ชื่อเรื่อง:Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta
ตอนที่ 8
ก่อนเที่ยงในวันหยุด ผมอยู่ที่สวนสารธารณะที่อยู่ใกล้ๆบ้านของโฮชิมิยะ
แสงแดดบนท้องฟ้าส่องประกายลงบนผิว…..
วันนี้ผมกับโฮชิมิยะมีกำหนดการไปเที่ยวเล่นกันตามสัญญาที่ให้เอาไว้เมื่อคืน
เป็นการนัดเจอที่น่าสรรเสริญจริงเชียว
เพราะอยู่บ้านเดียวกันเลยคิดว่าออกไปด้วยกันเลยก็ได้แต่ด้วยที่โฮชิมิยะมุ่งมั่นว่า”มันยากาศมันสำคัญใช่มั้ยละ!”เพราะงั้นผมเลยต้องออกจากบ้านมาก่อน
ผมนั่งจ้องไปที่ทางเข้าสวนสารธารณะโฮชิมิยะก็เดินไวๆเข้ามา
“ขอโทษที่ให้รอ รออยู่รึเปล่า?”
“ก็เรื่อยๆแหละมั้ง”
“โธ่ ตรงเมื่อกี้ต้องบอกว่าพึ่งมาถึงเมื่อกี้เองไม่ใช่รึไง”
ถึงจะพูดแบบนั้นไปก็เถอะนะ…
พวกเราอยู่บ้านเดียวกันนี่สิ
การแต่งตัวของโฮชิคาวะดูเหมือนแกลที่โรงเรียนแต่ชุดผมธรรมดาสุดๆ
ทรงผมมันเป็นโพนี่เทลผูกด้วยริบบิ้น ชุดเป็นเสื้อตัวใหญ่สีขาวกับกางเกงขาสั้นสีขาว ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาแบบเด่นสดุดตากว่านั้นหรอก
ส่วนผิวก็คงจะเป็นเรียวขาอันอวบอิ่มนั่นแหละ
“น่ารักอย่างที่คิดเลยนะ โฮชิมิยะ”
“อุเหะ!? เอ่อ…ขอบคุณ…”
โฮชิมิยะที่ถูกทำให้แก้มแดงก็เกาแก้มด้วยความเนียมอาย
เหมือนจะยังไม่ชินที่ถูกชมแฮะ แปลกจังเลยนะ
“คุโรมิเนะคุงอ่า…พ พูดแบบเป็นปกติเลยไม่ใช่รึไง….ชินกับการชมเหรอ?”
“นั้นสิน้า ก็เคยพูดกับเพื่อนสมัยเด็กหลายครั้งแหละ”
ก็นะฮารุโนะน่ะแทนที่จะอายกลับไม่อายแล้วภูมิใจว่า”ดีใจที่มีเพื่อนสมัยเด็กน่ารักแบบนี้ใช่มั้ยล่า! เหะเหะ!”
ไม่ได้เห็นผมเป็นเพศตรงข้ามเลยแม้แต่นิด
“ถ้างั้นไปกันเถอะ”
“รอเดี๋ยวก่อนโฮชิมิยะ”
“เอ๊ะ อะไรเหรอ?”
เรียกโฮชิมิยะที่เดินออกจากสวนสาธารณะแล้วเหยียบทางเท้าให้หยุด ประมาทซะจริง!
“ต้องไม่ใกล้ถนนสิ เข้ามาใกล้ๆขอบมากกว่านี้อีก”
“เอ่อ…ทางเท้ามีพื้นที่ปลอดภัยมากพออยู่แล้วด้วย…ไม่เป็นอะไรนี่?”
“กำลังดูถูกชีวิตอยู่งั้นเหรอ?”
“เอ๊ะ!”
“รถมันจะพุ่งมาจากทางใหนก็ไม่รู้ ต้องระวังรอบๆตัวเอาไว้”
“น นั่นสินะ…. อือ นั่นสินะ”
หน้าของโฮชิมิยะกระตุกแล้วก็พยักหน้า
แล้วเราก็เดินเรียงแถวเหมือนเดินขบวนใกล้ๆกับขอบทางเท้า
◯
ก่อนอื่นพอพวกเรามาถึงโรงหนังก็ไปนั่งที่นั่งที่กำหนดไว้แล้วหาอะไรทำฆ่าเวลาจนถึงเวลาฉาย
ด้วยความสงสัยก็เลยคุยกับโฮชิมิยะที่นั่งข้างๆ
“หนังที่จะดูกันเนี่ยเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆงั้นสินะ?”
