—หลังจากอาหารกลางวันที่ริมทะเลสาบ ในระหว่างที่เรากำลังเดินกลับไปที่สวนสัตว์ ผม..สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป เกี่ยวกับพฤติกรรมของริโกะ
“แถวนี้มีฝูงกระต่ายเยอะ..เขาบอกว่าถ่ายรูปได้ตามสบายเลยนะครับ”
“ว้าว..งั้นเรามาจับกระต่ายน้อยนี้แล้วมาถ่ายรูปกันเถอะค่ะ!!”
“อึ้ม..งั้น.. เอ๊ะ!! คุณริโกะครับ เดี๋ยวก่อน”
“หึม….”
ริโกะหยุดเดินพร้อมกับทำหน้าตาน่ารักที่เต็มไปด้วยความเขินอาย ถ้ามองแค่แวบเดียวอาจไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติ
แต่เนื่องจากเราอยู่ด้วยกันมาพักหนึ่งแล้ว และเธอเป็นคนที่ผมชอบ
ผมคอยเฝ้ามองเธอจากด้านหลังมาตลอดสองสามเดือน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สังเกต
“คุณริโกะครับ คุณเจ็บขาอยู่รึเปล่า..?”
“เอ๊ะ..!”
รอยยิ้มของริโกะกระชับขึ้นเล็กน้อย
“เอ่อ..เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ ฉันสบายดี!”
ผมบอกได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังปกปิดบางสิ่งบางอย่างเพื่อไม่ให้ผมกังวล ผมจึงตัดสินใจเพิกเฉยต่อคำพูดของเธอครู่หนึ่งแล้วเรียกเธอนนั่งลงไปที่ม้านั่งใกล้ๆ
“มานี่สิครับ..”
“อ๊ะ…อึม..”
“ผมขอดูเท้าหน่อยได้มั้ย”
“….”
ริโกะจ้องมาที่ผมด้วยสายตาบูดบึ้งและรู้สึกผิด
ถ้าเธอต้องการซ่อนมันในสถานการณ์แบบนี้……
ผมรู้สึกไม่ดีและตัดสินใจคุกเข่าลงค่อยๆยกเท้าของเธอขึ้นมาดู
“ขอโทษนะครับ…”
หลังจากขอโทษ ผมยกเท้าของเธอขึ้นมาไว้บนเข่าของผม
“อึ๊ก!!!…เจ็บอ่ะ..”
ริโกะหน้าแดงทันทีแล้วหันหน้าหนีหลบไม่กล้าสบตาผม….ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุฉุกเฉินนี้ ผมคงหน้าแดงตามไปด้วยแล้ว
แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่ค่อยเหมาะสมที่จะคิดเรื่องนี้
“คุณมินาโตะ..ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ..ถ้าทำแบบนั้นเสื้อของคุณจะสกปรกเอานะ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ…”
มันเป็นรองเท้าเเตะส้นสูงน่ารักๆ และนี่ อาจเป็นครั้งแรกที่เธอใส่เพราะจากที่ดูแล้วมันยังใหม่ๆอยู่เลย
ผมสังเกตเห็นข้อเท้าของเธอซึ่งมีสีแดงอยู่บางจุด นอกจากบาดแผลเหล่านี้ นิ้วเท้าและส้นเท้าเล็กๆของเธอมีเลือดซึมออกมาจากการถูกรองเท้าแตะกดทับ
“เดี๋ยวผมจะเอายามาทาให้นะครับ….ขถอดรองเท้าของคุณออกแปบนึงนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อันนี้เดี๋ยวฉันทำเอง”
“คุณริโกะครับ อยู่เฉยๆเถอะ….”
“….! อ-อึม..”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หน้าของริโกะ ก็ยิ่งเริ่มแดงมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมากกว่าปกติ เพื่อไม่ให้ ริโกะที่กำลังบาดเจ็บต้องทำตามอำเภอใจ
ผมไม่รู้ว่าทำไม
แต่ผมดีใจที่เธอไม่พยายามขัดขืนเอาเท้าออกจากเข่าของผม
ผมถอดรองเท้าแตะออกจากเท้าขวาของเธอ จากนั้นรูดซิบกระเป๋าสะพายที่อยู่ข้างหลัง หยิบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่อยู่ในนั้นออกมา
ริโกะที่คอยเฝ้าดูการกระทำของผมเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“น่าแปลกนะคะคุณมินาโตะ พกสิ่งนี้ติดตัวไว้ด้วยตลอดรึเปล่า…?”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ….วันนี้ผมเตรียมของพวกนี้มาเยอะเผื่อมันเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินน่ะ…’’
ในการเป๋าของผมมีสำภาระสำหรับในสถานการณ์แบบนี้อยู่อีกเพียบ ซึ่งนั่นก็รวมถึงพวกยานี่ด้วย
“ขอโทษนะครับ…แสบนิดหนึ่งนะ…”
“ค่ะ..ไม่เป็นไร..”
ริโกะรับตาลงขณะเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวด
ไม่อยากให้เธอเจ็บปวดแบบนี้เลย…
ผมค่อยๆฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเบาๆ เท่าที่จะทำได้ด้วยความรู้สึกหมดหนทาง
หลังจากเช็ดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาดแล้วใช้พลาสเตอร์สำหรับปิดแผลแปะไว้
“โอเค..แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ…”
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะลองพยายามลุกขึ้น…”
“เอ๊ะ…คุณริโกะครับไม่ควรฝืนตัวเองแบบนั้นนะ”
ผมรีบยื่นมือไปพยุงตัวของเธอ แล้วให้เธอวางเท้าทั้งสองของเธอสัมผัสกับพื้นด้วยตัวเองใขณะที่แขนของผมยังคงพยุงอยู่
“สุดยอดไปเลยค่ะคุณมินาโตะ…ความเจ็บปวดมันหายไปแล้ว..”
ผมรู้สึกโล่งใจอย่างสุดซึ้งที่คราวนี้เธอดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรมาก…
แต่ภายในไม่กี่วินาทีผมก็รู้สึกถึงความรู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
“คุณริโกะครับ..ผมขอโทษนะ…ถ้าผมสังเกตเห็นให็เร็วกว่านี้ล่ะก็..คุณคงไม่เป็นเเบบนี้ ไม่สิ…ถ้าเกิดผมไม่รู็ตัวเลยว่าคุณเจ็บเท้าแบบนี้มันจะเป็นยังไง ผมควรน่าจะรู้ว่าไม่ควรพาคุณเดินทางไกลแบบนี้”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันตางหากเป็นคนผิดเองที่ทำให้คุณมินาโตะต้องเป็นกังวลเพราะฉันซ่อนความเจ็บปวดไว้คนเดียวโดยไม่ได้บอกคุณก่อน…เป็นเพราะฉันเอง…เพราะฉัน..ที่ตื่นเต้นกับการออกเดทกับคุณอย่างเดียวจนไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไง…แบบนี้ฉันมันงี่เง่ามากเลยใช่มั้ย..”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณเลยครับ…เป็นผมที่ล้มเหลวมาทั้งวัน….”
ถ้าผมไม่ให้เธอเดินจากสวนสัตว์มาบริเวณทะเลสาบตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
ทั้งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนรถไฟ กล่องอาหารกลางวันที่ยู่ยี่
และเหนือสิ่งอื่นใดผมทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
ผมรู้สึกอยากจะต่อยหน้าของตัวเองขึ้นมาจริงๆ ที่คิดว่าเมื่อคืนนี้ตัวเองเตรียมตัวสำหรับวันนี้มาเพียงพอแล้ว และจะทำให้วันนี้เป็นวันที่สมบูรณ์แบบ
ตั้งแต่ที่เจอกันผมได้รับโอกาสแก้ตัวจากเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองยังจะสามารถทำผิดพลาดได้อีก
อยากให้ริโกะชอบผมเหมือนกับที่ผมชอบเธอ ผมคิดว่าผมทำสิ่งนั้นใด้ดีที่สุดแล้ว แต่นั่นผมมั่นใจเองมากเกินไป….
“ผมขอโทษนะครับ..ที่ทำตามแผนได้ไม่ตรงตามที่วางเอาไว้”
“เอ-เอ๊ะ..แผนอะไรเหรอคะ..?”
ไม่…ผมพูดบางอย่างที่ไม่ควรพูดออกไป แม้ว่าผมจะมานึกเสียใจทีหลัง แต่ก็ไม่สามรถยกเลิกคำพูดที่สื่อออกไปแล้วได้..
ผมไม่สามารถเงยหน้าขึ้นจากความรู้สึกเศร้าเสียใจและตัดสินใจอธิบายสิ่งต่างๆที่ผมทำเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันนี้ ผมอยากจะดูเท่ในสายตาของริโกะจริงๆเลยไม่ได้บอกเกี่ยวกับการเตรียมการของผมกับอาซาคุระให้เธอฟังก่อน
สุดท้ายก็คงต้องซื่อสัตย์บอกเรื่องทั้งหมดเปิดเผยเรื่องความมั่นใจของตัวเองที่มากเกินไป
“ม..ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณมินาโตะจะทำเพื่อฉันขนาดนี้ อุตส่าห์ยอมไปปรึกษาเรย์จังเพื่อฉันคนนี้..”
