นิยาย World domination system WDS Chapter 160 แผนการประสบความสําเร็จ
WDS Chapter 160 แผนการประสบความสําเร็จ
***หมายเหตุ : ไม่มีตอนที่ 159 นะครับ เนื่องจากผู้แต่งใช้มันกล่าวเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง จึงไม่แปลลงครับ
กลับเข้ามาในพระราชวังของเอลดินอร์ เอลดร้าล้างหน้าด้วยน้ําเย็น ก่อนจะตรวจเช็คตัวเองในกระจก
ตามที่แม่ของเธอมักจะกล่าวอยู่เสมอ ใบหน้านั้นมีความสําคัญอย่างมาก แม้ว่าเธอจะต้องพบกับประชาชนที่อ้างว่า มีข้อมูลที่สามารถจะช่วยราชอาณาจักรเอลดินอร์ได้ แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะไม่ล้างคราบน้ําตาที่เหลือค้างอยู่ที่แก้มของเธอ
หลังจากตรวจเช็คจนมั่นใจแล้ว เธอก็ยิ้มบางๆออกมา ก่อนจะบังคับเปลี่ยนใบหน้าเป็นการแสดงออกที่จริงจัง
เธอจําไม่ได้แล้วว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอยิ้มออกมาอย่างจริงใจนั้น มันนานเพียงใดแล้
ตระหนักถึงสิ่งนี้ เอลดราก็สงสัยว่า ชีวิตของเธอได้กลายมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
ขณะที่เธอมักจะคิดเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง เธอนึกย้อนกลับไปในสมัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ
เธอจําได้ว่า เธอเคยอยู่ในครอบครัวธรรมดา โดยพ่อจะออกไปทํางานทุกวัน ขณะที่แม่จะคอยดูแลเธอ ในตอนนั้น แม้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขาจะยากล่าบากอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่เคยที่จะรังเกียจมัน เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรัก
ทุกวัน เธอและแม่ของเธอจะทําอาหารด้วยกันขณะที่รอพ่อกลับบ้าน หลังจากกลับมาแล้ว เขาจะก็อุ้มเธอมาไว้บนไหล่ของเขาและตั้งใจฟังขณะที่เธอกล่าวสิ่งที่เธอทําในวันนั้นๆ
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวในความทรงจํานั้นก็คือ เธอมักจะได้ยินเสียงตะโกนจากห้องของพ่อแม่เธอในตอนกลางคืน ซึ่งมันทําให้เธอนอนไม่หลับ
จากที่เธอจับใจความได้ เธอเข้าใจว่า พ่อแม่ของเธอหนีตามกันมา เนื่องจากแม่ของเธอหลงรักเอลฟ์ชายที่ตระกูลไม่ยอมรับ
ต่อมา ตระกูลของแม่เธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอลดินอร์ได้ ถูกสังหารหมู่ในคืนเดียวด้วยเหตุผลบางอย่างที่เอลดราไม่รู้เอลดร้าไม่รู้
แม้ว่าแม่ของเธอจะเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย ซึ่งมีสิทธิ์ในการรับมรดกของตระกูล แต่ตระกูลของเธอก็ได้กาหนดเงื่อนไขไว้ว่า เธอจะได้รับมรดกก็ต่อเมื่อเธอยอมหย่าร้างกับสามีของเธอ
สิ่งนี้นํามาซึ่งการโต้เถียงกันหลายคืน ซึ่งแม่ของเธอต้องการจะหย่าร้างชั่วคราว เพื่อที่เธอจะได้รับมรดกของตระกูล
เอลดราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ภาพสุดท้ายที่เธอจาได้ก็คือ พ่อของเธอ เข้ามาในห้องของเธอและจูบเธอที่หน้าผากพร้อมน้ําตา เขามองเธอซักพักก่อนที่จะ จากไป
ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าเธอจะถามมากเพียงใด เธอก็ไม่เคยได้รับคําตอบเกี่ยวกับที่อยู่ของเขาอีกเลย พวกเธอแม่ลูกย้ายไปอยู่คฤหาสน์ที่แม่ของเธอเคยอยู่ และแม่ของเธอก็เริ่มอาชีพการเมืองด้วยเงินที่เธอได้รับมา
ก๊อกๆ!
