หลังจากกลับมาจากฟาร์มสัตว์ฟูเรอิแล้ว เมื่อมาถึงเรารีบผลัดกันอาบน้ำทันทีเพราะเปียกฝน
สำหรับอาหารค่ำริโกะบอกว่าเธอจะเป็นคนทำอาหารเย็นเอง ตามปกติ
แต่เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บและเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมจึงแนะนำให้สั่งอาหารมากินแทน
จากกระบวนการที่ยาวนานและน่าเบื่อหน่ายในการพยายามเกลี้ยกล่อมให้ริโกะเลิกขอโทษ เราจัดการเรื่องอาหาร เรื่องต่างๆของแต่ละคนเสร็จ ปัญหาคือ..เราจะทำอะไรต่อไปหลังจากนั้น…
เรานั่งหันหน้าเข้าหากันที่โตะอาหาร แต่ละคนต่างก็ทำตัวต่อหน้ากันไม่ถูกเพราะความเขินอายจนไม่สามารถสบตากันได้
มันไม่เหมือนกับที่ผ่านมา…
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ คือผู้หญิงที่กลายเป็นแฟนผมจริงๆ ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะทุกอย่างมันต่างจากตอนที่ผมซ่อนความรู้สึกจากเธอมาก…
ผมอยากรู้ว่าเธอคิดยังไงกับเรื่องนี้ ผมจะถูกเธอเกลียดไหมถ้าผมเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองอย่างกระทันหัน
ในตอนแรกผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าทัศนคติแบบคู่รักจะหน้าตาเป็นอย่างไร และถึงแม้ว่าผมจะรู้ ผมจะสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ…
ในขณะที่ผมกอดอกและครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆผมก็ได้รู้สึกถึงแรงกดเบาๆที่แก้ม เมื่อเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจผมเห็นเธอกำลังเอนตัวมาข้างหน้าแล้วใข้มือจิ้มแก้มผมเล่นอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหาร
ริโกะยิ้มอย่างซุกซนในขณะที่ผมกำลังคิดอย่างกระวนกระวายใจ
“คุณมินาโตะกำลังลำบากใจอยู่ใช่มั้ย…ฉันขอโทษ..มันอดไม่ได้ที่จะแกล้งจริงๆ..เอ่อ…”
นิสัยน่ารักอะไรขนาดนี้..
เมื่อมองแวบแรกเธอดูเหมือนเดิมปกติ แต่ในบางช่วงเวลา เธอจะละสายตาอย่างอายๆ หรือจ้องมาที่ผมด้วยสายตาเร่าร้อน….ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ผมไม่สามารถหยุดหัวใจให้เต้นแรงได้เพราะมัน…—
“แล้วคุณมิตาโตะกำลังกังวลใจเรื่องอะไรอยู่เหรอคะ..?”
ผมไม่คิดว่าจะหาคำตอบสำหรับคำถามนี้ได้แม้ว่าผมจะนั่งคิดไตร่ตรองอยู่ก็ตาม…
ผมก็เลยตัดสินใจบอกความจริงกับเธออย่างตรงไปตรงมา
จากความผิดพลาดมากมายที่ทำไว้ในวันออกเดท ผมพยายามเก็บมันไว้คนเดียว
“คุณเองก็พอรู้เรื่องนี้มาบ้างแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีความรัก…เอ่อ..ผมไม่รู้จริงๆว่าจะทำตัวยังไง..ขอโทษครับ..”
“ม-มาลองดูกันมั้ยคะ…..”
แก้มของริโกะแดงขึ้นทันที ดูก็รู้ได้เลยว่าเธอไม่ได้ไตร่ตรองคำพูดของเธอแต่อย่างใด
“ฉันเองก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อนเหมือนกัน..ฉันอยากให้คุณมินาโตะทำในสิ่งที่คุณต้องการ…”
“สิ่งที่ผมต้องการ…..”
“แต่คุณรู้ มั้ย ฉ-ฉัน..เอ่อ..แบบว่า—”
“เอ๊ะ..มีอะไรรึเปล่าครับ..”
“ฉัน..พร้อมยอมรับมัน..”
