WDS Chapter 108 ปรมาจารย์รูปแบบ
สแครกไม่รอให้ใครกล่าวใดๆขึ้น และเขากล่าวถึงข้อเรียกร้องของนิกายสังหารซ่อนเร้นในทันทีว่า
“ในทางกลับกัน นิกายสังหารซ่อนเร้นต้องการที่จะขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่ทำให้ฝ่าบาทสามารถทำความเข้าใจรูปแบบหัวใจมังกรได้ในเวลาอันสั้น”
แดนีลรู้สึกอึดอัดในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น แม้การแสดงออกของเขาจะเป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ แต่พายุทางอารมณ์กำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา
ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและระดับที่จำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจรูปแบบหัวใจมังกรที่ปกป้องพระราชวังแห่งแลนธานอร์นั้น เป็นที่รู้จักกันดี อย่างไรก็ตาม ในสายตาของศัตรูหรือแม้แต่เหล่าเสนาบดีเอง แดนีลได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน ในการทำความเข้าใจรูปแบบและควบคุมพระราชวังได้อย่างเต็มรูปแบบ
หลายคนคาดเดาว่า มันเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเขา
แม้จะมีบางคนคิดว่า มันอาจจะเป็นสิ่งของ แต่เหล่าคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องประดับเวทมนต์ ก็ได้เย้ยหยันความคิดนั้น เพราะสิ่งของดังกล่าว ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมรูปแบบได้โดยไม่สนใจระดับขั้นนั้น มันไม่เคยปรากฎในทวีปแอนแกเรียมาก่อน
เครื่องประดับเวทมนต์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งนั้นที่สุดก็คือ สิ่งที่นิกายใบไม้ร่วงโรยทิ้งเอาไว้ ซึ่งมันสามารถจะเร่งความเร็ว การทำความเข้าใจรูปแบบของผู้ใช้มันได้
ในความเป็นจริง มันมีข้อจำกัดมากมาย เครื่องประดับเวทมนต์ดังกล่าวใช้งานได้กับรูปแบบที่ไม่มีเจ้านายเท่านั้น สถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับแลนธานอร์ ที่รูปแบบไม่มีเจ้านาย จนปล่อยให้กองกำลังต่างๆ ถือโอกาสเข้ามาช่วงชิงอำนาจนั้น มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากอย่างมาก
เนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ ส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมด สงสัยว่ามีคนอยู่เบื้องหลังแดนีล ช่วยให้เขาสามารถควบคุมรูปแบบและช่วงชิงบัลลังก์มาได้ การทำความเข้าใจรูปแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่แดนีลเพิ่งจะทำ อย่างไรก็ตาม หากมีปรมาจารย์ระดับสูงอย่างมากคอยช่วยเหลือ มันก็สามารถจะทำความเข้าใจรูปแบบได้ในเวลาที่เร็วขึ้นอย่างมาก
แน่นอน คนที่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเพียงเหล่าคนชั้นสูงในราชอาณาจักเท่านั้น สำหรับเหล่าประชาชนทั่วไป พวกเขาเพียงหวังว่า ใครบางคนที่อยู่บนบัลลังก์จะห่วงใจพวกเขาเท่านั้น
