาผมในชั่วพริบตา
“ว้าว…คุณมินาโตะ..พวกมันมารวมอยู่รอบตัวคุณเต็มไปหมดเลย…”
ผมประหลาดใจแต่ดู้หมือนริโกะกำลังสนุกอยู่กับตัวเอง ผมไม่เข้าใจและรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ผมหมายถึงทำไมผม…—
“ไม่ ไม่ ไม่ อย่าเข้ามานะครับ..”
ผมพยายามโบกมือให้เหล่าม้าพวกนั้นออกไป แต่ทว่า ม้าหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจสิ่งที่ผมทำเลยสักนิดและจ้องมองมาที่ผม
“หึม…นี่มันเกิดอะไรขึ้น กันเนี่ย!!”
“ฮิฮิ..คุณมินาโตะยอดไปเลย เหมือนเป็นเจ้าของม้ายังไงยังงั้น..”
ริโกะปรบมือและยิ้ม แล้วนักท่องเที่ยวรอบๆก็ปรบมิอตามเธอด้วยความชื่นชม
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ..”
“คุณมินาโตะคงเป็นคนที่ชอบสัตว์ใช่ไหมล่ะ”
“ผมขอโทษครับ คุณริโกะ..ผมไม่ได้จะขัดจังหวะการให้อาหารของคุณนะ”
“ขอโทษทำไมเหรอคะ…ฉันคิดว่ามันเยี่ยมมาก”
“…..”
ผมไม่รู้จริงๆว่าเธอเป็นคนดีเเค่ไหน
ผมควรพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เธอชอบผม..อ่า..แต่ผมกลับเป็นฝ่ายชอบเธอมากขึ้นเรื่อยๆแทน
ได้แต่หวังว่าผมจะเป็นคนที่มีเสน่ห์และเป็นที่รักเหมือนกับริโกะ เพื่อที่จะทำอย่างนั้นได้ ผมต้องชดเชยความผิดพลาดนี้
ดูเหมือนม้าจะไม่มีทีท่าออกจากบริเวณนี้เลย ไม่มีทางอื่นนอกจากเลิกให้อาหารพวกมันแล้วเดินออกไป ถึงริโกะจะหัวเราะแล้วบอกว่าสนุก แต่ผมก็แอบผิดหวังนิดๆกับตัวเอง
อุตส่าห์วางแผนมามากแล้ว สุดท้าย รถไฟเมื่อเช้า การขี่ม้า การให้อาหารลูกม้า สุดท้ายก็ไม่ได้ผล..
นอกจากนี้เรายังมีเวลาพอเหลืออีกประมาณหนึ่งชั่วโมง
ผมอึดอัดเล็กน้อย….แน่อนริโกะเธอคงเบื่อที่ต้องรอที่นี่เป็นชั่วโมง…
“แถวนี้ค่อนข้างใกล้กับทะเลสาบ อยากลองไปที่นั่นดูมั้ยครับ..”
ผมถาม และริโกะก็พนักหน้าตอบกลับด้วยสีหน้าอันมีความสุขของเธอ แม้ว่าการออกเดทจะไม่ได้เป็นไปตามที่คาดนัก แต่สิ่งเดียวที่ริโกะปรากฏให้เห็นคือเธอยิ้มเหมือนมีความสุขอยู่ตลอดเวลา….
จบบ!!!