ได้ยินเสียงเคาะประตู เอลดร้ากลับมาจากความทรงจําของเธอ
หลังจากถูกนําไปยังห้องเล็กๆห้องหนึ่งแล้ว เธอก็เข้าไปและปิดประตู ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าชายคนหนึ่ง
โบกมือให้เขานั่งลง เธอรินไวน์ลงในแก้วก่อนที่จะจิบมันและกล่าวว่า “บอกสิ่งที่เจ้ารู้ด้วยค่ากล่าวที่น้อยที่สุดเท่าที่สามารถจะทําได้ ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับรางวัลเอง หากข้าพบว่าเจ้าไม่สนใจค่าสั่งนี้ เจ้าจะถูกโยนออกไปและถูกตั้งข้อหาเพราะทําให้รัฐเสียเวลา”
ในความเป็นจริง เอลดินอร์มีนโยบายการซื้อข้อมูลด้วยเงิน หากใครบางคนสามารถให้ข้อมูลใดๆที่เป็นประโยชน์ พวกเขาจะได้รับเงินตามคุณค่าของข้อมูล
หากไม่เป็นเช่นนั้น การจ่ายเงินจะถูกระงับไว้จนกว่าข้อมูลจะได้รับการตรวจสอบ
โดยปกติแล้ว มีหน่วยงานพิเศษในพระราชวังที่ดูแลเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันใกล้เลือกตั้งแล้ว แม่ของเธอจึงสั่งให้เธอดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
สังเกตเห็นว่า ชายคนนี้มีการแสดงออกถึงความเป็นคนหิวเงิน เอลดร้าจึงรู้สึกหงุด หงิดเล็กน้อยขณะที่เธอรอให้เขากล่าว
“ท..ท่านหญิง ข้าได้ยินเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลกล่าวว่า จะมีการประชุมเกิดขึ้นวัน พรุ่งนี้ที่ผับเอลวิชในเอลฟาเวนใต้ ซึ่งจะมีบุคคลสําคัญเข้าร่วมด้วย นั่นคือทั้งหมดที่ข้าจับใจความได้”
หนึ่งประโยค เธอรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่ได้เลือกที่จะเพิกเฉยต่อค่าสั่งของเธอและทําให้เธอไม่พอใจ เอลดราเรียกองครักษ์เข้ามาและกล่าวว่า “ไปที่บ้านของชายคนนี้พร้อมกับเขา และตรวจสอบว่าเพื่อนบ้านของเขาเป็นใคร”
เห็นว่าคํากล่าวของเขาไม่ได้ถูกปฏิเสธในทันที ชายคนนั้นก็แสดงออกถึงความสุข เสื้อผ้าของเขาสีซีดจนเกือบหมด ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าเขาแทบจะไม่มีเงินเลย
เห็นเขายื่นมือออกมาข้างหน้าพร้อมใบหน้าที่ปิติยินดี เอลดราก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอยกลับหลังเพื่อหลบเลี่ยงมือที่สกปรกของเขา
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่า ความสุขจะชนเข้ากับสมองของเขา ทําให้เขาสะดุดเก้าอี้และล้มลงมาทางเธอ
กลิ่นที่น่ารังเกียจของใครบางคนที่ไม่ได้อาบน้ํามานานหลายสัปดาห์ฟังออกมาเห็นเช่นนั้น เอลดร้าก็รีบถอยออกมาและออกจากห้องไปในทันที
เห็นลูกสาวของราชินีหน้าบูดออกมา เหล่าทหารก็ยักไหล่ ก่อนจะเข้าไปในห้อง และพาชายคนนั้นออกมา
องครักษ์นายหนึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามคําสั่งของเอลดร้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าองครักษ์จะเดินข้างๆชายคนนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นการแสดงออกที่แสดงถึงความสําเร็จของภารกิจจากชายคนนั้น
ในขณะเดียวกัน ภายในห้องบัลลังก์ของราชอาณาจักรกาด่า
ชายชราจับกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ในมือ ขณะที่อ่านรายชื่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ในแอนแกเรีย ขณะที่ราชากาดํานั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับการแสดงออกอย่างเหนื่อยหน่าย
จนถึงตอนนี้ มีข่าวเกี่ยวกับอาราเฟลและปัญหาในการทําเหมืองอีเธอร์ซึ่งอยู่ใน
เขตแดนของพวกเขา
เห็นว่าหัวข้อเปลี่ยนไปเป็นแลนธานอร์ ราชากาดําก็นั่งตัวตรงและตั้งใจฟัง ซึ่งมันทําให้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชรา
“แลนธานอร์กําลังทดสองผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า เครือข่ายแห่งแอนแกเรีย กลุ่มคนที่ถูกคัดเลือก ได้รับเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสารฟรี ซึ่งสิ่งที่ออกอากาศในเครือข่ายนี้ก็คือ ข่าวต่างๆในแอนแกเรีย”
“เขาทําอะไรอยู่? แล้วเมล็ดพันธุ์อีเชอร์ล่ะ? เหตุใดพวกเราถึงยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวในส่วนของเขาเลย?”