“อึม..อาซาคุระใจดีกับผมมาก ขอโทษนะครับที่ทำตามแผนได้ไม่ดี”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ..วันนี้ฉันมีความสุขมากเลยนะรู้มั้ย….”
“ขอบคุณนะครับ..แต่ไม่จำเป็นต้องปลอบใจผมขนาดนั้นก็ได้ ผมเคยล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วและผมเข้าใจดียิ่งกว่าใคร..”
“น..นั่นไม่ใช่”
ขณะที่ริโกะจะพูดอะไรบางอย่าง..รู้ตัวอีกทีตอนนี้ท้องฟ้าเหนือหัวเราค่อยๆมืดครึ้ม เมฆฝนค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามา
ในที่สุดสภาพอากาศก็ยอมแพ้ต่อคนอย่างผม แม้ว่าสภาพอากาศที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ผมก็อดไม่ได้ทีี่จะคิดว่าตัวเองเป็นตัวดึงดูดความโชคร้าย
เวลาไม่นาน จากฝนที่เริ่มร่วงหล่นปรอยๆก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ คนที่อยู่รอบข้างเริ่มชุลมุนหาที่หลบฝนแถวอาคารใกล้ๆ
“พวกเราก็ไปกันเถอะครับ..”
ผมพยายามโน้มตัวลงให้ริโกะพยุงไว้ แต่ทว่าด้วยสถานการณ์บางอย่างเธอสะดุดแล้วชนโดนที่หลังผมเบาๆ
“คุณริโกะครับ..เป็นอะไรมั้ย..?”
เธอค่อยๆใช้มือทั้งสองโอบกอดร่างกายของผมจากด้านหลัง นั่นทำให้ผมเริ่มสับสนมากขึ้น
ผมกำลังถูกกอด..? ท-ทำไม..
“เอ่อ..คุณริโกะครับ..”
“ฉันอยากให้คุณฟังฉันหน่อยได้มั้ยคะ…”
“ค-ครับ…”
“ฉันไม่อยากแยกจากคุณมินาโตะตอนที่เราอยู่บนรถไฟ ฉันมีความสุขที่เพียงได้อยู่ข้างๆคุณ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คุณพาฉันมาที่ฟาร์มสัตว์ ถึงอย่างนั้นฉันก็มีความสุขมาก วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับฉัน
ฉันไม่สามารถขี่ม้าได้เพราะฉันสวมกระโปรง แต่ฉันก็อยากดูน่ารักในสายตาของคุณมินาโตะ เช่นเดียวกับเรื่องรองเท้าแตะ ฉันอยากดูน่ารักที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อให้คุณมินาโตะคิดว่าฉันน่ารัก แม้ถึงจะแค่แปบเดียวก็ตาม…”
“….”
“คุณมินาโตะรู้มั้ยคะ ว่าฉันตื่นเต้นกับพวกม้ามากแค่ไหน มันวิเศษมากที่เห็นว่าพวกมันชอบคุณ ว่ากันว่าพวกสัตว์จะมีสัญชาตญานรู้ตัวว่าใครใจดีกับพวกมัน ฉันคิดว่าพวกม้าคงจะเห็นความใจดีของคุณตั้งแต่แรก
ฉันไม่เคยรู้จักใครที่ใจดีไปมากกว่าคุณมินาโตะอีกแล้วค่ะ ทั้งการที่คุณตื่นเช้ามาทำอาหารกลางวันให้ฉัน การที่คุณเอายาฆ่าเชื่อและการทำแผลให้ฉัน คุณเป็นคนเตรียมทุกอย่างมาเพื่อให้ฉันมีความสุข ทั้งหมด..ฉันคิดว่าเป็นการกระทำที่ใจดีและอ่อนโยนของคุณมินาโตะนะคะ…ฉันชอบส่วนนี้ของคุณมากที่สุดเลยค่ะ…”
เรื่องจริงที่ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เธอมีความสุข แต่มันไม่เป็นผลดี มันทำให้ผมหดหู่ใจเป็นความล้มเหลวที่ไม่ควรยอมรับ แต่ริโกะกลับเป็นคนที่ยอมรับด้วยความจริงใจของเธอเอง…
ผมไม่เชื่อว่าผมจะพยายามมากพอที่จะถ่ายทอดความที่มีต่อเธอได้อย่างเหมาะสม ด้วยคำพูดแสนอ่อนโยนของเธอทำให้ตอนนี้ผมพบว่าตัวเองเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก…
“ผมชอบคุณนะ ชอบที่สุดเลย..”
“…..”