เพื่อไปโรงเรียนผมกับโฮชิมิยะเลยมาเข้าแถวที่ชานชาลาของสถานี
“…..ยังคนเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“ฮ่ะฮ่ะ นั่นสิน้าา”
พอเริ่มมีเสียงอึกทึกมากขึ้นแถวก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แน่นอนว่าการจะขึ้นรถไฟนั้นจะต้องเอาตัวดันเข้าไป เป็นเรื่องน่าเครียดที่ต้องใกล้ชิดกับคนที่ไม่รู้จัก พอพูดเรื่องนี้กับโฮชิมิยะเพื่อฆ่าเวลา โฮชิมิยะก็ยิ่มแหย่ๆมาเพราะเห็นด้วย แถมยังเปิดเผยเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้
“บางครั้ง…ก็โดนจับก้นด้วยล่ะ”
“แย่เลยไม่ใช่รึไงนั่น ถ้าเป็นพวกลวนลามก็ควรจะส่งเสียงนะ”
“ถ้าเกิดไม่ใช่ขึ้นมามันก็เรื่องใหญ่เลยนะ บางทีก็อาจจะบังเอิญโดนก็ได้ แต่ก็น่ากลัว….”
ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกแต่ประเภทแบบนี้อาจจะเป็นเป้าหมายก็ได้
โฮชิมิยะออกจะน่ารักด้วย เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะสังเกตุเห็น และเพราะมีความเด่นเลยสังเกตุเห็นได้ง่าย แถมยังเป็นประเภทที่ตกเป็นเหยื่อก็อดทนถ้าแบบนั้นมันก็ดีกับอีกฝ่ายสิ?
“……”
“คุโรมิเนะคุง? มีอะไรเหรอ?”
“เปล่า…”
ถ้าเกิดเป็นแบบนั้น สตอล์กเกอร์อาจจะอยู่บนรถไฟก็ได้ ถ้างั้นก็ตัดสินใจเรื่องที่ผมจะทำได้แล้ว เพราะว่าการปกป้องโฮชิมิยะเป็นเหตุผลที่ผมยังมีชีวิตอยู่ยังไงละ…..
อีกไม่นานรถไฟจะมา
พวกที่ต่อแถวกันอยู่ข้างๆหน้าขึ้นไปกันทีบะคน
ผมกับโฮชิมิยะเองก็ขึ้นไปแต่ว่าคนค่อนข้างแน่น อึดอัดชะมัด….
ถ้าเป็นเลเวลนี้คิดว่าให้ปั่นจักรยาน3ชั่วโมงซธยังจะดีกว่า
แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาบ่น
“โฮชิมิยะ ทางนี้”
“คุโรมิเนะคุง?”
จับมือของโฮชิมิยะแล้วพาไปตรงประตู
นำทางไปที่พื้นที่เล็กๆข้างๆราวจับและก็บังโฮชิมิยะด้วยตัวของผม เท่านี้ด้านหลังจะถูกป้องป้องด้วยกำแพงของรถไฟและด้านหน้าจะถูกปกป้องด้วยร่างกายของผม ….รู้สึกเหมือนบังคับสัตว์ตัวน้อยๆให้เข้าไปในพื้นที่เล็กๆเลยแฮะ
ขณะที่ใบหน้าของโฮชิมิยะเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็เงยหน้าขึ้นมาที่ทางนี้แล้วพึมพำว่า[คุโรมิเนะ..คุง?]
“เท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาจับแล้วใช่มั้ยละ…”
มีคนผลักหลังอยู่แต่ก็ระวังไม่ให้ไปโดนโฮชิมิยะโดยที่เอามือยันผนังไว้ ถึงจะเหมือนคาเบะด้งอยู่หน่อยๆก็เถอะแต่ว่ามีเราอยู่ใกล้ๆคงจะดีกว่า
“น นน นี่มัน…ใกล้เกินไปนะ คุโรมิเนะคุง..!”
“ช่วยไม่ได้หรอก คนมันเยอะนี่นา”
บางทีหน้าของผมเองก็คงจะแดงเหมือนกัน เป็นธรรมดาที่จะอาย เพราะระยะห่างที่มีจำกัดร่างกายก็เลยเสียดสีกันผ่านชุด หน้าอกและใบหน้าของโฮชิมิยะเองก็ด้วย
แถมพฤติกรรมของผมเองก็น่าอายด้วย ทำเป็นเท่เกินไปรึแปล่า? แต่ถ้าต้องให้โฮชิมิยะโดนใครไม่รู้มาสัมผัสสู้ให้ผมอดทนทรมารไปกับความอายเลยซะดีกว่า
“ก กลิ่น….กลิ่นของคุโรมิเนะคุงมัน…!”