แผนของแดนีลก็คือ ปล่อยให้ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปโดยไม่ตอบคำถามใดๆ เมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะค่อยๆเลือนหายไปเอง เพราะไม่สามารถจะพิสูจน์ได้หรือค่อยๆถูกลืมไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ทางออกที่ดีมากนัก แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถจะทำได้ ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่มีปรมาจารย์ออกมาขับไล่บิ๊กโฟร์ และช่วยให้บางคนบรรลุเป้าหมายของพวกเขา แล้วรับผลประโยชน์บางอย่างมา ระบบได้บอกแดนีลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่แดนีลตัดสินใจลอบเข้าพระราชวังเพื่อที่จะเข้าไปควบคุมรูปแบบหัวใจมังกรในก่อนหน้านี้
ในกรณีเช่นนี้ เว้นแต่ผลประโยชน์ของพวกเขาจะได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น บิ๊กโฟร์จะไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
สำหรับที่เอลดินอร์กล้าที่จะนัดพบบุคคลผู้นั้นในก่อนหน้านี้ มันเป็นเพราะพวกเขามั่นใจว่า เขาอยู่ต่ำกว่าระดับผู้ชนะ ที่สามารถจะทำลายรูปแบบได้ด้วยกำปั้นเดียว
ดังนั้น มันจึงไม่น่าประหลาดใจใดๆ ที่สแครกจะมั่นใจว่า มีปรมาจารย์อยู่เบื้องหลังแดนีล สิ่งที่ทำให้เขาเป็นกังวลก็คือ ความช่วยเหลือจากปรมาจารย์ไม่ได้มีอยู่จริง
เพราะแดนีลก็คือปรมาจารย์คนนั้น มันไม่มีทางเลยที่เขาจะออกไปจากราชอาณาจักร เพื่อไปยังนิกายตามข้อเรียกร้องของพวกเขาได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ที่มีสิ่งต่างๆมากมายให้ต้องจัดการ ในความเป็นจริง มันยังคงมีอยู่อีกวิธีหนึ่ง แต่แดนีลยังคงห่างไกลจากระดับที่สามารถจะทำเช่นนั้นได้
เขาพิจารณาเกี่ยวกับมัน เพราะเขารู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของสิ่งที่นิกายเสนอมา
มือสังหารนักสู้ 100 คน และมือสังหารจอมเวทย์ 100 คน เพื่อให้ได้รับข้อเสนอนี้ ราชอาณาจักรต่างๆคงยินดีที่จะจ่ายราคาตามที่พวกเขาเรียกร้อง
ในเชิงกลยุทธ์ มือสังหารนักสู้หรือมือสังหารนักเวทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีคนหนึ่ง จะเทียบได้กับบุคคลทั่วไปที่มีระดับขั้นเดียวกับเขาถึง 100 คน นี่เป็นเพียงการประมาณง่ายๆ อย่างไรก็ตาม มันเป็นตัวเลขที่นิกายให้สัญญาเอาไว้
ในความเป็นจริง แดนีลต้องการที่จะไปฝึกอบรมด้วยตัวเอง เพราะระบบจะสามารถพัฒนาเทคนิคต่างๆได้อย่างมาก
เห็นราชาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เหงื่อก็เริ่มปรากฎขึ้นที่ด้านหลังคอของชายมีเกล็ด
‘พวกเราได้เสนอสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเราสามารถจะให้ได้แล้ว’ เขาคิด และรู้สึกผิดหวังกับความเงียบภายในห้องบัลลังก์
สแครกกัดฟันแน่น และเริ่มกล่าวตามคำสั่งที่เขาได้รับมา
“ฝ่าบาท พวกเรารับรองว่า จะไม่มีอันตรายใดๆต่อบุคคลผู้นั้น และพวกเราก็ไม่ได้ต้องการที่จะพบกับเขาในทันที ในเวลาอีกราว 1 ปี มันจะเป็นโอกาสอันมงคงของพระจันทร์โลหิตในรอบร้อยปี พวกเราเพียงต้องการร้องขอให้เขา ทำความเข้าใจรูปแบบหัวใจบาซิลลิสก์ที่ตั้งอยู่ใต้นิกายของพวกเรา อย่างที่ท่านรู้ นี่เป็นรูปแบบแปลกประหลาด ที่รากของมันจะเปิดเผยออกมาเพียงชั่วโมงเดียวในรอบร้อยปี รูปแบบหัวใจบาซิลลิสก์มีขุมสมบัติก่อตั้งนิกายของพวกเราอยู่ภายใน เพื่อตอบแทนเขา บุคคลผู้นั้นสามารถเลือกของสิ่งหนึ่งจากในนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับเวทมนต์โบราณหรือศิลปะการลอบสังหารโบราณของนิกาย หากเขาปรารถนา เขาก็สามารถจะนำมันไปได้”
