WDS Chapter 36 กลุ่มระดับสูงและชั้นเรียนเริ่มต้น
“เด็กน้อย เจ้ามีความเข้าใจขั้นสูงสุดในหมู่นักเรียนทุกคนของสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงหรือคนทั่วไป ดังนั้น ดวงตามากมายจะจดจ้องมาที่เจ้า ตอนนี้ เจ้าเป็นทรัพย์สินของราชอาณาจักรแล้ว และจะไม่มีกองกำลังภายนอกใดที่สามารถจะทำร้ายเจ้าได้ แต่เพื่อการเจียรไน การต่อสู้ระหว่างนักเรียนจะได้รับอนุญาติ ซึ่งมันจะเป็นส่งเสริมทักษะการต่อสู้ให้กับทุกคน และนั่นจะเกิดขึ้นหลังจากปีหนึ่งของการศึกษา หลักสูตรทั้งหมดของสถานศึกษาใช้เวลานาน 6 ปี ปีหนึ่ง จะได้รับการสอนองค์ประกอบพื้นฐาน พร้อมด้วยพลังพิเศษจากธรรมชาติ ในช่วงท้ายของปีหนึ่ง จะมีการทดสอบเพื่อตัดสินว่า เจ้าควรจะมุ่งเน้นไปที่เวทมนต์ด้านใด”
“ในระดับมนุษย์ ทั้งจอมเวทย์และนักสู้มีอายุขัย 100 ปี แล้วใครก็ตามที่ก้าวข้ามไปสู่ระดับนักรบได้ อายุขัยของพวกเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จอมเวทย์จะต้องเลือกความเชี่ยวชาญของพวกเขา และมุ่งเน้นให้มันไปสู่ระดับสูงสุด จำคำเหล่านี้เอาไว้ ‘เหล่ามนุษย์แตกดับ เหล่านักรบเดินขบวนไปข้างหน้า’ ”
“เนื่องจากเจ้ามีพรสวรรค์ระดับตำนานแฝง ข้าจะร้องขอราชาและสถาบัน ให้เจ้าอยู่ในกลุ่มระดับตำนาน ที่ว่างเปล่ามาหลายสิบปี”
“ดูแลตัวเองด้วยเด็กน้อย ทำงานให้หนักและจงคิดอย่างฉลาด ข้าจะมาพบเจ้าอีกครั้งเมื่อรู้แล้วว่าจะสามารถย้ายเจ้าไปยังกลุ่มระดับตำนานได้หรือไม่ จนกว่าจะถึงตอนนั้น เจ้าจะถูกจัดเป็นสมาชิกกลุ่มระดับสูงไปก่อน” เคลเลอร์กล่าวขณะวางมือบนไหลของแดนีล
สัมผัสกับมือของเขา แดนีลรู้สึกได้ถึงผิวหนังที่หยาบกร้านของเคลเลอร์ ราวกับเขายังคงใช้เวลาตลอดทั้งวันในการตัดไม้ แม้ว่าตัวเขาจะเป็นจอมเวทย์ราชสำนักแล้ว แดนีลพยักหน้า เขาสงสัยว่า เหตุใดชายคนนั้นถึงได้ใจดีกับเขา ทั้งๆที่เขาทำให้ลูกชายของราชาไม่พอใจ
“สำหรับเด็กน้อยลาราเวล จงระวังให้ดี เขาเป็นคนฉลาดและมีจุดอ่อนเพียงการชอบแสดงตัว เขาอาจจะพยายามแก้แค้นในเวลาที่เจ้าคาดหวังน้อยที่สุด ในปีหนึ่ง การต่อสู้ทั้งหมดเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ในตอนนี้ เจ้าเพียงแค่มีสมาธิกับการศึกษาเล่าเรียนก็พอ”
“ในฐานะจอมเวทย์ราชสำนัก สายตาของข้าจดจ้องอยู่ทั่วทั้งราชอาณาจักร และนั่นคือวิธีที่ทำให้ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังถูกโจมตี ข้าคงต้องไปแล้ว” เขากล่าวลาก่อนที่จะหายตัวไปในอากาศอย่างฉับพลัน
แดนีลไม่ทันจะได้กล่าวอะไรออกมาเลย เขาได้รับข้อมูลจากเคลเลอร์มามากมาย และตอนนี้ เขายืนอยู่คนเดียวพร้อมกับถุงแลนทอง ในขณะที่เขากำลังพยายามทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ การทดสอบก็ดำเนินต่อไป จนมันเหลือเด็กอยู่เพียงไม่กี่คน
ไม่นานหลังจากนั้น การทดสอบก็สิ้นสุดลง
ชายชุดคลุมสีน้ำเงินส่งเด็กที่ล้มเหลวออกไป และพาเด็กที่ผ่านไปยังอาคารหรูหยาแห่งหนึ่ง
แฟกซัลก็ผ่านด้วยเช่นกัน เพียงแค่เขาผ่านแบบคาบเส้น แต่มันก็ได้ทำให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตในสถานศึกษาร่วมกัน
มันเป็นอาคารโฮสเทลที่มีอย่างน้อย 10 ชั้น เห็นได้ชัดว่ามันมีห้องพักมากกว่า 1,000 ห้อง ภายในจะแบ่งออกเป็นส่วนของผู้ชายและผู้หญิง มันไม่ได้มีคนเข้าพบเต็มมาหลายสิบปีแล้ว ในตอนนี้ เพียงแค่ 30% ก็ถือได้ว่าเป็นปีที่ดีแล้ว
แดนีลเลือกห้องเดี่ยวและจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยเงินที่เขาชนะเดิมพัน หลังจากยืนยันการเข้ากลุ่มระดับสูงและรับไอดีของเขาแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เขาจะกลับบ้าน
คืนนั้นเป็นคนที่ทุกคนในสลัมจดจำ ทั้งโรเบิร์ตและมาเรียต่างมีน้ำตาคลอเมื่อพวกเขาได้ยินว่า ลูกชายของพวกเขาได้เข้าเรียนในสถานศึกษาที่ดีที่สุดของราชอาณาจักร หลังจากนี้ พวกเขายังจะต้องย้ายออกจากสลัม ไปยังพื้นที่อยู่อาศัยที่ถูกเตรียมไว้สำหรับครอบครัวของนักเรียนNMAL
