WDS Chapter 104 แหล่งพลังงานคุณภาพสูงสุดขีด
ระบบอ่านใจเขาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ แดนีลไม่ได้สนใจมากนัก เพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการที่จะรู้อยู่แล้ว
ด้วยการควบคุมรูปแบบหัวใจมังกรอย่างเต็มรูปแบบ เขาเพียงแค่บอกให้ระบบแสดงวิธีที่เขาจะไปยังตำแหน่งที่มีแหล่งพลังงานนั้น
เปิดใช้งานเครื่องมือแสดงผลหน้าจอ แดนีลเดินไปตามลูกศรที่ปรากฎขึ้น
หลังจากเดินลงบันไดที่สถาพไม่ค่อยสู้ดีนักและมีฝุ่นกระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมากไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว แดนีลก็สะดุดตากับสิ่งที่อยู่ปลายทาง
มันเป็นทางเดินหิน ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีที่ไม่รู้จัก หินแต่ละก้อนเป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบจะสมบูรณ์แบบ
ในความเป็นจริง เนื่องจากดวงตาของเขาจดจ้องเพียงลูกศร แดนีลจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่า เขาได้เดินผ่านทางเดินใต้ดินที่ใช้เก็บอาหารและขังนักโทษ
ที่นี่ไม่มีประตู และขณะที่เขามองกลับไป สิ่งที่เขามองเห็นมีเพียงความมืด
เขาได้ใช้บอลแสงเพื่อแสดงเส้นทาง แต่แสงนั้นได้ขยายไปถึงระยะหนึ่ง ก่อนที่มันจะจางหายไป
รีบวิ่งกลับไปข้างหน้า และแดนีลตระหนักว่า มันมีประตูเหล็กหนาแน่นตั้งอยู่
‘ระบบ ใครสามารถจะเข้าถึงประตูนี้ได้บ้าง?’ เขาถาม ขณะรู้สึกประหลาดใจที่มันดูเหมือนไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานานแล้ว
[ตอบกลับ มีเพียงผู้ที่ควบคุมรูปแบบหัวใจมังกรอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าประตูนี้ได้]
มันเป็นอย่างที่เขาคิด ที่นี่เป็นสถานที่พิเศษ ที่เข้าถึงได้เพียงเจ้านายของพระราชวังเท่านั้น
เปิดประตูเข้าไป มันเป็นถ้ำสีเหลี่ยมอยู่ภายใน เดินไปยังจุดสิ้นสุด แดนีลพยายามใช้เข็มเพลิงเจาะรูหรืออย่างน้อยก็ทิ้งรอยเอาไว้
อย่างไร้ประโยชน์ เข็มเพลิงไม่สามารถจะเจาะทะลวงใดๆได้ ราวกับมีสิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถทำลายได้ขวางกั้นเอาไว้
[ระบบขอแจ้งโฮสต์ว่า สถานที่ข้างหน้าเป็นสถานที่ที่มีสัญญาณของพลังงานคุณภาพสูงสุดขีด นอกจากนี้ มันยังเป็นที่ตั้งของแหล่งพลังงานสำหรับรูปแบบหัวใจมังกร ตามที่ระบบกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ รูปแบบหัวใจมังกรนั้นถูกทำให้เรียบง่าย เพื่อที่จะให้จอมเวทย์ระดับนักรบสามารถที่จะควบคุมมันได้ ผลจากรูปแบบด้านหน้าของโฮสต์ ทำให้มีโอกาสที่จะได้ทำความเข้าใจรูปแบบดั้งเดิม]
สิ่งที่อยู่ต่อหน้าของเขาก็คือ รูปแบบที่แท้จริง?