สแคร็กรู้สึกราวกับหัวใจของเขาระเบิดออกขณะที่กล่าวเงื่อนไขดังกล่าวออกไป เรื่องของรูปแบบหัวใจบาซิลลิสก์นั้น มันได้รบกวนผู้นำนิกายมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการร้องขอบิ๊กโฟร์ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไปแล้ว พวกเขาได้พยายามทำทุกอย่างแล้ว
ตอนนี้ ด้วยไม่มีทางเลือกใดๆ นิกายจึงได้ตัดสินใจยอมแพ้สิ่งของหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม สแครกรู้สึกเจ็บปวดอย่างแท้จริง เพราะสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ได้รับมอบมาจากบรรพบุรุษของพวกเขา เพื่อให้ใช้มันเมื่อนิกายเติบโตขึ้นถึงระดับที่สามารถเข้าถึงรูปแบบหัวใจบาซิลลิสก์ได้แล้ว หรือเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับภัยพิบัติการล่มสลายของนิกาย
เงื่อนไขในช่วงเวลานี้แตกต่างออกไป และนิกายติดอยู่ในระดับปัจจุบันของพวกเขา และไม่สามารถจะแข่งขันกับกองกำลังที่แข็งแกร่งอื่นๆได้ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการที่จะทำความเข้าใจรูปแบบ นำสิ่งของต่างๆออกมาและใช้มันเพื่อเติบโตฃกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในทวีปแอนแกเรีย
ขณะที่แดนีลมองไปยังการแสดงออกบนใบหน้าของสแคร็ก มันราวกับเขาได้ยอมแพ้บางสิ่งที่เขาหวงแหนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันทำให้แดนีลตระหนักว่า สิ่งของเหล่านั้นจะต้องมีค่าอย่างมากแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แดนีลไม่ใช่คนที่จะเสี่ยงโดยไม่มีเหตุผล กระนั้น ประเด็นสำคัญก็คือ เขายังมีเวลาอีก 1 ปี ในเวลา 1 ปีนี้ เขาจะสามารถใช้วิธีการในความคิดของเขาก่อนหน้านี้ ที่ไม่สามารถจะทำได้เพราะระดับที่ต่ำเกินไปของเขา
“เอาล่ะ ให้เวลาข้า 1 วัน แล้วข้าจะให้คำตอบท่าน”
สแครกโล่งใจที่มันไม่ใช่การปฏิเสธโดยตรง เขานั่งลงและพยายามควบคุมอารมณ์ของเขา
เนื่องจากเรื่องการฑูตทั้งหมดสิ้นสุดแล้ว มันจึงถึงเวลาที่แดนีลจะเชิญให้พวกเขาออกไป และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในราชอาณาจักรแล้ว
“เหล่าฑูตทั้งหลาย ข้าขอบคุณพวกท่านสำหรับการให้เกียรติแลนธานอร์และของขวัญจากกองกำลังของพวกท่าน แล้วพวกท่านก็จะได้รับคำตอบในตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้”
รู้ว่าพวกเขาถูกเชิญให้ออกไป ฑูตที่เหลือทั้งสามยืนขึ้นและโค้งคำนับด้วยความเคารพที่เกินกว่าเมื่อครั้งเริ่มการประชุมราชสำนัก หลังจากที่พวกเขาเดินออกไปแล้ว ประตูห้องบัลลังก์ก็ปิดลง
ในการพบปะเหล่าฑูตครั้งนี้ นอกเหนือจากจะเข้าใจทัศนคติทั่วไปของแต่ละพันธมิตรของราชอาณาจักรแล้ว แดนีลยังรู้สึกว่า เขาเติบโตขึ้นเล็กน้อยจากหลังได้รับแรงกดดันจากท่าทีของเอลดินอร์ ตอนนี้ เขารู้แล้วว่า ในการเป็นราชาที่แข็งแกร่ง เขาไม่เพียงแค่จะต้องมีพลังเท่านั้น แต่เขาจำเป็นจะต้องมีสมองด้วยเช่นกัน
สำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทั้งสาม เขาจะจัดการมันในวันพรุ่งนี้ สำหรับตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนที่เชื่อมั่นในตัวเขา
มันถึงเวลาแล้วที่จะประกาศคำตัดสินของเขา เกี่ยวกับชะตากรรมของเหล่าคนชั้นสูงของราชอาณาจักรแลนธานอร์
แฟนเพจ : WDS แปลไทย
