WDS Chapter 112 หมัดแห่งความยุติธรรม อีกครั้ง
ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะทันได้ตอบผู้บัญชาการ เสียงอึกทึกก็ดังมาจากในพระราชวัง
พระราชวังถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่ระหว่างประตูหลักของตัวพระราชวังและประตูที่กำแพง ตอนนี้ คนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินออกมา
ดวงตาของทหารองครักษ์นายนั้นเปร่งประกายขึ้นเมื่อได้เห็นคนที่ปรากฎตัว ซึ่งเขาก็คือราชาองค์ใหม่ของราชอาณาจักรแห่งนี้
ทหารยามจึงรีบตะโกนอีกครั้งในทันทีว่า “ฝ่าบาท โปรดช่วยผู้ต่ำต้อยจากความอยุติธรรมนี้ด้วย ข้าเพียงแค่ทำตามหน้าที่ของข้าเท่านั้น”
เหล่าทหารองครักษ์ที่เหลือและผู้บัญชาการ หันกลับไปมองราชาที่เพิ่งออกมาจากพระราชวังอย่างตกตะลึง ด้านหลังเขา มีทหารองครักษ์ไม่กี่คนและจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่คนใหม่ติดตามมาด้วย
ตามธรรมเนียม พวกเขาทุกคนจะต้องคุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่งและลดหัวลง ในตอนนี้ มีเพียงองครักษ์ที่ตะโกนออกไปเท่านั้น ที่ยิ้มกว้างออกมาบนใบหน้า และรอคอยที่จะเห็นคนอื่นๆถูกราชาลงโทษ
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ต้องอ้าปากค้างอีกครั้ง
ขณะที่ชายที่ทุกคนเรียกว่า อาจารย์ กำลังจะโค้งคำนับลงเมื่อเขาเห็นราชา เขาก็ได้ถูกราชาจับไหล่เอาไว้และพยุงขึ้น
‘นั่นอะไร? ชายนี้ถูกผู้บัญชาการเรียกว่าอาจารย์ และตอนนี้ แม้แต่ราชาก็ดูเหมือนจะใกล้ชิดกับเขา? เป็นไปได้หรือไม่ว่า เขาจะเป็นอาจารย์ของราชาด้วยเช่นกัน?’
ขณะที่องครักษ์นายนั้นคิดถึงการลงโทษสำหรับการดูถูกอาจารย์ของราชา มันก็ทำให้เขาหวาดกลัวจนเกือบจะฉี่ราด
ในขณะนั้น แดนีลยิ้มกว้างบนใบหน้า เขาพยุงอาจารย์เก่าของเขาขึ้นและเกือบกอดเขา ก่อนที่จะควบคุมตัวเองเมื่อตระหนักว่า เขาอยู่ในที่สาธารณะ
ในฐานะราชา เขาต้องรักษามารยาทเล็กน้อย และไม่แสดงความเป็นมิตรออกมาให้ทุกคนเห็นมากเกินไป ดังนั้น เขาจึงยกมือขึ้นจากไหล่ของอาจารย์เขาและกล่าวว่า “อาจารย์เฟลิกซ์ ถึงเวลาแล้ว ข้าขอเชิญให้ท่านเข้าไปในพระราชวังก่อน”
ในความเป็นจริง นี่คือชายคนเดียวกับที่พาเขาเข้าสำนักฝึกอบรบ หมัดแห่งความยุติธรรม ตั้งแต่ตอนนี้เขายังคงเป็นเพียงคนอ่อนแอบนถนนแห่งแลนธานอร์
ในฐานะสหายของพ่อเขา ชายคนนี้มักจะให้เกียรติมาที่บ้านของพวกเขา แม้แดนีลจะไม่เคยฝึกฝนกับเขาเป็นการส่วนตัว แต่แดนีลก็ยังคงคิดว่า เขาเป็นอาจารย์คนแรกที่ตัวเขายอมรับในชีวิต
เหตุผลหลักๆก็คือ ลักษณะนิสัยของเขา จากเรื่องราวทั้งหมดของเฟลิกซ์ที่แดนีลได้ฟังจากพ่อของเขาและเอเลนาฟ เขารู้ว่าชายคนนี้ ยึดมั่นกับหลักการของตัวเอง
ในความเป็นจริง แดนีลได้พิจารณาการขอความช่วยเหลือจากเฟลิกซ์ในกรณีที่เขาไม่ได้วางแผนที่จะเข้ามาควบคุมบัลลังก์ด้วยวิธีทางอ้อม แต่เนื่องจากเขามีแผนที่ดีกว่าแล้ว แดนีลจึงดำเนินแผนการของเขาต่อไป โดยไม่ให้มันรั่วไหลแม้แต่กับพ่อแม่ของเขา
แน่นอนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เฟลิกซ์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก พอกับความรู้สึกของโรเบิร์ตและมาเรียเมื่อครั้งที่พวกเขาได้รู้ในครั้งแรก