ได้ยินราชากาดําถามเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อได้ยินข่าวเรื่องของแลนธานอร์ ชายชราก็ถอยหายใจอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “เนื่องจากมันเป็นชายแดน พวกเราจึงมีสายลับคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทางที่เขาจะทําอะไรโดยที่พวกเราไม่รู้เกี่ยวกับมัน แม้จะเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะค้นพบบางวิธีแล้ว แต่มันจําเป็นจะต้องรอให้ถึงการเก็บเกี่ยวเมล็ดอีเซอร์เสียก่อน”
ไม่พอใจกับคําตอบ ราชากาดาโบกมือเป็นสัชญญาณให้ชายชรารายงานต่อไป
ไม่กี่นาทีต่อมา ชายชราก็ออกมาจากห้องบัลลังก์ จากนั้น เขาก็เผากระดาษด้วยเปลวเพลิง
อย่างน่าประหลาด เปลวเพลิงเป็นสีม่วงซึ่งเป็นเอกลักษณ์บางอย่าง จากนั้น ก็ไม่มี เถ้าถ่านใดๆหลงเหลืออยู่อีก
สุดทางเดินที่มีห้องบัลลังก์ ชายชรามองไปรอบๆก่อนจะเข้าไปในประตูลับที่ซ่อนอยู่ในกําแพงด้านข้าง
ภายในเป็นบันไดยาว ซึ่งเชื่อมต่อไปยังลานกว้างใหญ่ซึ่งเป็นไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่เติบโตอยู่ภายใน
หลังจากของลานนี้ทําด้วยหิน
ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้น ชายชราก็จดจ้องไปยังจุดที่สว่างสไวซึ่งอยู่ไม่ไกล
มีบางคนจดจ้องมายังเขาจากบนต้นไม้ เห็นเขาเข้ามา พวกเขาก็พยักหน้าก่อนจะกลับไปทํางานของพวกเขาต่อ
เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ชายชราไปถึงกระท่อมแห่งหนึ่ง
เปิดประตู เขาหันกลับมามองพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยดินแห้งแล้ง ที่ดูเหมือนจะเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ ที่นี่และที่นั่น เศษเสี้ยวใบของอีเชอร์สามารถจะมองเห็นได้ ซึ่งมันฉีกขาดหลังจากที่ต้นถูกเก็บเกี่ยวไป
ถอนหายใจอย่างรุนแรง ชายชราเดินเข้าไปในกระท่อมก่อนจะปิดประตูและเปิดทางเดินลับลงใต้ดินหลังจากร่ายคาถาบางอย่าง
เข้าไป เขาเดินลงไปซักพักก่อนจะไปถึงห้องใต้ดินทรงกลม จากนั้น เขาก็เปิดประตูและเข้าไป
หากแดนลอยู่ที่นี่ เขาคงจะต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอน เพราะชายชราได้เดินเข้าไปยังห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติซึ่งดูเกือบจะเหมือนของเขา โดยมีส่วนที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย