WDS Chapter 117 วุ่นวาย
แดนีลจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเหล่าคนชั้นสูงแต่ละคน ที่ถูกพาไปยังด้านหน้าของเวทีและถูกประหาร แต่ละการแสดงออก แต่ละความคิด แต่ละอารมณ์ มันชัดเจนสำหรับเขา
อารมณ์ความรู้สึกต่างๆหมุนวนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันจะหยุดลงเมื่อมีคนตายลง แดนีลมองพวกเขาทุกๆคน เพราะเขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตายของพวกเขาแต่ละคน
แม้คนเหล่านี้แต่ละคนจะเหตุให้เกิดคนล้มตายเป็นจำนวนมาก และหลายคนก็บอกว่า พวกเขาสมควรที่จะตายแล้ว แต่แดนีลก็รู้ดีว่า มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ในความเป็นจริง เป็นทางเลือกที่นำพวกเขามาสู่ตำแหน่งนี้ และทางเลือกก็เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาไม่ใช่หรือ? เขาจึงไม่สามารถจะโทษคนเหล่านี้ทั้งหมดได้อย่างสิ้นเชิง
อย่างช่วยไม่ได้ ความยุติธรรมเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ปีศาจในหัวใจของผู้คนสงบลง
ขณะที่กระบวนการดำเนินต่อไป ประชาชนทั่วไปก็ล้มลงกับพื้นมากขึ้นเรื่อยๆ แดนีลเริ่มสงสัยว่า เขาเป็นปีศาจในสายตาของเหล่าคนชั้นสูงหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เข้ามาและทำลายชีวิตของพวกเขา และในตอนนี้ เขาได้ทำการสังหารพวกเขาราวกับสัตว์ ขณะที่ตัวเองยืนมองอยู่บนอากาศ
ขณะที่ความคิดของเขาล่องลอย ในฉับพลัน เขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วผิวหนังของเขา ราวกับรู้สึกได้ว่า อันตรายกำลังใกล้เข้ามา
แกร๊ก
เสียงแตกหักดังขึ้นที่ทางเดินตรงกลาง ซึ่งคั่นระหว่างเวทีและฝูงชน
มันเกิดขึ้นในฉับพลัน แดนีลจึงไม่มีเวลาที่จะตอบสนอง
ชายคนหนึ่งที่ถือทวนสีเหลืองทอง ปรากฎตัวขึ้นบนเวที
เมื่อแดนีลตระหนักได้ นั่นเป็นเสียงที่สิ่งกีดขวางถูกทะลวงเข้ามา เขาก็กลายเป็นตกใจ สิ่งกีดขวางที่ปกป้องเวที เป็นสิ่งกีดขวางที่ดีที่สุดของพระราชวัง แล้วมันยังสามารถที่จะปิดกั้นมิติและยังสามารถป้องกันพลังเต็มกำลังจากจอมเวทย์หรือนักสู้ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ได้อย่างน้อย 100 คน การจะทะลวงมันเข้ามาเหมือนที่ชายคนนั้นทำ จะต้องใช้ความแข็งแกร่งอย่างน้อยระดับนักรบ
พิจารณาว่า ไม่มีจอมเวทย์หรือนักสู้คนใดในแลนธานอร์ที่อยู่ถึงระดับนั้น นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาตกใจ อย่างไรก็ตาม ดวงตาของแดนีลถึงกับเบิดกว้าง เมื่อเขาเห็นว่าชายคนที่อยู่บนเวทีคือใคร
ชุดที่เคยโพล่งที่เต็มไปด้วยขวดไวน์ ตอนนี้ ไม่มีพวกมันแล้ว ดวงตาที่เคยล่องลอยราวกับเมาอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ กลับส่องประกายอย่างที่แดนีลไม่เคยเห็นมาก่อน
ชายคนนั้นก็คืออาจารย์ของเขา โจนาห์ แคสเซิล
ชายคนนี้ ที่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหนขณะที่แดนีลขึ้นครองบัลลังก์ ตอนนี้ เขายืนอยู่บนเวที ที่ทุกสายตาของเกือบทุกคนในราชอาณาจักรกำลังจับจ้อง
หลังจากมองไปที่แดนีลชั่วครู่แล้ว โจนาห์ก็วิ่งไปทางท้ายแถว ในเวลาสั้นๆนั้น เหล่าผู้บัญชาการและทหารชั้นสูงก็เริ่มร่ายคาถาเพื่อหยุดยั้งเขา
คนที่อยู่ท้ายสุดก็คือ องค์ชายใหญ่ ผู้ซึ่งก่ออาชญากรรมมากที่สุด ชายที่เป็นเป้าหมายของโจนาห์ ยืนอยู่ห่างออกไปจากเขา 3 ตำแหน่ง
จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่คนก่อนที่อยู่ใกล้ๆพยายามเข้าไปหยุด แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ร่ายคาถา โจนาห์ก็โบกมือไปที่เขา
ด้วยการมองเห็นอนุภาคมูลฐานของเขา แดนีลมองเห็นการโจมตีที่เป็นดาบอากาศ ซึ่งเป็นคาถาที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ศัตรูสลบ อย่างไรก็ตาม มันทะลวงสิ่งเครื่องประดับเวทมนต์ของจอมเวทย์ราชสำนักใหญ่คนก่อน และซัดเขากระเด็นออกไป
