“ว-ว้า..คุณริโกะครับ…ผมขอโทษ..จ..จะทำยังไงดีให้คุณหยุดร้องไห้ก่อน”
ผมก้าวไปข้างหน้าหนึ่งเก้าแล้วค่อยๆใช้มือขวาของผมเช็ดน้ำตาของเธอออก..
“เอ่อ..ฉันขอโทษ..ที่จู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา…แต่ฉันมีความสุขเกินไป มันไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย..คุณมินาโตะชอบฉัน..จริงๆเหรอ”
เธอถามผมขณะที่น้ำตาของเธอยังคลอเบ้า แล้วผมพยักหน้าตอบกลับด้วยสีหน้าเขินๆ อย่างไรก็ตาม น้ำตาของเธอเริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นแบบนี้
“หยุดร้องก่อนนะครับ…”
ทำไม..ผมพยายามให้เธอหยุดร้องไห้ แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้ามเลย
“รู้มั้ย..ฉัน—…”
“อึม..”
“ฉันชอบคุณมินาโตะจริงๆนะ..”
“แต่ผมคิดว่าคุณริโกะมีคนอื่นที่ชอบอยู่แล้วนะครับ….”
“เอ๊ะ..คนอื่น..?”
“คุณเคยบอกผมในวันทานาบาตะใช่มั้ยครับ..คุณบอกว่าได้กลับมาเจอคนที่ชอบตอนอยู่มัธยมต้นน่ะ…ผมกับคุณไม่ได้เจอกันตอนนั้นใช่รึเปล่าครับ..”
“อา..อึม..”
ทันใดนั้นริโกะ ริโกะเริ่มแปลกใจและแสดงท่าทีตกใจเล็กน้อย
“อ่อ..เรื่องนั้นเหรอคะ..”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบกลับของเธอ ความคิดหนึ่งก็ได้ผุดขึ้นมาในหัวของผม
ตอนนี้เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว…ด้วยความที่อยู่ด้วยกันมาระยะเวลาหนึ่ง…ความชอบพอของเธอที่มีต่อผม..ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย..จนเกิดเป็นความรักที่แสนปาฏิหาริย์สำหรับผม
นั่นเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อสำหรับผม..แต่ถึงยังไงนี่ก็คงเป็นความคิดของผมตั้งแต่ต้นเอง ไม่มีอะไรที่แน่นอน
“ขอโทษนะครับ มันคงยากที่จะตอบ..ผมหมายความว่าคนที่คุณชอบในตอนนั้น ก็ยังคงเป็นคนเดิม แต่ด้วยความที่พวกเราแต่งงานกันแล้ว จากความชอบธรรมเลยพัฒนามาเป็นความรักใช่มั้ย…”
“….”
คำพูดของผมมันจะค่อนข้างตรงไปตรงมาสำหรับเธอ พอผมมานึกย้อนหลังมันรู้สึกไม่เหมาะสมและค่อยๆรู้สึกไปสบายใจตาม
ริโกะมีความชอบในตัวผม…ไม่อยากเชื่อเลย
ริโกะขมวดคิ้วของเธออย่างตรงไปตรงมาและพึมพำกับผมเบาๆว่า”ถ้าคุณคิดแบบนั้น ได้โปรดปล่อยมันไว้อย่างนั้นด้วยค่ะ”
ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ… ผมจะยอมรับมัน..
สิ่งที่สำคัญสำหรับเราคืออนาคต..
เราทั้งคู่ต่างก็มีความรู้สึกต่อกัน…
เป็นเรื่องแปลกที่เราทั้งสองกลายเป็นคู่รักหลังแต่งงานกันมานานแล้ว ผมมีความสุขมากจนไม่สนใจข้อขัดแย้งในส่วนนี้
รู้สึกกำลังจะหมดสติเพราะความสุข…
แล้วทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จาดคนรอบข้างดังขั้นมา
“เอ๊ะ…”
“อ๊ะ..”
ผมกับริโกะหันกลับมาหากันอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเหล่านักท่องเที่ยวปรบมือส่งเสียงเชียร์ให้กันอย่างยกใหญ่
อุวะ…พวกเขาได้ยินทุกอย่างที่เราพูดรึเปล่า..?
เราหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากเกินไป ที่จะสังเกตเห็นเลย
*ทั้งคู่ ยินดีด้วยนะที่ได้เป็นคู่รักกัน*
*ดีใจด้วยนะไอ้หนุ่ม*
*นี่..อย่าทำให้แฟนนายร้องไห้มากนักสิ…*
ผมไม่เคยเป็นจุดสนใจจากคนอื่นมากขนาดนี้มาก่อนเลย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะขุดหลุมแล้วก็ฝังตัวเองลงในนั้น แต่ถึงกระนั้นความสุขที่เติมเต็มหัวใจของผมก็ยังท่วมท้นมากกว่าความลำบากใจที่มีอยู่
“คุณริโกะครับ…ตังแต่วันนี้ไป..เรามาทำมันให้ดีกว่านี้นะ….”
“ค่ะ มาทำมันให้ดีกว่านี้ด้วยกัน…!!”
ฝนที่ตกก่อนหน้านี้ก็เริ่มค่อยๆหยุดลง เผยให้เห็นสายรุ้งอันสวยงามหลังฝนตก
“อ่า…คุณมินาโตะคะ..ดูนั่นสิ.สายรุ้ง”
ผมมองไปทางที่ริโกะกำลังชี้ไป เห็นรุ้งกินน้ำสีสดใสในท้องฟ้า ด้วยคำพูดของเธอ นักท่องเที่ยวคนอื่นจึงเปลี่ยนความสนใจไปทางสายรุ้งนั่นแทน
“พวกเราต่างก็เปียกโชกกันเลยนะครับ ผมกลัวว่าคุณจะเป็นหวัด”
“ฮิฮิ..ขอบคุณนะคะ แต่ฉันดีใจมากกว่าที่พวกเราเข้ากันได้”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงกระฉับกระเฉงและจับมือผมเบาๆ
อาจเป็นเพราะว่าหัวใจของเราเชื่อมถึงกัน ผมสัมผัสถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ ได้มากกว่าที่เคย
เมื่อผมบีบมือของริโกะกลับด้วยความรู้สึกที่ผมไม่สามารถพูดออดมาได้ ความอบอุ่นที่อ่อนโยนจากมือของเธอทำให้ผมรู้สึกราวกับว่ามันเป็นเรื่องแน่นอน..
จบ!!!