—วันหนึ่งหลังจากเลิกงานพาร์ตไทม์ ผมเดินออกจากห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมทำงานอยู่..
ข้างนอกฝนตก ละอองน้ำที่ส่องประกายราวกับสีเงินโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องภายไต้แสงไฟที่ส่องสว่างตามท้องถนนยามค่ำคืน
“เห้อ..เอาจริงเหรอเนี่ย..”
ผมทิ้งร่มไว้ที่โรงเรียนเพราะคิดว่าฝนไม่น่าจะตก แต่ผมไม่ได้ตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนที่จะออกมาจากโรงเรียน..
ผลที่ได้ก็จะประมาณนี้ล่ะ…
มีทางเดินในร่มจากห้างสรรพสินค้าไปยังสถานีรถไฟ แต่ปัญหาคือหลังจากลงจากรถไฟ พอมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่เห็นแม้แต่ดาวหรือดวงจันทร์เลยเนื่องจากมีเมฆฝนหนาทึบมาก
“ดูเหมือนฝนจะไม่หยุดตกสินะ..”
ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่สถานีต่อไป ผมสามารถซื้อร่มจากร้านสะดวกซื้อในสถานีได้ แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่จะเก็บร่มพลาสติกไว้ที่บ้าน เนื่องจาก ริโกะ เพิ่งทำความสะอาดบ้านให้ผมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่อยากที่จะเอาของเพิ่มเข้าไปอีก เพราะกลัวว่าจะลำบากตัวเธออีกด้วย
ผมไม่มีทางเลือก ตราบใดที่ตอนนี้ฝนยังตกไม่หนักเท่าไหร่ ผมก็ยังสามารถวิ่งผ่ากระแสฝนกลับบ้านได้ ระยะทางไม่ไกลมาก มันก็น่าจะไม่เปียกเกินไปล่ะมั้ง…
อย่างไรก็ตาม เม็ดฝนที่ตกกระทบกับหน้าต่างรถไฟยังคงแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงแต่อย่างใด
อึมมม…
คิดว่าคงจะต้องซื้อร่มจากร้านสะดวกซื้อจริงๆนั่นล่ะนะ….
ขณะที่ผมเดินก้มหน้าออกไปตามทางเดิน และออกจากประตูตรวจตั๋วด้านในอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่…ทันใดนั้นเองเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมา…
“คุณมินาโตะ^^”
ด้วยความประหลาดใจ ผมเงยหน้าขึ้นทันทีและเห็น ริโกะ ที่กำลังถือร่มร่มลายดอกไม้สีแดงด้วยมือทั้งสองข้างอยู่ข้างกำแพง
พอสายตาของเราประสานกัน เธอก็รีบวิ่งตรงเข้ามาหาผม
“จู่ๆฝนก็เริ่มตก ฉันคิดว่าคุณมินาโตะคงจะไม่ได้เอาร่มมาจากโรงเรียนน่ะ ….ก็เลยมารอรับคุณค่ะ”
หลังจากประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็เพิ่งรู้สึกปลื้มปิติที่เธออุส่าห์มารอรับผมถึงที่นี่..
“ขอบคุณจริงๆนะริโกะ”
ผมสามารถระงับอารมณ์ความเขินอายและความตื่นเต้นของตัวเองได้แล้ว และขอบคุณเธอ..
เมื่อได้รับคำขอบคุณจากผม เธอหัวเราะคิกคักดูมีความสุขมากเหมือนหมาน้อยที่ได้รับการชมเชยจากเจ้าของ
ให้ตายสิ..เธอน่ารักเกินไปแล้ว!…
โดนความน่ารักของเธอจู่โจมเข้าอย่างกระทันหัน จนรู้สึกช็อคและถอยหลังไปหนึ่งก้าวเลยทีเดียว….ในขณะนั้นเองผมก็นึงอะไรขึ้นได้บางอย่าง..
ริโกะเธอเอาร่มมาแค่อันเดียวนิ..?
เพราะว่าร่มของผมอยู่ที่โรงเรียน ไม่มีทางที่เธอจะไปเอามาให้ผมได้
แต่ทำไมเธอถึงยังมารับผมล่ะ…
“คุณมินาโตะ กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
ริโกะ ยิ้มแล้วก็เดินนำหน้าผมไป ผมได้แต่สับสนและเดินตามเธออย่างเงียบๆ
พวกเราเดินผ่านห้องขายตั๋วและลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นล่าง หลังจากข้ามสัญญาณไฟจราจรแล้ว เราก็ไปที่ถนนช้อปปิ้ง แล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปยังจุดกลับรถรถบัส
ต่อจากนี้ไปจะเป็นทางเดินโล่งๆไม่มีหลังคาให้หลบฝนอีกต่อไป
ริโกะปลดร่มสีแดงของเธอ กางออกอย่างรวดเร็วและมองกลับมาที่ผม
“เขามาสิคะ คุณมินาโตะ…”
“….”
นี่มัน…
ริโกะกำลังวางแผนกลับบ้านภายใต้ร่มร่วมกัน ผมไม่เคยคิดว่าจะมีความเป็นไปได้แบบนี้เลย ไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น…
เธอกวักเรียกผมด้วยมือเล็กๆของเธอ
ผมได้แต่ยืนตัวเเข็งทื่อจ้องมองภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้..