แดนีลเดินเข้าไปข้างหน้าและสัมผัสกับกำแพง แน่นอนว่ามันรู้สึกหยาบ แต่เขาก็รู้สึกราวกับว่า หินก้อนนี้เพิ่งจะถูกนำมาวางไว้ในถ้ำและปิดกั้นมันเอาไว้
[โฮสต์ขาดระดับที่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงรูปแบบเพื่อเปิดมัน]
ด้วยรอยยิ้มที่บูดเบี้ยว แดนีลก้าวถอยหลังและถามระบบว่า “อะไรคือสิ่งที่จำเป็นในการเข้าถึงรูปแบบที่แท้จริง”
[จำเป็นจะต้องอัพเกรดระบบ ราคา 100,000 แต้มประสบการณ์]
มันเป็นอย่างที่เขาคิดว่า อัพเกรดระบบอีกแล้ว
ช่างลึกลับนัก แหล่งพลังงานคุณภาพสูงสุดที่ไม่สามารถจะเข้าถึงได้ และจิตวิญญาณจักรพรรดิ เห็นได้ชัดว่ามีขุมสมบัติที่แท้จริงซ่อนอยู่ภายในราชอาณาจักร และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งผิดปกติที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้าควบคุมพระราชวัง
ในความเป็นจริง เขายังคงคิดอยู่เสมอว่า สองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาไม่สามารถจะหาเบาะแสใดๆเกี่ยวกับมันได้ แดนีลจึงเลือกที่จะยอมแพ้
‘หากติดตั้งห้องโถงกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติไว้ที่นี่ มันจะมีประสิทธิภาพมากเทียบได้กับพลังงานที่บีบอัดอยู่ในอัญมณีเคอร์หรือไม่?’ แดนีลถาม และหวังว่าความฝันของเขาจะยังคงใช้ได้ พลังงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
[ยืนยัน ความเข้มข้นของพลังงานสูงกว่าปกติ แต่ก็ยังคงต่ำมากเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานที่แท้จริง ในการประมาณเวลาที่ต้องใช้สำหรับสะสมพลังงาน จนมีประสิทธิภาพที่เทียบได้กับพลังงานในอัญมณีเคอร์ ระบบจำเป็นจะต้องให้โฮสต์ดูดซับอัญมณีเคอร์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลก่อน ถึงจะสามารถทำได้]
ได้ยินเช่นนั้น แดนีลก็อยากจะไปที่คลังสมบัติในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาหยุดตัวเอง เพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว และเขาจะต้องไปพบเหล่าฑูตในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าอย่างไร ก่อนที่จะไปถึงระดับนักรบ ไม่มีนักสู้หรือจอมเวทย์ระดับมนุษย์คนไหน ที่สามารถจะฝืนความต้องการฟื้นฐานของร่างกายอย่างการทานอาหารหรือการนอนหลับพักผ่อนได้
นอกจากนี้ เขายังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายห้องโถงมาที่ถ้ำแห่งนี้ มิติโดยรอบพระราชวังถูกปิดกั้นไว้ เพราะเขาเป็นกังวลว่า จะมีบางคนเทเลพอร์ตเข้ามาเพื่อทำการลอบสังหาร ดังนั้น เขาจึงต้องหาวิธีที่จะย้ายมันเข้ามาในถ้ำอย่างปลอดภัย โดยไม่เปิดเผยถึงการมีอยู่ของมันให้คนภายนอกรู้ เขาจำเป็นจะต้องรีบแก้ปัญหานี้อย่างเร็วที่สุด
ปิดประตู เขากลับไปที่ห้องของเขา และนอนหลับในทันทีที่หัวถึงหมอน ขณะนั้น เขาฝันเห็นมังกรคำรามและเจ้าหญิงที่ติดอยู่ในกับดัก
……………………………………………………………………………..
ช่วงเช้าของวันถัดมา มีบรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อยทั่วทั้งพระราชวัง คนรับใช้และองครักษ์รีบเร่งและคึกคัก ไปทำงานด้วยความแข็งขันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสมัยของราชาองค์ก่อน
ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ก็เป็นวันเปิดประชุดราชสำนักครั้งแรกอย่างเป็นทางการของราชาองค์ใหม่
ห้องบัลลังก์นั้นสะอาดเรียบร้อย และมันได้รับการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันโดยผู้จัดการพระราชวังที่เอาใจใส่ เขาเป็นคนร่างผอม มีผมสีขาวและมีคิ้วหย่อนยาน แต่เขาก็สามารถจะเดินไปรอบๆได้ราวกับการก้าวกระโดด ด้วยดวงตาที่เฉียบคม เขาสั่งคนใช้ราวกับพวกเขาเป็นกองทัพของเขา ที่ทำการกวาดล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆในห้องบัลลังก์
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวทมนต์ทำความสะอาดอย่างละเอียดถี่ถ้วนเช่นนี้ เพราะไม่มีจอมเวทย์ในราชอาณาจักรคนใด ที่สามารถจะควบคุมอนุภาคมูลฐานที่ละเอียดเช่นนี้ได้ และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาไม่มีความชำนาญที่เทียบได้กับผู้จัดการพระราชวัง
