ผมสามารถคบกับผู้หญิงที่ชอบได้ปกติอย่างน่าประหลาดใจ มันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่และน่าเหลือเชื่ออย่างมากสำหรับผม
“เอาล่ะครูจะคืนแบบทดสอบให้พวกเธอทุกคน แล้วเอาไปตรวจสอบข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อเตรียมตัวสำหรับสอบปลายภาคที่จะถึงนี้”
คำพูดนั้นของคุณครูทำให้ผมหน้าซีดขึ้นทันที และถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมองลงไปบนข้อสอบของตัวเองที่ถูกลงคะแนนแล้ว..
มันเป็นคะแนนที่น่าสิ้นหวังมาก แล้วการสอบปลายภาคที่จะมาถึงนี้ยังเหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าว
นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ทำคะแนนออกมาได้แย่ขนาดนี้ ปกติแล้วผมจะผมจะรักษาคะแนนของตัวเองให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยเสมอ
ถ้าคิดดีๆแล้วนี่อาจเป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องในวันสอบ..
ผมนั่งอยู่ในห้องสอบโดยมีริโกะ นั่งอยู่แถวหน้า และสิ่งเดียวที่สมาธิของผมจดจ่ออยูก็คือเธอ
ไม่ใช่เพียงแค่วันนั้น หลังจากที่ผมออกไปเดทกับเธอ ผมคอยนึกถึงเธอตลอดเวลา สุดท้ายผมไม่สามารถทำการบ้านหรือแม้แต่อ่านหนังสือได้เลย
อ่า…นี่ไม่ดีเลย นี่ก็ใกล้จะสอบปลายภาคขึ้นมาทุกทีแล้ว…
อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมต้องตั้งใจจดจ่ออยู่กับการเรียนให้ได้…!
=====
เมื่อถึงบ้าน ณ เวลานั้นหลังจากที่เทียบผลสอบกันแล้ว ริโกะเห็นได้ชัดทันทีว่าผมกำลังหดหู่
ถ้าผมบอกเธอไปว่าตัวเองอ่านหนังสือสอบไม่ได้เพราะมัวแต่คิดถึงเธออยู่ล่ะก็ เธอคงจะผิดหวังและรู้สึกผิดอย่างแน่นอน และนี่..ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอด้วย
ผมจึงตัดสินใจบอกเธอไปว่าครั้งนี้รู้สึกไม่อยากเรียนยังไงก็ไม่รู้
“—ก็ประมาณนี้แหละครับ ถึงการสอบแบบนี้จะไม่มีผลต่อการสอบการเข้ามหาวิทยาลัยก็เถอะ แต่มันก็คงไม่ดีจริงๆนั่นแหละครับ…”
“ฉันเข้าใจค่ะ หวังว่าจะมีอะไรที่ฉันสามารถช่วยคุณได้..เอ่…แต่ฉันสงสัยว่าทำไมคุณถึงไม่อยากเรียนล่ะ?”
“..อ้อ..เรื่องนั้นตอนที่ผมกำลังนั่งสอบอยู่นั้น ผมคิดแต่เรื่องหนังที่ดูเมื่อวันก่อนน่ะครับ แฮะๆ พอรู้ตัวอีกทีเวลามันก็ผ่านไป…อ่า ผมคงไม่มีสมาธิจริงๆนั่นแหละ..”
“…ถ้าอย่างนั้น คุณมินาโตะคะ คืนนี้คุณอยากเรียนกับฉันมั้ย…”
“อะไร…หมายความว่ายังไงเหรอครับ ที่ว่าเรียนนี่..”
แค่นึกถึงภาพที่เรานั่งข้างๆกันบนเก้าอี้ก็ทำให้หัวใจผมเต้นระรัวแล้ว…ชั่วโมงเรียนอันแสนเจ็บปวดจะกลายเป็นช่วงเวลาพิเศษดุจดั่งอยู่บนสวรรค์เมื่อมีริโกะมาอยู่ข้างๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อเสนอแนะของเธอนี้ มันเป็นความจริงที่ผมคิดเรื่องเกี่ยวกับเธอมากเกินไปจนไม่มีสมาธิเรียน..
ผมไม่แน่ใจว่าจะควรข้ามข้อเสนอนี้ไปดีหรือไม่..
แต่ผมไม่เคยรู้สึกเหม่อลอย เมื่อมีริโกะอยู่ข้างๆ ดังนั้นบางที ผมอาจมีสมาธิดีกว่าการเรียนอยู่คนเดียว และเหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากลองใช้ช่วงเวลาแห่งการเรียนกับริโกะดูสักครั้งจริงๆ…
“อึม ผมดีใจมากครับที่ได้ร่วมเรียนกับคุณริโกะ..”
