—ปัญหาต่อไปคือการโน้มน้าวใจของพ่อแม่พวกเราทั้งคู่ แต่ผมกับริโกะ จะจัดทะเบียนสมรสและเริ่มอยู่ด้วยกันในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
อันที่จริงตอนแรกผมจะแกล้งเป็นว่าเราจดทะเบียนสมรสกัน ไม่ได้สนใจการแต่งงานของพวกเราเลยแต่ว่ามันจะเป็นรอยเปื้อนชีวิตของฮานาเอะ ริโกะ และผมก็กังวลเรื่องนั้นอยู่
“…คุณไม่อยากแต่งงานเหรอ..คุณนิยามะ”
ริโกะเอ่ยปากถามขึ้นมา จากนั้นผมรีบปฏิเสธกลับไปทันที…แน่นอนผมอยากเเต่งงานกับเธอ.. “ผมไม่พลาดโอกาสที่จะแต่งงานกับภรรยาแสนน่ารักคนนี้เด็ดขาดเลย” แต่นี่ผมไม่สามารถพูดออกไปได้จริงๆ…
ริโกะกล่าวว่า “ถ้าคุณนิยามะ ไม่รังเกียจล่ะก็ ฉะนอยากจะแต่งงานกับคุณอย่างถูกต้องและเหมาะสมค่ะ!”
ผมถามเธอกี่ครั้งๆแล้วว่าอยากแต่งงานกับผมจริงๆแล้วเหรอเธอแน่ใจแล้วเหรอ? แต่เธอไม่เคยเปลี่ยนใจ เธอยืนยันคำตอบของตัวเองด้วยท่าทางที่ดูจริงจัง
ผมคิดว่าเธอคงจะไม่อยากโกหกพ่อแม่ของเธอจริงๆนั่นแหละ…..
เนื่องจากริโกะเธอจริงจังกับเรื่องนี้มาก ในวันที่3 เมษายน เราจึงยื่นใบทะเบียนสมรสและกลายเป็นคู่สามีภรรยากันในที่สุด…
===
—เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่เราเริ่มต้นชีวิตแต่งงานของเรา ถึงแม้ในตอนแรกๆมันเป็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายมากเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองที่สิ่งต่างๆได้คลี่คลายลง..
วันนี้ผมตื่นนอนด้วยเสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้า กลิ่นซุปมิโซะจางๆ ลอยเข้าในจมูกของผม รสชาติของซุปมิโซะที่แสนกลมกล่อมของ ริโกะ แวบเข้ามาในหะวของผมหลังจากนั้นไม่นานท้องผมก็ร้องขึ้นมา..
ตอนที่ผมอยู่คนเดียว ผมเคยชินกับการงดอาหารเช้า เพราะว่ามันเป็นปัญหามากเกินไป ผมไม่สามารถทำอาหารเองได้ และผมก็ไม่อยากไปร้านสะดวกซื้อในตอนเช้า
ฮานาเอะ ริโกะทำลายวิถีชีวิตที่ย่ำแย่ของผมด้วยการทำอาหารเช้าที่แสนอร่อยของเธอ
ตั้งแต่วันที่เราเริ่มอยู่ด้วยกัน เธอตื่นเช้ากว่าผมและเตรียมอาหารเช้าในทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอ แน่นอน ผมรู้สึกไม่สบายใจ ที่เธอต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาทำอาหารให้ ผมรู้สึกมีความสุขมาก แต่ความรู้สึกของผมมันไม่สำคัญ เพราะว่านี่เป็นเพียงการแต่งงานตามสัญญาเพียงเท่านั้น ยุคนี้การที่ภรรยาควรดูเเลสามีอยู่ฝ่ายเดียวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่กลับกัน ริโกะยิ้มเหมือนเธอกำลังมีความสุข
“ฉันมีควาทสุขกับการที่ได้เป็นภรรยาของคุณมินาโตะค่ะ ? “
ผมรู้สึกอึ้งกับพลังทำลายล้างด้วยคำพูดเหล่านั้นของเธอจนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก..ดั้งนั้นถึงผมจะรู้สึกผิดต่อเธอ แต่ผมก็ยังกินอาหารที่เธอทำให้อยู่ทุกๆวัน
ทุกๆวันผมรู้สึกว่าผมควรจะพูดว่า “วันนี้คุณไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นก็ได้นะ” แต่เมื่อพอเห็นริโกะกำลังทำอาหารด้วยรอยยิ้ม “เอาเป็นว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยบอกก็แล้วกัน~~”
ผมดูเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจอ่อนแอใช่ไหม~?
ท่าทางของเธอดูน่ารักมากเมื่อทำอาหาร ผ้ากันเปื้อนที่เธอใส่มันดูดีและเข้ากันสุดๆ ผมของเธอมัดขึ้นเป็นมวยข้างหนึ่ง มัน..ดูดีมาก
แต่วันนี้ต้องบอกให้เธอไม่จำเป็นต้องทำอาหารเช้า นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ทันทีที่ผมทำใจได้แล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังห้องครัวและบอกในสิ่งที่ผมอยากจะพูด
“อรุณสวัสดิ์ คุณฮานาเอะ ผมขอโทษที่ต้องทำให้คุณตื่นเช้ามาทำอาหารในทุกๆวันมันคงจะยากสำหรับคุณฮานาเอะ ดั้งนั้นผมอยากให้คุณทำมันเป็นวันสุดท้าย ผมขอโทษด้วยที่บอกคุณช้าไปนะ…อาหารที่คุณฮานาเอะทำมันอร่อยเกินไปน่ะ เลยทำตามใจตัวเองไปหน่อย”
เมื่อมองดูอาหารเช้าที่แสนน่าอร่อยวางเรียงกันอยู่บนโต๊ะ จิตใจที่แน่วแน่ผมก็เริ่มสั่นอีกครั้ง…
ริโกะถามคำถามผมด้วยเสียงที่นุ่มนวลของเธอ
“อาหารที่ฉันทำ มันอร่อยมากเลยเหรอคะ ดีใจจัง❤️
“คือว่านะคุณฮานาเอะ..ผมไม่อยากให้คุณหักโหมเกินไปน่ะ ได้โปรดอย่าฝืนตัวเองเลยนะครับ”
กลัวว่าจะเกิดขึ้นถ้าวันหนึ่งเธอรู้สึกเหนื่อยเกินไปและหนีออกจากที่นี่ …ผมกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ
ถึงมันเป็นการแต่งงานตามสัญญาและผมรู้ว่าจะมันต้องจบลง บางทีในหนึ่งปีเมื่อเราจบเร็จการศึกษาระดับม.ปลายผมแน่ใจว่าพ่อแม่ของเธอจะไม่คัดค้านสาวมหาลัยที่อยู่คนเดียวและถึงตอนนั้นเธอก็ ไม่ต้องการผมแล้ว
แต่กว่าจะถึงเวลานั้นฉันก็ไม่อยากเสียเธอที่ได้มาแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแม้ว่าเธอจะไม่คิดอะไร
“ผมอยากให้คุณฮานาเอะทำในสิ่งที่ต้องการให้มากขึ้นน่ะ”
“ฉันทำได้จริงๆเหรอคะ?”
“อึมม..”
“ไม่ใช่แค่ข้าวเช้ากับเย็น ฉันอยากจะทำข้าวกลางวันแล้วก็ข้าวกล่องให้คุณด้วยค่ะ!”
บทสนทนาของเราเริ่มพลิกผันอย่างไม่คาดคิด เพราะผมรู้สึกแปลกใจมากจนพูดไม่ออก จากนั้นความเป็นห่วงนิดๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของริโกะในทันที
“จะได้รึเปล่านะ..?”
“ถึงว่าก็เถอะ..แต่จะไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“ไม่เลยค่ะ อยากจะลองทำดูจริงๆนะ …ก็แบบว่าคนที่กินจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ทำเข้าไปในข้าวกล่องด้วยความรักน่ะ..ฉันจะมีความสุขมากถ้าร่างกายของคุณมินาโตะแข็งแรงจากอาหารที่ฉันทำ…เพราะงั้นได้โปรดอย่าได้เกรงใจที่จะกินมันเลยค่าาา…!!”
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าริโกะเธอจะชอบทำอาหารให้คนอื่นมากขนาดนี้ บางทีเธออยากจะเป็นเชฟหรือนักโภชนาการในอนาค
…ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกปฏิบัติดูแลดีกว่าเดิม~~
“ถ้างั้น..ก็รบกวนด้วยนะครับ”
“อึ้ม!! ฉันจะพยายามทำข้าวกล่องอร่อยๆให้คุณนิยามะนะคะ”
ริโกะพูดด้วยแววตาและรอยยิ้มที่ดูตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอ..
อ๊ะะะ!!!…เธอน่ารักเกินไปรึเปล่า….ผมคิดว่าสิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้คือยอมรับสถานการณ์ ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า ริโกะเธอน่ารักมากกว่าอะไร ๆ แล้วและนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญและถ้าเธอไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกเป็นภาระ กับมัน แต่เธอสนุกกับมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุด…
ทำไมชีวิตผมถึงมีช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างนี้..ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย~~~
*ถ้าเกิดไปตกหลุมรักเธอเข้าจริงๆ เราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย…* (จบ…)
ตอนนีัอาจแปลเมาๆหน่อยนะ555เพราะว่าวันนี้ทั้งวันมีอะไรเกิดขึ้นหลายๆอย่างเลย….เดี๋ยวก็โดดไปที่นุ่นนั่นนี่ อารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย บางทีอาจเป็นไบโพล่าร์แล้วก็ได้55555 ขอบคุณที่อ่านจนจบ อยู่ด้วยกันไปนานๆหน่อยน้าอย่าพึ่งเบื่อกันล่ะ:)))