พื้นที่อยู่อาศัยนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามสถาศึกษาและแดนีลได้นำกุญแจวิลล่ามาแล้ว พวกเขาตัดสินใจย้ายบ้านในวันถัดไป และนี่จะเป็นวันสุดท้ายของพวกเขาในสลัม โรเบิร์ตต้องการะจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ เพื่อขอบคุณทุกคนในสลัมที่ช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก แต่พวกเขาก็ยังแบ่งปันในสิ่งที่พวกเขามี
รถเข็นของอาหารและเครื่องดื่มคันแล้วคันเล่าถูกนำเข้ามาในสลัม เพื่อให้ทุกคนดื่มกินอย่างเต็มที่ เหล่าทหารยามเต็มไปด้วยความงุนงงเมื่อเห็นว่าสลัมที่น่าเบื่อกลายเป็นอึกทึก และเมื่อพวกเขาเข้าไปตรวจสอบ พวกเขาก็ถูกเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยง
ตลอดทั้งคืน พวกเขาใช้เวลารำลึกช่วงเวลาแห่งความยากลำบากและความสุข แดนีลอยู่กับพ่อแม่ของเขา และพวกเขาก็โม้เรื่องราวของเขาให้ทุกคนฟังอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกคนต้องเข้าใจว่า นี่เป็นความสุขที่สุดของพวกเขาในรอบหลายปี แม้แต่แดนีลก็ไม่สามารถจะหยุดยิ้มและหัวเราะตลอดทั้งคืนได้
เวลาดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน ยามเช้าก็มาถึง และมันถึงเวลาเก็บของแล้ว พวกเขามีกระเป๋าเดินทางไม่มากนัก ก่อนจะออกไป แดนีลและโรเบิร์ตไม่ลืมที่จะปิดห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติอย่างระมัดระวัง และลบสัญญาณทั้งที่บ้านหลังนี้ได้ซ่อนความลับดังกล่าวเอาไว้ บ้านหลังนี้จะยังคงอยู่ที่นี่ เป็นที่ดินผืนเล็กๆที่เป็นของพวกเขา พวกเขาได้ขอให้สหายที่น่าเชื่อถือคนหนึ่งมาเฝ้าที่นี่ และบอกพวกเขาในทันทีที่มีคนมาสอดแนม แดนีลตัดสินใจว่า เมื่อเขามีพลังมากเพียงพอ เขาจะย้ายห้องโถงฝึกอบรมตามธรรมชาตินี้ในทันที และจะตั้งการเตือนภัยไว้หากมีใครเข้าใกล้มัน ห้องโถงนี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างอนาคตในการครอบครองโลกแห่งนี้ให้กับเขา
วิลล่าที่พวกเขาได้รับไม่ได้ใหญ่มากเกินไปนัก มันครอบคลุมที่ดิน 400 ตารางเมตร และมีการตกแต่งภายในอย่างเรียบง่าย มันมี 2 ชั้น และ 4 ห้องนอน แม้จะเพียงเท่านี้ ทั้งโรเบิร์ตและมาเรียก็มีความสุขอย่างมากแล้ว
หลังจากที่จัดการทุกอย่างแล้ว แดนีลก็มอบเงินส่วนใหญ่ให้กับพ่อของเขาและบอกให้เขาใช้ตามความเหมาะสม แดนีลบอกว่า พวกเขาได้ดูแลเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และมันถึงเวลาที่เขาจะต้องทำอะไรเพื่อพวกเขาบ้างแล้ว หลังจากถกเถียงกันเป็นเวลานาน โรเบิร์ตก็ได้ยอมรับเงินดังกล่าวไว้ เพราะแดนีลขู่ว่า หากไม่รับมันไว้ เขาจะโยนเงินทั้งหมดทิ้งไป
เมื่อเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้ว แดนีลก็เริ่มชีวิตในสถานศึกษาของเขาพร้อมด้วยจิตใจที่สดชื่น สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างหนัก และรับพลังมาให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ในเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับพ่อของเขา แม้ตอนนี้ทุกอย่างจะโอเคแล้ว แต่หลายปีแห่งความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดบนใบหน้าของพ่อเขา มันยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่
ตารางเวลาที่เขาได้รับมา ราวกับคอมพิวเตอร์จากโลกเดิม มันดูเหมือนแผ่นหนังที่เรียบง่าย แต่ข้อมูลด้านในของมันถูกเปลี่ยนแปลงไปตามคำสั่ง
ชั้นเรียนแรกถูกเรียกว่า ‘ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธาตุต่างๆ’ และสถานที่เรียนอยู่ที่สนามหญ้าที่ห้า นอกจากนี้ มันยังมีแผนที่อยู่บนแผ่นหนัง บนแผนที่ เขาสามารถมองเห็นตำแหน่งที่เขาอยู่และตำแหน่งที่เขาต้องไปได้อย่างชัดเจน
เขารำลึกถึงมังกรเพลิงวายุขึ้นมาขณะที่เดินไปยังชั้นเรียน และเขากำลังรอวันที่เขาจะสามารถควบคุมเวทมนต์ที่น่าเกรงขามเช่นนั้นได้