“ฉันด้วยค่ะ งั้นเรามาเริ่มคืนนี่เลย!”
=====
ช่วงกลางคืน หลังอาหารเย็น เรานั่งข้างๆกันอยู่โต๊ะเตี้ยในห้องนั่งเล่น และตัดสินใจกางหนังสือเรียนวิชาเคมี สมุดบันทึก แล้วก็โจทย์ข้อสอบของโรงเรียนวันนี้
เราจึงคิดว่าควรอ่านทำความเข้าใจไปพร้อมๆกัน หากเราคนใดคนหนึ่งไม่เข้าใจอะไร เราก็ไม่อาจลังเลที่จะถามซึ่งกันและกัน
และแล้ว..เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า..
“อ๊ะ..ขอโทษครับ…”
ในตอนนั้น ข้อศอกของเราสองคนแตะกันเบาๆ ผมเดาว่าเราคงนั่งใกล้กันมากเกินไปจึงตัดสินใจผละตัวเองออกมา
ขณะที่ผมกำลังปรับตำแหน่งสมดุลการนั่งของตัวเองอย่างเร่งรีบอยู่นั้น ริโกะก็ได้พูดพึมพำด้วยเสียงหวานๆของเธอออกมาเบาๆ
“..อ๊ะ!.อย่าไปนะคะ..ฉันคิดถึงคุณ”
“….”
ทำไมคำพูดของเธอน่ารักแบบนี้…!
“แต่ที่แขนเราชนกันแบบนี้ผมกลัวว่ามันจะไปทำลายสมาธิของคุณริโกะนะครับ..”
เมื่ออธิบายเหตุผลเหล่านี้ เธอเข้าใจและพูดว่า”เข้าใจแล้ว”ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ไม่ ไม่ คุณริโกะครับ อย่ามองผมแบบนั้นสิ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากทำแบบนั้นนะแต่นี่มันไม่ใช่เวลาจริงๆ” คำพูดนั้นได้แต่กึงก้องอยู่ในหัวใจของผมซึ่งไม่สามารถพูดออกมาได้…
ขณะที่ผมค่อยๆปรับท่าและนั่งลงใกล้ๆเธอ รอยยิ้มกว้างก็กระจายไปทั่วใบหน้าของริโกะแล้วเธอก็พูดขึ้นว่า”ไมเป็นไร..”
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ร่างกายของเรา ก็สัมผัสกันอีกครั้ง และทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น มันก็จะแลกมาด้วยคำพูดเขินอายเป็นบางคำ
ถึงกระนั้น เราก็ต้องละสายตาจากการจดจ่อกับสมาธิที่อยู่กับการเรียน แต่ยังไงระดับความสุขที่มีอยู่ตอนนี้นั้นก็สูงกว่าการเรียนคนเดียวที่บ้านมาก
และด้วยเหตุนี้ เราทั้งสองคนจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่นิดถึงจะเรียนติดต่อกันสองสามชั่วโมงก็ตาม
บางทีถ้าเป็นแบบนี้ผมอาจจะสามารถเรียนกับเธอต่อได้อีกโดยไม่มีปัญหา..
เมื่อคิดอย่างนั้นผมแอบเหลือบมองไปที่ริโกะโดยที่เธอไม่ทันได้รู้สึกตัว เธอหยุดการเขียนปากกาและจ้องหนังสือที่มีโจทย์ปัญหาของเธอด้วยสีหน้ากำลังลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงตอนนี้เธอจะกำลังลำบากใจ ผมสามารถบอกได้เลยว่าการแสดงออกของเธอตอนนี้มันน่ารักมากอย่างบอกไม่ถูก เมื่อชื่นชมการแสดงออกของเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ดึงสติกลับคืนมาได้พร้อมกับความคิดที่ว่า”นี่ไม่ใช่เวลามาทำอะไรแบบนี้”
“คุณริโกะครับ..มีอะไรที่คุณไม่เข้าใจรึเปล่า..?”
เราควรถามคำถามกันเมื่อสดุดปัญหาอะไรบางอย่าง แต่ผมเดาว่าบุคลิกของเธอตอนนี้ดู ลังเล เมื่อผมถามเธอไปด้วยความเป็นห่วง เธอส่ายหัวและพูดว่า”ขอโทษ..”