“คุ—คุณกำลังพูดว่าอะไร..?”
ริโกะค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกมาจากโตะอาหารและเข้ามาใกล้ผม เมื่อเธออยู่ข้างหน้าแล้วใช้มือเธอจับมือผมเบาๆ
..แค่นี้หัวใจผมก็แทบระเบิดออกมา
ริโกะกระซิบขณะจ้องมาที่ผมด้วยสายตาเขินอาย ไม่มีทางที่ผู้ชายจะสงบสติอารมณ์ได้เมื่อผู้หญิงที่ชอบพูดกับเขาแบบนี้
“คุณอยากทำอะไรกันแฟนสาวของคุณมั้ย..บอกฉัน..ฉันจะทำให้มันเป็นจริงสำหรับคุณเองค่ะ..”
“…..”
ผมกลืนน้ำลาย..
ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ ผมนึกถึงคืนที่ฟ้าร้องตอนที่ผมนอนกับริโกะ..
*ฉันยอมรับมันถ้าฉันรับผิดชอบมันได้ก็จะยอมทำค่ะ…*
ย้อนกลับไปตอนนั้น ริโกะเคยพูดแบบนี้กับผม..
ครั้งนั้นผมได้ระดมความมีเหตุผลทั้งหมดเพื่อระงับความปรารถนาที่จะแตะต้องเธอ
แต่ตอนนี้ สถาณการณ์แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ถึงตอนนั้นริโกะยังคงมีความรักให้กับคนอื่น ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่รังเกียจที่ถูกสัมผัสก็ตามมันไม่ควร ผมเลยกลั้นความปราถนานั้นเอาไว้
….แต่ตอนนี้ เธอเป็นแฟนของผมจริงๆแล้ว และเธอบอกว่าชอบผมเหมือนกัน
นั่นหมายความว่า—
ผมสามารถสัมผัสเธอได้โดยไม่ติดข้อกังขาอะไรอีกแล้วใช่ไหม…และเธอบอกว่าโอเคกับมัน
“ผม..ขอจับมือคุณกลับด้วยได้มั้ยครับ..”
ผมถามเธอด้วยความตื่นเต้น แล้วเธอก็พยักหน้าตอบตกลงด้วยความเขินอาย
ไม่รู้ด้วยแล้ว..
ความดีใจผมพุ่งทะลุขีดจำกัด….ในขณะเดียวกันความประหม่ามันก็มากเพิ่มขึ้นไปด้วย
ผมค่อยจับมือของริโกะอย่างช้าๆแล้วค่อยเลื่อนขึ้นไปสัมผัสหลังมือของเธอเบาๆ
ริโกะซึ่งกำลังจับมือขวาของผมด้วยปลายนิ้วของเธอ
มันแตกต่างจากการจับมือแบบคู่รักทั่วไป ความจริงที่ว่าผมสัมผัสเธอและเธอก็ยอมให้ผมทำโดยไม่ขัดขืน
ความสุขของการที่ได้รับอนุญาติจากผู้หญิงที่ตัวเองรักให้สัมผัสนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มากจนผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้…
“อ่า..ไม่นะผมมีความสุขมากเกินไปอีกแล้ว…”
“มากกว่านี้ก็ได้นะคะ..”
“….”
ทันทีที่ผมรู้ความหมายเบื้องหลังของคำนั้น จิตสำนึกของผมถูกกลืนกินโดยสิ่งที่เป็นสัตว์ป่าในทันที
และนั่น..ก็ไม่ใช่ตัวตนปกติของผมอีกต่อไป
จากนั้น..รู้ตัวอีกทีปากของผมก็จูบกับของเธอไปเรียบร้อยแล้ว..ริมฝีบากของเราสัมผัสกันครู่หนึ่ง ผมไม่เคยจูบเธอด้วยความที่ผมเป็นคนเริ่มเองมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว…
เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ ผมสามารถนับจำนวนครั้งที่จับมือของเธอได้
ผมหมายความว่าผมรู้สึกเหมือนกำลังจะข้ามขั้นตอนสำคัญทั้งหมดและพุ่งตรงไปยังเป้าหมายนั้น…
“คุณริโกะ…”
จากตอนแรกที่ผมสำผัสตอนนี้เปลี่ยนเป็นการจับมือทั้งสองข้างของเธอแน่นอย่างกระทันหัน ด้วยเหตุนี้เธอจึงถูกผลักลงไปบนพื้น
ผมเดาว่าเธอไม่ได้คาดว่ากระทบกับพื้นอย่างกระทันหัน
ริโกะที่กำลังสูญเสียการทรงตัวและตกใจได้ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“อ๊ะ!!..”