“โฮชิคาวะ? เป็นอะไรรึเปล่า?”
“…อุเฮะ? เอ๊ะ?”
ตาของโฮชิมิยะที่กำลังหมุนวนในตอนนี้เป็นการแสดงออกที่เหมือนกับอนิเมะเลย
สายตาเองก็ไม่มั่นคงแถมยังเลิกลัก เห็นได้ชัดเลยว่าความหมายจริงๆก็คือไม่คุ้นเคยกับผู้ชาย ต่อให้อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันเท่าไหร่
ผ่านไปไม่นานรถไฟก็หยุด แต่ว่าไม่ใช่สถานีที่พวกเราจะลง
และก็มีคนใหม่หลั่งไหลเข้ามา กับขบวนที่แน่นอยู่แล้วก็มีแรงมาดันหลังของผมมากขึ้นจากคนที่เข้ามาอีกครั้ง
จากที่เว้นระยะห่างจากโฮชิมิยะด้วยการที่เอามือดันประตูเอาไว้แต่ก็กลายเป็นเรื่องยาก แขนก็หมดแรงและเสียการค้ำจุน จากนั้นก็กอดโฮชิมิยะจากด้านหน้าแบบใกล้ๆ
“ฟุกิ้ว—-!”
เสียงที่น่ารักแต่ถูกกดเอาไว้ถูกส่งออกมาจากปากของโฮชิมิยะ เพราะตอนนี้โฮชิมิยะถูกประกบอยู่ระหว่างร่างกายของผมและผนังของตู้รถไฟ จะต้องอึดอัดแน่ๆ
“ฮ โฮชิมิยะ เป็นอะไรมั้ย?”
ถามโฮชิมิยะที่หน้าฝังอยู่กับหน้าอกของผม
“……”
“โฮชิมิยะ?”
“อุเห๋-?”
โฮชิมิยะค่อยๆเงยหน้าขึ้น
ดวงตางงๆที่จ้องไปที่ความว่างเปล่าและแก้มที่แดงราวกับแอปเปิ้ล
แถมยังร้อนเหมือนแช่น้ำร้อน
“….ไม่ไหว….แล้ว….”
สุดท้ายก็ กระตุกแล้วก็ฟุบไป
ฮ โฮชิมิย้าาาาา!
○
“ไม่คิดเลยวันที่อยู่ในห้องเรียนตอนเช้าอย่างสบายใจจะมาถึง….”
ผมนั่งในที่นั่งของตัวเองและถอนหายใจ[ฟู่]และสัมผัสถึงชีวิตประจำวันที่มีเสียงดังตามปกติ คึกคักตั้งแต่เช้าเลย
ผมบังเอิญมองไปที่โฮชิมิยะที่กำลังคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ยังเสียงดังและเด่นสดุดตาไม่เปลี่ยนเลยนะ
ลืมเรื่องในรถไฟแล้วก็ทำตัวให้สนุก …ดีจังเลย
“รู้สึกเหมือนที่ฉันทำไปจะให้ผลตรงกันข้ามยังไงไม่รู้…”
พยายามจะปกป้องโฮชิมิยะก็เลยผลักให้อยู่ชิดที่กำแพงแต่สุดท้ายก็ไปแบบติดกันซะได้
ผลงานของผมก็คือ[จู่ๆก็เข้าไปกอด] [มีหนังสือโป้ที่คล้ายกับโฮชิมิยะ] [แนบชิดทั้งร่างกาย]
….อ้าว แย่ยิ่งกว่าสตอล์กเกอร์อีกไม่ใช่รึไง?
“ริคุจัง!”
“ฮารุโนะ…?”
เพื่อนสมัยเด็กที่ยืนอยู่ข้างหน้าดูหงุดหงิดนิดหน่อย ดูยังไงก็อารมณ์เสีย พอคิดๆดู มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้คุยกับฮารุโนะแบบนี้ ช่วงนี้รู้สึกเหมือนห่างเหินไปสักหน่อย
“มีเรื่องจะคุยน่ะ! มาหน่อยได้รึเปล่า!”
…อ อะไรน่ะ?
สังหรณ์ใจไม่ค่อยจะดีเลยแฮะ
======จบตอน======
พระเอกโดนเรียกไปแทงที่ดาดฟ้าละมั้ง
ーーーーーーーーーーーー
ติดตามผลงานอื่นๆกับสนับสนุนผู้แปลได้ที่
ดอกไม้ไฟ | Facebook