ผมจะเข้าไปในพื้นที่เล็กๆนั้นได้ยังไง—?
หากพวกเราอยู่ในร่มเพื่อเลี่ยงไม่ให้โดนฝน แขนและไหล่ของเราจะสัมผัสกันอย่างแน่นอน ปกติพวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันและแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย
ผมขยับขาไม่ได้….
ทำไมไม่ไปซื้อร่มที่ร้านสะดวกซื้อล่ะ…
..ไม่…ผมจะไม่ทำลายความปรารถนาดีของริโกะที่อุส่าห์เดินมาที่นี่เพื่อมารับผม
ริโกะ เอียงศีรษะเล็กน้อยด้วยความสงสัยเมื่อเห็นผมยืนนิ่งอยู่
“คุณมินาโตะ… เป็นอะไรเหรอคะ? ไม่อยากกลับบ้านเหรอ”
“อ้อ….ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ..”
ไม่ได้..ถ้าผมลังเลอีกต่อไปมันจะดูน่าสงสัย
หากเธอรู้ว่าผมอายที่เราอยู่ภายในร่มเดียวกันเธออาจพึมพำว่า *ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น ดูเหมือนคุณจะคิดไปไกลแล้วนะ*
ตกลง…ผมจะเดินอย่างระมัดระวัง จะพยายามไม่ให้แตะต้องตัวเธอ..
ผมกลืนน้ำลายและค่อยๆก้าวขาที่สั่นคลอน ออกไปอย่างช้าๆเพื่อเข้าไปอยู่ในร่มเดียวกันกับเธอ…
โอเค…ค่อยยังชั่วที่ไม่มีส่วนใดของร่างกายแตะต้องตัวเธอ
แต่ก่อนที่จะได้เริ่มออกเดินริโกะเอ่ยปากเรียกผม…
“อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน คุณมินาโตะ ขยับเข้ามาใกล้ๆอีกนิดนึง ไม่งั้นคุณจะเปียกเอานะ…”
“แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ไหล่ของคุณยืนออกไปนะ”
“ผมไม่อยากชนคุณเพราะระยะห่างมันใกล้เกินไปน่ะ”
“ขอโทษนะคะที่ร่มมันเล็กเกินไป..ถึงจะชนฉันนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“….”
เธอพูดด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดที่ได้ยินเธอพูดอย่างงั้น ดังนั้นผมจึงพยายามดันตัวเขาไปใกล้เธออีกเล็กน้อย
“คุณมินาโตะ…ช่วยขยับเข้ามาอีกหน่อยได้มั้ยคะ”
“เดี๋ยวก่อน!…ถ้าคุณริโกะทำอย่างงั้น แขนของคุณก็จะยืนออกมานะ..”
เมื่อวันก่อนผมเริ่มเรียกเธอด้วยชื่อจริงของเธอซึ่งผมต้องรวบรวมความกล้าที่จะเรียกมัน ผมสามารถเรียกเธอว่า“ ริโกะ” ในใจได้ แต่ยังไงๆก็ยังประหม่าเมื่อต้องพูดออกมาจริงๆ
*อยู่สถานการณ์ลำบากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วสินะ..*
พวกเราไม่สามารถอยู่ท่ามกลางสายฝนแบบนี้ไปตลอดได้ พวกเรามองหน้ากัน จากนั้นดวงตาของริโกะ ก็ดูราวกับว่าเธอกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างได้และเธอก็ปิดระยะห่างระหว่างพวกเราทันทีด้วยการก้าวข้ามความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่..
“คุณมินาโตะ..รบกวนช่วยถือร่มทีค่ะ”
ผมรับร่มจากเธอมาและถือมันไว้ในมือโดยไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นทันที—!!!
“เอ๊ะ!!…คุณริโกะ”
ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอแนบมาทางด้านขวาของผม ผมพยายามถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว แต่เธอคว้าและกอดแขนผมด้วยมือทั้งสองข้าง เล่นซะหัวใจของผมแรงเต้นจนแทบจะหลุดออกมาอีกครั้ง
“ด…เดี๋ยวก่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“คุณมินาโตะ ฉันจับคุณได้แล้ววว”
“…!!”
“ฉันกลัวว่าคุณจะหนีออกไปแล้วก็เปียก จึงจำเป็นต้องทำอย่างนี้ค่ะ”
ริโกะพูดด้วยใบหน้าสีแดงสดขณะที่เธอกำลังกอดแขนขวาของผมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ ผมบอกได้เลยว่าเธอเองก็อายมากเช่นกัน
“ฉันจะไม่ปล่อยจนกว่าพวกเราจะถึงบ้าน…. กลับบ้านด้วยกันนะคะ”
ทั้งหมดที่ผมทำได้คือพยักหน้าตอบกลับไป ตอนนี้หน้าผมคงจะแดงพอ ๆ กับของริโกะ ผมคิดว่ามันแปลก สำหรับคนอย่างผมที่จะหน้าแดง แต่ไม่มีทางที่ผมจะแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติในสถานการณ์แบบนี้แน่นอน
จบ~~~/// ดูๆแล้วมันน่าจะมีสักประมาณ70ตอนละมั้ง คงจะหวานกันยาวๆล่ะต่อจากนี้ รอติดตามได้เลยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรอีก รอติดตามกันได้เลยยย!!!