การประชุมราชสำนักจะเริ่มในเวลา 9.00 น. อย่างไรก็ตาม เสนาบดีและบุคคลสำคัญได้เริ่มหลังไหลเข้ามาก่อนเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยกัน พวกเขาสงสัยกันว่า แผนของราชาองค์ใหม่จะส่งผลอย่างไรกับราชอาณาจักร
สำหรับเหล่าฑูต ยักษ์หน้าตาอ่อนโยนเดินเข้ามาในห้องบัลลังก์ครึ่งชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเวลา อย่างช่วยไม่ได้ ร่างของเขาดึงดูดสายตาของทุกคน และเขาหัวเราะอย่างมีความสุขขณะเดินตามคนรับใช้ที่ได้รับคำสั่งให้พาเขาไปยังเก้าอี้ที่ออกแบบมาพิเศษของเขา
แครซเดินเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น เขารีบเดินไปนั่งที่ของเขาข้างๆโบส ก่อนจะจ้องมองไปยังบัลลังก์ที่ว่างเปล่า มังกรบนบัลลังก์ดูเหมือนจะดึงดูดบางอย่างในตัวเขา และมันดูเหมือนเขาจะโน้มตัวไปข้างหน้าช้าๆ ขณะที่เขาหลงไหลในรายละเอียดการแกะสลัก ที่ทำให้มันดูราวกับมีชีวิต
เบวิสเดินเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น เขามองไปยังเหล่าบุคคลสำคัญพร้อมกับเยาะเย้ยบนใบหน้า ก่อนที่จะนั่งลงบนที่นั่งของเขา
มันไม่น่าประหลาดใจใดๆที่เอลดร้าที่แสดงถึงการเย้ยหยันมาถึงเป็นคนสุดท้าย
ตามคำสั่งของแดนีล ห้องบัลลังก์จะถูกจัดในลักษณะที่คล้ายกับก่อนหน้านี้
ที่นั่งสำหรับผู้ทรงเกียรติบางแห่งว่างเปล่า เนื่องจากคนชั้นสูงทั้งหมดถูกขังไว้ตามคำสั่งของราชา
ทั้งหมด มีที่นั่งที่เป็นเก้าอี้ธรรมดา 100 ตัว วางไว้ 2 ข้างทาง ที่นำไปสู่บัลลังก์ แม้จะเป็นบุคคลสำคัญของรัฐบาล แต่พวกเขาก็มีเพียงเบาะรองนั่งและของตกแต่งเพียงเล็กน้อย
ด้านหน้าของที่นั่งเหล่านี้ มีที่นั่งที่เป็นเก้าอี้ที่โดดเด่น 30 ตัว ประดับด้วยทองคำและอัญมณีมีค่ามากมาย นี่เป็นที่นั่งสำหรับเหล่าเสนาบดีทั้ง 20 คน ของราชอาณาจักร และบุคคลสำคัญต่างชาติที่เข้าร่วมการประชุมราชสำนัก
เบวิสและเอลดร้านั่งฝั่งซ้ายของบัลลังก์ ขณะที่โบสและสแครซนั่งฝั่งขวา
ด้วยทุกคนมารวมตัวกันทั้งหมดแล้ว เวลากำลังจะถึงกำหนด ขณะที่เสียงพูดคุยค่อยๆเงียบลง ในตอนนี้ มีเพียงเหล่าฑูตเท่านั้นมองไปรอบๆหรือจดจ้องไปที่บัลลังก์ แตกต่างกับเวลาที่พวกเขาใช้ในพิธีราชาภิเษก
ในที่สุด ก็ถึงเวลา 9.00 น. ประตูห้องบัลลังก์ถูกเปิดออก ขณะที่เสียงฆ้องดังเข้ามาถึงภายใน ทำให้ทุกคนยืนขึ้น ครั้งนี้ แม้แต่ทั้งสองที่ไม่ได้ยืนขึ้นในพิธีก่อนหน้านี้ ก็ฝืนยืนขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
แดนีลเดินเข้ามาเป็นจังหวะและเขาปฏิบัติตามการแนะนำอย่างถี่ถ้วน ไม่เร็วเกินไปไม่ช้าเกินไป เก็บแขนไว้ด้านหลังและหันศีรษะไปรอบๆอย่างช้าๆขณะเดินไปที่บัลลังก์ ท่ามกลางเหล่าเสนาบดี เขาเพียงพยักหน้าและยิ้มให้กับพ่อของเอเลนาฟเท่านั้น ขณะที่ยังคงแสดงออกอย่างเป็นกลางต่อคนอื่นๆรวมถึงเหล่าฑูต
ด้านหลังเขาติดตามมาด้วยคน 4 คน ราวกับว่าเป็นผู้ติดตามของเขา
พวกเขาก็คือ แฟกซัล, โจชัว, เอเลนาฟ และเคลเลอร์
เนื่องจากคุ้นเคยกับพิธีการของราชสำนัก เคลเลอร์จึงเป็นคนที่ผ่อนคลายมากที่สุด เขาเดินไปโดยไม่แสดงออกใดๆ เอเลนาฟเคยเรียนในชั้นเรียนมารยาทที่พ่อของเขาบังคับให้เรียน เขาจึงสามารถทำได้ดีและเดินได้สง่างาม
สำหรับอีก 2 คน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเข้ามาในสภาพแวดล้อมเป็นทางการ พวกเขาจึงประหม่า และเดินไปข้างหน้าด้วยร่างกายและการแสดงออกที่แข็งทื่อ
ขณะที่แดนีลเดินขึ้นไปบนบัลลังก์ เคลเลอร์และเอเลนาฟก็ไปยืนอยู่ฝั่งขวาของบัลลังก์ ขณะที่แฟกซัลและโจชัวอยู่ฝั่งซ้าย
“คำนับองค์ราชาแห่งแลนธานอร์!”
“คำนับองค์ราชา!”
ตามธรรมเนียม เคลเลอร์กล่าววลีแรกออกมาในทันทีที่แดนีลไปถึงด้านบนสุดของบัลลังก์ ยกเว้นฑูตทั้งสี่ ทุกคนในห้องกล่าวสนองด้วยอารมณ์ ซึ่งแทบจะไม่เคยเห็นในห้องบัลลังก์ช่วงไม่กี่ปีมานี้เลย
ในที่สุด แดนีลก็นั่งลงบนบัลลังก์ และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการประชุมราชสำนักครั้งแรกในชีวิตของเขา