—ผมย้ายไปแถวทางเดินข้างๆโรงภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนลูกหมีตัวน้อย โต๊ะกลมที่วางเรียงรายอยู่ข้างๆทางเดินนั้นเต็มไปด้วยคู่รักที่กำลังนั่งจิบกาแฟกันอยู่ บ้างก็มีครอบครัวกำลังรับประทานอาหารกัน ผู้คนมากมายแถวนั้นเคลื่อนไปมาอย่างไม่ขาดสาย
“แถวนี้มีคนเยอะมากกว่าแถวหน้าโรงภาพยนตร์เยอะเลยว่ามั้ยครับ ถ้าเกิดเรามาแจกใบปลิวที่นี่ล่ะก็…”
“ว้าว…ฉันไม่เคยสังเกตดูแถวนี้มาก่อนเลย”
“เอาล่ะ อย่าเสียเวลาเลยครับมาเริ่มกันดีกว่า”
“อ่า..ใช่ค่ะฉันค่อนข้างรู้สึก….แบบว่า”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นนะ เรื่องการแจกใบปลิวคุณแค่เป็นคนแจกก็พอ”
“เอ๊ะ..”
“ส่วนผมจะเป็นคนพูดเอง คุณแค่เดินตามผมแล้วก็ยื่นแค่ใบปลิวก็พอแล้วครับ…”
“..แต่ว่าถ้าช่วยกันแจกมันจะไม่เร็วกว่าเหรอคะ…”
“แบบนั้นน่าจะไม่ดีมั้งครับ ถ้าเกิดว่าผู้จัดการมาเห็นเข้า ดังนั้น เรื่องนี้เก็บไว้เป็นความลับนะ”
“…ค่ะ”
ผมไม่กังวลเกี่ยวกับคนรอบข้างเลยแม้แต่นิด และเดินไปรอบๆพร้อมกับเรียกพวกเขา หวังว่านี่คงจะช่วยเธอได้บ้าง แรกๆหญิงสาวเดินเงียบๆหลบอยู่ด้านหลังของผม แต่เมื่อผมบอกไปว่า”ไม่เป็นไรนะ” “ทุกอย่างจะดีขึ้น”เธอก็ค่อยๆกล้าก้าวออกมาข้างหน้า จนในที่สุด ตอนนี้เธอสามารถแจกใบปลิวได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร
ดูเหมือนเธอจะทำได้แล้วนะ…
—สองชั่วโมงของการแจกใบปลิวอย่างกระตือรือร้น ตอนนี่ดูเหมือนว่าจำนวนกระดาษที่เหมือนจะเยอะมากค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆและหมดลงไปในที่สุด
“แผ่นสุดท้ายแล้ว เย้!”
หลังจากนั้นเรากลับมาที่โรงหนัง สถานที่ที่เราพูดคุยกันครั้งแรก
“ขอบคุณนะคะ ช่วยได้มากจริงเลย”
“เปล่าซะหน่อย ผมไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้น”
“ไม่จริงหรอกค่ะ ปกติฉันมักจะสับสนอยู่กับการพูดและสำเนียงการพูดของฉันเสมอ ทั้งที่เป็นแบบนี้ฉันก็เลยโต้ตอบกับผู้คนไม่ค่อยเก่ง ถ้าฉันอยู่คนเดียว ฉันจะไม่มีทางออกไปคุยกับคนแปลกหน้าแบบนี้แน่นอน แต่ครั้งนี้มีคุณคอยอยู่ข้างๆฉัน คอยให้กำลังใจกับฉัน เป็นอีกครั้งที่คุณลบความรู้สึกนี้ออกจากใจฉัน…”
เธอหมายถึงอะไร ? นี่เป็นวิธีการพูดที่ดูขัดแย้งกันมากตั้งแต่ต้น เราพึ่งพบกันวันนี้ นอกจากตอนนี้เธอดูประหม่า อาจเป็นแค่การสื่อสารที่ผิดพลาด มันอาจเชื่อมต่อกับคำว่า”โต้ตอบกับคนอื่นไม่เก่ง”อย่างที่เธอพูดก่อนหน้านี้
“จริงๆนะ ไม่ใช่เพราะความพยายามของผมเลย คุณเป็นคนแจกของส่วนใหญ่ตั้งแต่เที่ยงวัน จำได้มั้ยตอนนั้นเด็กๆมารวมตัวกันที่คุณไม่ไปไหนเลย…”
ลูกหมีตัวน้อยที่กำลังกระฉับกระเฉงกำลังแจกใบปลิว ตอนนี้เธอได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆไปแล้ว มันน่ารักที่เห็นเธอวิ่งไปรอบๆท่ามกลางพวกเขา เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นผมก็ผุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และหมีก็จ้องมาที่ผมทำท่าทางของเธอเหมือนกำลังแสดงความสงสัย
ผมยังไม่เห็นใบหน้าของหญิงสาวในเครื่องแต่งกายเลย ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
…อะไรคือความรู้สึกนี้ ผมคงไม่มีนิสัยคลั่งไคล้ชุดแต่งกายอะไรพวกนี้ใช่ไหม..
“คุณยังเหมือนเดิม ฉันชอบความเมตตาเเละรอยยิ้มของคุณ..”
“หึม..?”
ผมไม่ได้ยินคำพูดเล็กๆ ที่พึมพำออกมาอยู่ในชุด และก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรออกไปนั้นจู่ๆเธอก็ใช้มือทั้งสองข้างประกบกันแน่น ราวกับว่ากำลังรวบรวมความกล้าอยู่
“ฉันทำงานอยู่ที่นี่ตลอดทั้งสัปดาห์ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร วันเสาร์หน้าเรามาเจอกันที่นี่อีกครั้งได้มั้ยคะ..”
“เจอกันเหรอ..ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่ทำไมล่ะ”
“หลังจากนี้ทั้งสัปดาห์ ฉันจะพยายามทำงานให้ดีที่สุด ความมั่นใจที่คุณมอบให้ในครั้งนี้ เมื่อฉันพร้อมฉันจะถอดชุดนี้ออกแล้วบอกคุณในบางสิ่งบางอย่าง”
เธอต้องการบอกอะไรผมเหรอ..? ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาการทำงานของเธออยู่ ผมเข้าใจว่ามันคงไม่ดีที่จะเปิดเผยใบหน้าของเธอตอนนี้
มันเหมือนกับการเริ่มต้นสารภาพรัก.. ไม่ ไม่ ไม่เราพึ่งเจอกันวันนี้ ไม่มีทางมันเป็นไปไม่ได้…
“ฉันขอกลับไปที่โรงหนังก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับวันนี้อีกครั้ง…”
“อ่า..ขอให้โชคดี….”
ผมไม่สามารถถามเธออกไปได้ว่าเธอต้องการพูดอะไร และเธอก็เดินจากไปทั้งอย่างนั้นโดยทิ้งความรู้สึกตื่นเต้นที่ไม่คุ้นเคยในหัวใจของผม…
….จบ!!!?