“ขอโทษนะครับ..ผมทำอะไรลงไป..”
“ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันสบายดีแค่แปลกใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง..”
ริโกะซึ่งโดนผมกดอยู่ข้างล่างพูดออกมาด้วยความเกรงใจ เธอที่มีสีหน้าจริงจัง และผมคิดว่าเธอยอมรับมันจริงๆว่าจะยอมทำทุกอย่างที่ผมต้องการ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมต้องนึกถึงความรู้สึกของเธอ
ผมตื่นเต้นมากกับพัฒนาการในฝันจนลืมไปเลย และพยายามทำตามความปรารถนาของตัวเอง
ผมต้องการที่จะหยุดตัวเอง…
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ผมสงบลงบ้างแล้ว ผมเข้าใจได้ ว่าเธอยอมรับจะยอมรับทุกอย่างที่ผมทำ
แต่เธอกำลังฝืนตัวเองโดยไม่รู้ตัวและกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้นอย่างเห็นได้ชัด เธอเองก็คงไม่รู้เรื่องนี้…
ไม่น่าแปลกที่เธอจะกลัว…
ริโกะเป็นผู้หญิง เธอไม่เคยแม้แต่จะอะไรกับผู้ชายมาก่อนด้วยซ้ำ เธอพยายามยอมรับมันเพื่อผม…
“ผมขอโทษนะครับ..ที่ทำให้คุณกลัว..”
ผมดึงมือของริโกะแล้วค่อยๆประคองเธอขึ้นมา เมื่อเรานั่งหันหน้าเข้าหากัน สายตาของเธอก็ส่ายไปมาอย่างสับสน..
“ฉันขอโทษจริงๆนะคะทำให้คุณกังวลแบบนี่เพราะทำท่าทีแปลกๆไป เพรางั้น..ไม่ต้องกังวลนะคะ..ฉันอยากให้คุณทำต่อไป”
“ขอบคุณนะครับ ผมดีใจจริงๆที่คุณคิดแบบน้้น ผมเองก็ตื่นเต้นมากจนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นรอบตัวผมบ้างเหมือนกัน ด้วยความที่ว่าตอนนี้มันต่างออกไปจากเดิม ผมคิดว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับเราสองคนครับ..”
“เอ๊ะ…ทำไมละคะ”
“ในใจลึกๆของคุณยังคงกลัวอยู่ใช่มั้ยล่ะ…”
“ต-แต่ว่านั่น…”
ริโกะที่ดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัดถามผมมาด้วยสีหน้ากำลังจะร้องไห้
“ฉันชอบคุณมินาโตะจริงๆนะคะ ฉันเลยอยากทำทุกอย่าง เดี๋ยวฉันจะพิสูจน์ให้คุณมินาโตะให้เห็นเองเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ!”
….เธอคิดอะไรอยู่ เธอใช้มือของเธอปลดกระดุมชุดนอนของตัวเอง เม็ดที่หนึ่ง..เม็ดที่สอง…ถูกปลดออก แม้ว่าจะใช้เวลาสักหน่อยเนื่องจากนิ้วที่สั่นเทาของเธอ…นี่ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“ด-เดี๋ยวก่อนครับ คุณริโกะหยุดก่อน…’
กว่าที่ผมจะคิดได้มันก็เกือบจะถึงขีดจำกัดของชุดนอนแล้ว ผมรีบใช้มือโบกให้เธอหยุด
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ…ผมก็อยากทำมันมากเหมือนกัน…อย่างที่ผมพูดไปมันยังไม่ถึงเวลาครับ..”
ผมรีบกล่าวตักเตือนและพยายามละสายตาจากรอยแยกที่มองเห็นผ่านช่องว่างในเสื้อของเธอ..