“คุณโมริโมโตะเป็นคนเนะนำมาเพราะงั้นคาดหวังได้หายห่วง”
“เห๋ คุณโมริโมะโตะคนนั้นเหรอ….เหมือนจะคาดหวังได้ล่ะนะ”
“ใช่มั้ยละ? เค้าเองก็ตั้งตารอเลย”
“จะว่าไป คุณโมริโมโตะนี่ใครอะ?”
“ไม่รู้จักหรอกเหรอ!? เด็กผู้หญิงชั้นเดียวกันไง! ที่จำไม่ได้น่ะโหดร้ายมากเลยนะ!”
ก็โหดร้ายจริงๆน่ะแหละ แต่ผมน่ะกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากฮารุโนะแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร ช่วยไม่ได้นี่นา
พอคิดๆดูก็มีแต่ชื่อของโฮชิมิยะเท่านั้นที่ผมจำได้ดี
“ดูหนังรักๆใคร่ๆกับเพื่อนร่วมชั้นเหรอ”
“คุโรมิเนะคุง?”
“ไอ้นี่คือเดทใช่มะ”
“เอ๊ะ!? จ จู่ๆพูดอะไรออกมานะ!?”
“จะคิดยังไงก็คือเดทไม่ใช่เหรอ ออกมาดูหนังรักๆใคร่ๆกันสองคนในวันหยุด…ใครได้ยินก็คงบอกว่าเป็นเดทแหละ”
“ค เค้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย! แค่อยากมาเที่ยวเล่นกับคุโรมิเนะคุงแบบปกติเท่านั้นเอง!”
“เข้าใจแล้วใจเย็นๆสิ เอ้านี่เครื่องดืม”
ผมพูดปลอบโฮชิมิยะที่กำลังหน้าแดงและลนลานและหยิบเครื่องดื่มที่วางอยู่ตรงที่ที่วางแขนให้โฮชิมิยะ
แน่นอนว่าโฮชิมิยะที่รับไปก็เอาหลอดเข้าปากแล้วเริ่มดื่มแบบจริงๆจังๆ
“—อ๊ะ อันนั้นมันของฉันอะ”
“อือ!? แค่กๆ! ค คุโรมิเนะคุง!?”
“โทษทีๆ เป็นอุบัติเหตุตอนมาโรงหนังที่เกิดบ่อยๆนี่นะ”
“ท ทำไงดีอะ จูบทางอ้อมไปซะแล้ว…ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเค้าแท้ๆ”
“ครั้งแรกเนี่ยนะ ก็แค่จูบทางอ้อมเองไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่แค่สักหน่อย! รับผิดชอบให้เรียบร้อยเลยนะ!”
……แล้วต้องรับผิดชอบยังไงดีอะ
ฮึ้ม ผมไม่มีทางอื่นนอกงงที่โฮชิมิยะหันหน้าหนีราวกับว่าโกรธอยู่
◯
“”…….””
หลังหนังจบพวกเราก็ไปเดินรอบๆเมืองด้วยท่าทางอึดอัด โฮชิมิยะนั้นเดินนำหน้าผมไปไกลและกำลังแกล้งทำเป็นคนอื่นอยู่
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้น่ะเหรอ ไม่ได้เกิดจากการจูบทางอ้อม แต่ปัญหามันอยู่ที่เนื้อหาของหนังต่างหากละ มันมีฉากอีโรติกอยู่ด้วย
เป็นการแสดงแบบเบาๆไม่ใช่หนังที่ขายความลามกอะไรแต่ว่า…..
กับเพื่อนต่างเพศที่มาดูด้วยกันมันทำให้อึดอัด แถมยังไม่ได้เป็นคนรักหรืออะไรมากกว่านั้นกันด้วย
“โฮ้ย โฮชิมิยะ”
“…………….ลามก”
“ไหงงั้นละ”
โฮชิมิยะไม่แม้จะเหลียวหลังมาตำหนิ ไม่สมเหตุสมผลเลยนะ
เท่ากับว่าต้องใช้เวลาทั้งวันหนึ่งวันยอมรับบรรยาศทรมารแบบนี้ไป เดี๋นวนะ ไม่ใช่แค่หนึ่งวันสักหน่อย
ถึงจะไม่ได้กำหนดระยะเวลาแต่ว่าต่อไปนี้ผมจะต้องค้างที่บ้านของโฮชิมิยะเพื่อป้องกันสตอล์กเกอร์ ยังไงก็ต้อง
เปลี่ยนบรรยากาศ….