ไม่กี่วันก่อน ข้าตื่นตัวใกล้ๆกับประตูพระราชวัง เตรียมพร้อมที่จะโจมตีและป้องกันประชาชนเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หลังจากนั้น เด็กน้อยที่เขาเคยพาเข้าสำนักฝึกอบรมเมื่อหลายปีก่อนก็ได้ปรากฎขึ้นบนแผงหน้าจอและกลายเป็นราชาในฉับพลัน
ในความเป็นจริง เขาไม่ได้เชื่ออย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งเขาเห็นแดนีลปรากฎตัวขึ้นบนกรงเล็บมังกร เพื่อเจรจากับตัวแทนของกองกำลังทั้งสาม ในฐานะนักสู้ระดับสูง เขามีสายตาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันทำให้เขาสามารถจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า นั่นเป็นเด็กร่างผอมจากหลายปีก่อนที่ชนะการแข่งขันเด็กฝึกหัด และเอาชนะคนที่มีศักยภาพสูงกว่าตนเองได้
ตอนนี้ เห็นเด็กคนนั้นเติบโตขึ้น เขารู้สึกราวกับเป็นพ่อที่เห็นลูกชายกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
“ฝ่าบา….”
แดนีลโบกมือเพื่อหยุดคำกล่าวของเฟลิกซ์
“ตามข้ามา”
หลังจากยิ้มให้วิวด้าและมาเธอร์เฟร์ด้าที่อยู่ในกลุ่มคนแล้ว แดนีลก็นำพวกเขาเข้าไปในพระราชวัง
สำหรับทหารยามที่เกือบจะฉี่ราด แดนีลมองไปที่แอรันและส่ายหัว ส่งสัญญาณให้ปล่อยเขาไป เพราะทหารยามคนนี้เพียงแค่ทำหน้าที่ของเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้แต่แดนีลก็ยังคงตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่า อาจารย์ของเขามีอิทธิพลมากเพียงใด
พระราชวังแห่งแลนธานอร์มีห้องประชุมขนาดใหญ่ 8 แห่ง แต่ละแห่งสามารถรองรับคน 50 คนได้อย่างสบายๆ ภายในมีเก้าอี้หรูหราเพื่อให้แขกนั่งขณะรอพบราชา แล้วมันยังมีการให้บริการไวน์และอาหารราคาแพงอีกด้วย
แม้แดนีลจะไม่รู้จักคนในกลุ่มนี้มากนัก เพราะเขาใช้เวลาน้อยมากในสำนักฝึกอบรม แต่เขาก็ยังคงเคยเห็นพวกเขาหลายคนในระหว่างการฝึกฝนนรก
“ฝ่าบา…”
แดนีลหยุดคำกล่าวของเขาอีกครั้ง ทำให้เฟลิกซ์แสดงออกอย่างแปลกประหลาดบนใบหน้าของเขา
“ทำเหมือนกับอยู่บ้านของตัวเอง ข้าจำเป็นจะต้องไปคุยกับท่านอาจารย์ แต่พวกเราจะรีบกลับมา”
ด้วยการแสดงออกที่แปลกประหลาด ทุกคนมองไปที่เฟลิกซ์ เขามีอำนาจเหนือยิ่งกว่าราชา
เขาพยักหน้าไปที่กลุ่ม ทำให้ทุกคนผ่อนคลายและนั่งลง เอื้อมมือไปหยิบไวน์และอาหารที่ถูกจัดมาบริการ
แดนีลหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นภาพเช่นนั้น จากหลายครั้งที่เห็นเฟลิกซ์และโรเบิร์ตนอนลงบนโซฟาเพราะเมามากเกินไป เขารู้ได้ในทันทีว่าพวกเขาชื่นชอบไวน์ และมันก็ดูเหมือนว่า สมาชิกสำนักฝึกอบรม ก็มีความสนใจเช่นเดียวกันนั้น
เดินออกมาและปิดประตูด้านหลัง แดนีลเริ่มก้าวเข้าไปในห้องประชุมขนาดเล็กอีกแห่งที่ดูแตกต่างออกไป
ห้องประชุมแห่งนี้สามารถจะรองรับคนได้เพียง 10 คนเท่านั้น แม้โดยรวมแล้ว มันก็ดูคล้ายกับห้องประชุมอื่นๆ แต่เบาะของเก้าอี้ที่นี่ประดับด้วยทองคำ และมันก็โซฟาผ้าพลัฌที่ถูกประณีตยิ่งกว่า
ประตูด้านหลังเขาปิดลง ในที่สุด แดนีลก็สามารถจะกล่าวโดยไม่ให้ใครรอบๆได้ยินได้แล้ว ก่อนหน้านี้ เคลเลอร์ยืนยันว่า ราชาควรจะมีหน่วยองครักษ์ชั้นสูงติดตามอยู่เสมอเมื่ออยู่ด้านนอก และเขาก็ทำได้เพียงยอมรับมัน ซึ่งส่งผลให้มีองครักษ์ 25 นาย ตามติดเขาอยู่ตลอดเวลา