“สำหรับผมแล้ว..สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกของคุณริโกะนะ….อ่า..จะอธิบายยังไงดี..เอาง่ายๆถ้าผมเข้าใกล้คุณแบบนี้มากเกินไปผมอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่และทำแบบนั้นกับคุณเหมือนเมื่อกี้..หรือไม่ก็เลยเถิดไปมากกว่านั้น..”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะถ้าคุณจะทำแบบนั้น..”
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ..ผมอยากดูแลทะนุถนอมคุณให้มากที่สุดเลยนะ”
“มู่…ไม่ยุติธรรมที่สุดเลย!!!”
ต่อหน้าผม ริโกะเอามือแตะแก้มของเธอขณะดิ้นไปมาอย่างน่ารัก..
“ฉันจะมีความสุขอย่างแน่นอนถ้าคุณมินาโตะสัมผัสฉัน ฉันอยากให้เป็นแบบนี้มานานแล้ว..แค่ทำไมกันนะฉันถึงกลัว..”
ริโกะถามผมในขณะที่บีบมือผมไปด้วย
…ผมอยากสัมผัสเธอด้วยเหมือนกัน..
“เอ่อ..ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ แต่ผมคิดว่าเราทั้งคู่ยังไม่พร้อมสำหรับมัน ก็ไม่น่าแปลกที่เราจะกลัว…”
“แล้วจะทำยังไงให้เราพร้อมละคะ..”
“อึม…ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องบังคับตัวเองนะครับ..เพียงแค่ค่อยๆชินมันไปเรื่อยๆเล็กๆน้อยๆทีละวัน..”
“ในแต่ละวัน…ฉันจะสัมผัสคุณได้มั้ยคะ..”
“อ่า..เอ่อ…ก-ก็ได้นะครับ…แต่มันจะไม่เป็นไรเหรอ..”
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
ริโกะที่บูดบึ้งจนถึงตอนนี้เธอได้ยิ้มให้ผมออกมาราวกับว่าได้ฟื้นฟูพลัง
“ถ้าอย่างนั้น..ฉันจะเริ่มสัมผัสคุณมินาโตะทุกวันนับจากวันนี้ไป….—”
หลังจากนั้นไม่นานริโกะเดินเข้ามาใกล้ๆและกอดผมด้วยร่างกายอย่างแนบชิดแล้วใช้มือค่อยๆลูบไปตามหน้าอกของผม..
น่ารักไม่ไหวแล้ว…
ตอนนี้เธอดูไม่กลัวเหมือนเมื่อก่อน..
“คุณริโกะครับ..ไม่กลัวแล้วเหรอ..”
“ค่ะ..ตอนนี้ฉันสบายดี..ฉันรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของคุณมินาโตะ…อ้า..มันอาจเป็นแบบนั้นจริงๆก็ได้…”
“อึม..”
“ฉันขอลองจูบคุณดูอีกครั้งได้มั้ยคะ….”
“ห๊ะ..นั่น..ไม่ได้ครับ เดี๋ยว..ถึงผมจะมีความสุขที่ได้ยิน แต่มันไม่ใช่ตอนนี้นะครับ..”
“มันไม่ดีเหรอ…”
“มะ..ไม่ใช่..ไม่ใช่แบบนั้นครับ!”
ผมระดมเหตุผลทั้งหมดของตัวเองแล้วส่ายหัวกลับไป เมื่อพิจารณาลำดับเหตุการณ์จนถึงตอนนี้ ถ้าเธอจูบผม มีโอกาสสูงที่ความมีเหตุผลของผมจะปลิวไปอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เธอตกใจกลัวอีก ผมต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวทุกวิถีทาง…
“แย่จัง…ฉันจะถามว่าพรุ่งนี้ฉันจะจูบคุณอีกได้มั้ย…”
“….!”
“ไม่ดีกว่า..ฉันคิดว่าจะขอจุบคุณมินาโตะทุกวันต่อจากนี้ได้มั้ยคะ..”
“…!?”
เป็นที่ชัดเจนว่าชีวิตประจำวันของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากก่อนและหลังการออกเดท…
จบ!!!!