ริโกะไม่เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีเท่านั้น แต่เธอยังเป็นนักเรียนดีเด่นในด้านการเรียนอีกด้วย แถมชื่อของเธออยู่แถวอันดับต้นๆของลำดับการสอบปลายภาคครั้งก่อนอีกด้วย
วิชาที่เธอไม่ถนัดคือวิชาเคมี ดังนั้นเราจึงเลือกติววิชาเคมีในวันนี้วันแรกด้วยกัน
“เอ่อ..คือฉันคิดไม่ออกจริงว่าจะแก้ปัญหาตรงข้อสุดท้ายนี่ยังไงดี…”
“ไหน..ให้ผมดูหน่อยครับ..”
ผมโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วก้มดูหนังสือโจทย์ปัญหาของริโกะ
###ต่อจากนี้มันจะเป็นการหาสมการเคมีซึ่ง….อึมนั่นแหละ มีนตึ๊บบบบ!! ขอตัดเลยละกัน~~^^###
“เอ๊ะคุณริโกะครับ ลองสังเกตดูตัวนี้สิ…มันเอามาใส่กันได้นะ..”
“เอ๊ะ! จริงด้วยๆ ขอบคุณมากเลยนะคะ แค่นี้ก็เสร็จหมดแล้ว~~~…”
“นั่นสินะครับ”
ริโกะร้องออกมาด้วยความดีใจและมองกลับมาที่ผม
ด้วยความน่ารักเช่นนี้ผมจึงเบนสายตาออกห่างและเปลี่ยนความสนใจไปทบทวนโจทย์เคมีในหนังสือแทน แต่เมื่อหันกลับมาโฟกัสที่เธออีกโดยไม่ตั้งใจ ริมฝีปากของริโกะก็สัมผัสเข้ากับแก้มของผมไปชั่วครู่….
“….”
“อ่า…”
เราสองคนต่างก็อ้าปากค้างเมื่อสบตากันอย่างใกล้ชิด
“เอ่อ…ฉันขอโทษ..”
“ม..ไม่เป็นไรครับ…”
“..ฉันไม่ได้ตั้งใจ..”
“แน่นอนผมเข้าใจครับ—……”
“แต่ฉันดีใจนะคะที่ได้รางวัลสำหรับวันนี้..”
“…!?.”
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการจุมพิตที่แก้มโดยไม่ตั้งใจจะเปรีบเสมือนรางวัลสำหรับริโกะ..ผมกระพริบตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่อยากเชื่อข้อเท็จจริงนี้
“…ผมเองก็ยังไม่ได้ขอบคุณเหมือนกันครับ ที่ช่วยมาติวกับผมในวันนี้”
ด้วยความที่เธอยังอายอยู่เลยได้แค่เพียงยิ้มตอบกลับมาให้ผม..
“ฉันดีใจมากเลยนะคะที่ได้เรียนกับคุณมินาโตะวันนี้ บางทีฉันอาจเข้าใจมากกว่าที่ครูสอนอยู่โรงเรียนก็ได้!..”
“ไม่มีทางครับ!”
“จริงๆนะคะ ฉันไม่เคยจดจ่ออยู่กับอะไรมากขนาดนี้มาก่อน”
ไม่มีทางที่ผมจะรู้สึกแย่เมื่อได้รับคำชมจากริโกะ ผมเกาหลังศรีษะกลบเกลื่อนด้วยความเขินอาย
“นอกจากนี้ คุณมินาโตะคะ คุณสุดยอดมากเลยที่สามารถเข้าใจอะไรแบบนี้ได้ง่ายมาก”
“ฮ่ะฮะ..ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งครับ”
“ฉันรักคุณมินาโตะที่เป็นแบบนี้ที่สุดเลยรู้มั้ย…”
“….”
“ถ้ามีอะไรที่คุณไม่เข้าใจต่อจากนี้ และฉันสามารถช่วยคุณได้ อย่าลังเลที่จะบอกฉัน”
“เข้าใจแล้วครับ! แบบนั้นคุณคงจะเหนื่อยมากเลยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ฉันได้จุ้บแก้มของคุณมินาโตะเป็นรางวัล แค่นี้ความเหนื่อยล้ามันก็หายไปหมดแล้ว~~…”
“…?”
แก้มของริโกะเปล่งสีชมพูขึ้นอย่างเขินอาย
มีความเป็นไปได้สูงที่ผมจะถูกริโกะจูบที่เเก้มหลังจากนี้และด้วยการอ้างเหตุผลภายใต้สถานการณ์เช่นนี้..
จบ…~~~