พอนึกได้ว่าใช้วันหยุดกับฮารุโนะยังไงเลยเสนอความเห็นไปจากทางด้านหลังของโฮชิมิยะ
“โฮชิมิยะ ไปเกมเซนเตอร์กันมั้ย? สนุกนะ”
“……..”
“นี่หรือว่าแกลไม่ไปเกมเซนเตอร์งั้นเหรอ?”
“ปกติก็ไปแหละ อย่างที่คิดคุโรมิเนะคุงมีอคติแปลกอยู่สินะ”
“ก็ไม่ปฏิเสธหรอก”
กำลังคิดอยู่ว่าโฮชิมิยะน่ะเป็นแกลมาตั้งแต่แรกรึเปล่า
〇
โฮชิมิยะที่แก้มย้อมเป็นสีแดงพาไปเกมเซนเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ
เป็นเสียงที่ดังเขย่าแก้วหูอย่างแรงจนน่าตกใจ ไม่ชินกับความรู้สึกนี้เลย
“คุโรมิเนะคุง มีเกมอะไรที่อยากเล่นอยู่รึเปล่า?”
“นั่นสินะ ฉันน่ะ–”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน! ก่อนอื่นมาเล่นแอร์ฮอกกี้กันเถอะ!”
“…โอ้”
อะไรละนั่นฟังหน่อยสิ—
แต่ก็เห็นด้วยแหละ จะเป็นอะไรก็ได้ ที่ตัดสินใจตอนแรกก็เพื่อให้โฮชิมิยะปรับอารมณ์
พวกเราเดินไปรอบๆร้านหาแอร์ฮอกกี้ พอเห็นแท่นก็ไปประจำที่
ถือเครื่องมือที่ถูกเตรียมเอาไว้ในมือ”รู้ทีหลังว่าเป็นไม้คลี”พอใส่เหรียญร้อยเย็นก็มีแผ่นถูกปล่อยออกมาจากทางออก
แล้วเกมก็เริ่ม
“งั้นก็เอาละนะ โฮชิมิยะ”
“อือ! จะเมื่อไหร่ก็มาเลย!”
จิตวิญญานมาเต็มเชียว
เอาเถอะ ตอนแรกๆก็ออมๆชิมรางไปก่อนล่ะกัน
ผมตอกแผ่นออกไปด้วยค้อน แผ่นพุ่งตรงไปที่โกลของโฮชิมิยะ—
แผ่นที่โฮชิมิยะตอกกลับมาด้วยความเร็วสูงสะท้อนกับกำแพงด้วยความเร็วที่ตามองตามไม่ทันจากนั้นก็เข้าไปในโกลของผมอย่างเร็ว—
“…..เอ๊ะ?”
เพียงแค่ผมกระพริบตาก็ตอบสนองไม่ได้แล้วถูกฉกคะแนนไปซะแล้ว
อะไรน่ะ ไอ้ความเร็วเมื่อกี้…?
คิดว่าบางทีอาจจะไม่ถึงเสี่ยววิเลยด้วยซ้ำ
ตอนที่ผมกำลังอึ้งอยู่โฮชิมิยะที่มีบรรยากาศแบบเยาะเย้ยก็เงยหน้าขึ้นมา
“ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง”
“…..อะไรเหรอ?”
“เค้าน่ะในละแวกนี้ถูกเรียกว่าราชินีแอร์ฮอกกี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ”
“ม ไม่เข้าใจแบบโคตรๆ! แต่ว่าฝีมือเมื่อกี้เก่งสุดๆเลย”
ได้รรู้ความจริงใหม่อีกแล้ว โฮชิมิยะ อายานะนั้นเก่งแอร์ฮอกกี้
สุดท้าย ผมก็แพ้ยับ10-3แบบไม่ได้โต้กลับเลยสักนิด
โคตรจะแข็งแกร่ง นี่สินะราชินี
ใช้ค้อนได้อย่างอิสระมีลักษณะการตีแผ่นหลายแบบอย่างกับห็นมืออาชีพอยู่เลย
โดยเฉพาะรอยยิ้มที่ดูสนุกนั้นช่างน่าประทับใจ
======จบตอน======
ต้องรับผิดชอบซะด้วย