คล้ายๆกับก่อนหน้านี้ คาถาของอาจารย์เขาใช้ทำการผลักดันอนุภาครอบๆด้วยการควบคุมของหน่อจอมเวทย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังในการโจมตี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาสังเกตเห็นในครั้งนี้แตกต่างออกไป มันทรงพลังขึ้นอย่างมาก ราวกับอาจารย์ของเขา ได้ทะลวงขีดจำกัดบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม แดนีลตระหนักในภายหลังว่า โจนาห์หายใจหืดหอบอย่างไม่สามารถจะควบคุมได้ ราวกับว่า เขากำลังใช้พลังมากเกินขีดจำกัดของตัวเอง
จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่คนก่อนนอนอยู่บนพื้น ไม่ขยับเคลื่อนไหวใดๆ ขณะที่โจนาห์เดินตรงไปยังเป้าหมายของเขา
ขณะที่เขาจับไหล่ของคนชั้นสูงคนนั้นเข้ามาและกำลังจะเทเลพอร์ตออกไป กรงเล็บมังกรอันน่าเกรงขามก็ปรากฎด้านหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไป ก่อนที่การปิดกั้นมิติจะทำงาน การเทเลพอร์ตก็สำเร็จไปแล้ว และโจนาห์ยังมีเวลาหันไปมองแดนีลก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตออกไปอีกด้วย
ไม่มีใครทันจะได้สังเกตเลยว่า ในดวงตาของราชา มีความลังเลขณะที่มองอาจารย์ของเขาออกไป
เนื่องจากโจนาห์หมกมุ่นกับเป้าหมายของตัวเอง เขาจึงไม่ทันสังเกตว่า มีอีกคนที่ลอบขึ้นมาบนเวที หลังจากที่สิ่งกีดขวางปิดกั้นมิติถูกทะลวง
แทนที่จะพุ่งเข้าไปหาเป้าหมายของเขาโดยตรงอย่างโจนาห์ ชายคนนั้นหายตัวไปก่อนจะปรากฎด้านข้างเป้าหมายของเขา ซึ่งก็คือ องค์ชายใหญ่
แต่แตกต่างจากอาจารย์ของราชา พื้นที่โดยรอยชายคนนี้ถูกปิดกั้นมิติด้วยกรงเล็บมังกร ก่อนที่เขาจะออกไปพร้อมกับเป้าหมายของเขา
เขาสาบแช่งขณะที่สงสัยว่า เขาโชคไม่ดี หรือราชามีเหตุผลบางอย่าง ที่ให้ความสำคัญกับการจับกุมเขามากกว่าอีกคน
การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเป็นหนึ่งในความเจ็บปวด ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับความสูญเสียที่เกินกว่านิกายของเขาจะยอมรับไหว
โดยไม่ลังเล ชายคนนั้นกำหมดรอบๆเครื่องประดับเวทมนต์ที่ดูเหมือนนกกระเรียนแก้ว
พลังมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมา ได้เบี่ยงกรงเล็บมังกรออกไป
ตูม!
นี่เป็นครั้งแรกที่แดนีลได้เห็นพลังระดับผู้ชนะ หลังจากที่ชายคนนั้นบี้เครื่องประดับเวทมน์แล้ว จงอยปากที่เปร่งประกายของนกกระเรียนก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าของเขา
มันโจมตีที่กลางกรงเล็บมังกร ทำให้เกิดคลื่นอันรุนแรงพัดไปรอบๆ บังคับให้ทุกคนต้องถอยกลับ
แดนีลกลายเป็นตกตะลึง และเขาต้องรีบร่ายคาถาเพื่อป้องกันไม่ให้มันผลักดันกลับ ผู้คนจำนวนมากรอบๆเวทีล้มลงแล้ว และตอนนี้หลายคนก็กำลังพยายามวิ่งหนี เขาไม่ต้องการที่จะให้ความเสียหายลุกลามไปมากกว่านี้
โชคดีที่พลังเกือบทั้งหมดถูกลดทอนโดยกรงเล็บมังกร มันจึงไม่รุนแรงเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม การเบี่ยงกรงเล็บมังกรเพียงเท่านั้น มันมากพอที่ชายคนนั้นและองค์ชายใหญ่จะหนีไปได้แล้ว
พร้อมกับที่พวกเขาจากไป จงอยปากก็ค่อยจางหายไป ราวกับมันไม่เคยมีมาก่อน
ความเงียบปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ทุกคนพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์
ชาย 2 คน ประสบความสำเร็จในการแทรกซึมเข้ามาในใจกลางเมืองหลวงแห่งแลนธานอร์ และได้ทำการขโมยตัวคนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่มากที่สุด 2 คน ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อการตายของผู้คนนับพัน
ด้วยความตกตะลึง ทุกคนทำได้เพียงจ้องมองขึ้นไปบนอากาศที่แดนีลยืนอยู่เท่านั้น
เช่นเดียวกับพวกเขา แดนีลก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
ขณะที่คนชั้นสูงคนอื่นๆบนเวที มองไปยังตำแหน่งที่ญาติของพวกเขาเพิ่งจะหลบหนีไปด้วยความอิจฉา ราชาแห่งแลนธานอร์ พยายามกำจัดความขุ่นเคืองภายในใจของเขา เพื่อจัดการกับประชาชนที่อยู่ด้านล่าง และช่วยบรรเทาความหวาดกลัวของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่ใครมาช่วยบรรเทาให้เขาเลย