“ท่านอาจารย์ ตำแหน่งของท่านภายในหัวใจของข้านั้น เปรียบดั่งพ่ออีกคนของข้า ดังนั้น ข้าจึงไม่ต้องการจะให้ท่านเรียกข้าด้วยการให้เกียรติมากเกินไป และท่านสามารถเรียกข้าว่า เด็กน้อย เหมือนที่ท่านเคยเรียกก่อนหน้านี้ได้”
ช่วงเวลาที่พ่อแม่ของเขาย้ายไปอยู่ชนบทเพื่อความปลอดภัย เฟลิกซ์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังคงไปเยี่ยมพวกเขาด้วยความช่วยเหลือจากจอมเวทย์มิติในสำนักฝึกอบรม แน่นอนว่า แดนีลไม่ได้พยายามซ่อนที่อยู่พ่อแม่ของเขาจากสหายสนิทของพ่อเขา และเป็นเช่นเดียวกับพ่อของเขา เฟลิกซ์เชื่อมั่นในตัวแดนีล และเขาไม่ถามเหตุผลที่แดนีลย้ายครอบครัวของเขาออกไป
เขาไม่ใช่คนชอบวางท่า ดังนั้น เขาจึงบอกพ่อแม่ของเขาและสหายสนิทว่า ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องเปลี่ยนคำเรียกเขา และอาจารย์ตรงหน้าของเขาเองก็เช่นกัน
เห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของศิษย์เก่า แฟลิกซ์เข้าใจ หลังจากที่แดนีลกล่าวถึงตำแหน่งของเขาในหัวใจ เขาก็รู้สึกบางอย่างที่พิเศษ
เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เขายิ้มและหัวเราะออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “ฮ่าๆๆ เอาล่ะ แดนีล แม้ข้าจะไม่สามารถเรียกเจ้าเด็กน้อยได้ แต่มันก็ยังคงสามารถเรียกเจ้าด้วยชื่อได้ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่า สำนักฝึกอบรมยืนอยู่ข้างประชาชน และจำช่วยเหลือทุกคนที่ไม่สามารถจะช่วยตัวเองได้ ตอนนี้ เจ้าขึ้นครองบัลลังก์แล้ว พวกเรามีรายการอาชญากรรมยาวนาน ที่พวกเราไม่มีทางเลือกที่ต้องฝังมันเอาไว้ในความคิดในสมัยที่ราชาองค์ก่อนปกครองแลนธานอร์ นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ต้องการจะเข้าร่วมกองทัพในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าราชาเป็นคนที่พวกเขาสามารถจะเชื่อใจได้ พวกเขามีความสามารถค่อนข้างมาก และเหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่เลือกที่จะเข้าร่วมกองทัพก่อนหน้านี้ ก็เพราะพวกเขาคิดว่า พวกเขาสามารถจะช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่าเมื่ออยู่ในสำนักฝึกอบรม”
เฟลิกซ์หน้าอกพองโตขณะที่เขากล่าวถึงเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งบ่งบอกได้ถึงความภาคภูมิใจที่เขามีในฐานะอาจารย์ของพวกเขา และดวงตาของแดนีลก็เปร่งประกายขึ้น
“ที่พวกเรามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมอบรายชื่อให้กับเจ้า และขอปฏิญาณว่า จะจงรักภักดีต่อบัลลังก์อย่างเป็นทางการ”
เห็นดวงตาที่เปร่งประกายของเขา เฟลิกซ์ก็หยุดกล่าว เขาจำได้ว่า เขาเคยเห็นการแสดงออกเช่นนี้เมื่อครั้งที่เขาถามแดนีลว่า เขาวางแผนอะไรที่ย้ายพ่อแม่ของเขาไปยังชนบท
หลังจากนั้นชั่วครู่ สิ่งที่แดนีลกล่าวออกมา ก็ทำให้เฟลิกซ์เปลี่ยนการแสดงออกของเขา กลายเป็นความไม่อยากจะเชื่อและตกตะลึง
“ท่านจะว่าอย่างไร หากข้าบอกว่า ข้าสามารถเพิ่มศักยภาพของร่างกายให้กับนักสู้ และความเข้าใจให้กับจอมเวทย์ได้?”