ในฐานะอัจฉริยะจากเมืองเล็ก ๆ ล็อคจำเป็นต้องแสดงความสามารถอันโดดเด่นเพื่อให้ถูกคัดเลือกเข้าสู่สถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์
นอกจากนี้สถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์ยังตั้งอยู่ในเมืองศูนย์กลางของรัฐ
เมืองศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์รวมของสหพันธ์อย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นขุนนางที่มีอำนาจสูงสุด พวกระดับสูงในสหพันธ์ หรือแม้แต่แกนกลางของกองทัพ พวกเขาทั้งหมดต่างก็อาศัยอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์
เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ที่บรรดาอัจฉริยะที่แท้จริงมารวมตัวกันอีกด้วย
นักเรียนทุกคนในโรงเรียนมัธยมปลายที่นั่นมีพรสวรรค์เหนือยิ่งกว่าคนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะในเมืองที่ล็อคอยู่เสียอีก
เนื่องจากมานาที่หนาแน่นของเมือง มันจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการฝึกของจ้าวแห่งสัตว์อสูร
ดังนั้นตระกูลและอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนจึงต้องคิดหาทางเพื่อให้ได้ตำแหน่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะทำให้พวกเขาอาศัยอยู่ได้นาน
ยิ่งไปกว่านั้น กองกำลังรักษาความปลอดภัยในเมืองศักดิ์สิทธิ์ยังทรงพลังมากจนน่ากลัว
มันเป็นถ้ำเสือหรือไม่ก็ถ้ำมังกรสำหรับพวกปีศาจอย่างแท้จริง
นั่นเป็นเพราะกว่า 80% ของกองกำลังติดอาวุธของสหพันธ์ทั้งหมดจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
ที่แห่งนั้นสามารถพบเห็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับเพชรได้ทุกที่
มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนปรารถนาจะอาศัยอยู่อย่างแท้จริง
สหพันธ์ทั้งหมดนั้นประกอบด้วยหนึ่งรัฐ สี่เขต และแปดเมือง
รัฐคือรัฐสวรรค์
โดยแบ่งเป็น 4 เขตได้แก่:
“เขตซาตาน”
“เขตทูตสวรรค์”
“เขตพระสันตะปาปา”
“เขตแบทเทิลบีสต์”
ส่วน 8 เมืองแบ่งออกเป็น:
“เมืองทอง”
“เมืองไม้”
“เมืองน้ำ”
“เมืองไฟ”
“เมืองดิน”
“เมืองลม”
“เมืองอสูร”
“เมืองศักดิ์สิทธิ์”
ทุกเมืองได้รับการตั้งชื่อตามลักษณะท้องถิ่นของพวกมัน
ความแตกต่างในภูมิศาสตร์ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในด้านคุณสมบัติขององค์ประกอบเวทย์มนตร์ในท้องถิ่น
ดังนั้นพวกมันจึงได้รับการตั้งชื่อตามองค์ประกอบหลักของแถบนั้น
รัฐสวรรค์ประกอบด้วย 4 เขต และ 4 เขตก็จะประกอบด้วย 8 เมือง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองหลักของรัฐสวรรค์จะทำหน้าที่เป็นแกนกลางของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
ในทางกลับกัน เขตทั้งสี่นั้นจะมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับสองรองจากรัฐสวรรค์
แต่ละเขตมีกองกำลังติดอาวุธที่ทรงพลัง และที่มาของชื่อนั้นจะตั้งตามมหาอำนาจสี่คนแรกของมนุษยชาติ
แต่ละคนล้วนเป็นฮีโร่ของมนุษยชาติทั้งสิ้น
หากไม่มีพวกเขา มนุษยชาติจะไม่มีวันเข้าสู่ยุคทอง
พวกเขาได้นำมนุษยชาติไปสู่ชัยชนะหลังจากความสิ้นหวัง
ล็อคนั้นอาศัยอยู่ในเมืองไฟ[1]
ตระกูลของเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว
‘เหลือเวลาอีกสามวันก่อนการประเมินของมหาวิทยาลัยจะเริ่ม’
‘ภายในสามวันนี้ข้าต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง’
“แม้ว่าข้าจะสามารถชิงอันดับหนึ่งมาได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้า แต่ข้าต้องไม่ประมาท มิฉะนั้นมันคงดูไม่ดีนักหากจู่ๆก็มีอัจฉริยะปรากฏตัวออกมา”
ล็อคพูดสิ่งที่คิดออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ล็อคไม่ต้องการแสดงความสามารถของเขามากเกินไปในการประเมินระดับเมือง เขาต้องการเพียงระดับต่ำสุดเพื่อให้ได้รับตำแหน่งในสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์
นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถเปิดเผยแบทเทิลบีสต์ระดับศักดิ์สิทธิ์อีก 2 ตัวของเขาต่อสาธารณะได้เช่นกัน
มิเช่นนั้นความสามารถของเขามันจะเด่นมากเกินไป
ถ้าเขาขโมยจุดเด่นจากทุกคนในระหว่างการประเมิน เกรงว่าเขาคงจะต้องตกเป็นเป้าหมายของผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองไฟอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ล็อคต้องการ
ในทางกลับกัน หากเขาแสดงความสามารถของเขาอย่างเต็มที่ในสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์มันจะไม่มีคนกล้าแม้แต่จะสบตา
‘ในโลกนี้ไม่ขาดแคลนอัจฉริยะ’
‘ในกลุ่มคนจำนวนมากนั้นมันก็มีคนอยู่หลายประเภท’
ความคิดของล็อคกลับสู่ความจริง
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าท้องของเขาเริ่มร้อง
ล็อคจึงหันไปมองเวลาบนโทรศัพท์ของเขา
[ 11:23 น. ]
ล็อคเดินออกจากห้องและตรงไปยังห้องอาหาร
จากนั้นเขาก็พบว่าโต๊ะตรงหน้าเขานั้นเต็มไปด้วยอาหารเรียบร้อยแล้ว
ล็อครีบเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที
จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเองอย่างเร่งรีบ
เมื่อพ่อแม่ของเขามาถึงก็พบเข้ากับลูกชายของตนที่กำลังกวาดอาหารบนโต๊ะอย่างตะกละตะกลาม
เมื่อเห็นดังนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น
อาหารบนโต๊ะได้ถูกล็อคกินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ล็อคกลับเลียริมฝีปากของเขาราวกับว่าอาหารที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ
เมื่อได้เห็นความอยากอาหารของล็อค พ่อแม่ของเขาก็อดตัวสั่นไม่ได้
ความอยากอาหารของเขาเยอะเกินไป
ท้ายที่สุดแล้ว อาหารที่อยู่บนโต๊ะมันก็ควรจะเพียงพอสำหรับเลี้ยงครอบครัวสามคนเป็นเวลาสองถึงสามวันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามอาหารจำนวนที่ว่านั้นก็ถูกล็อคกวาดเข้าปากไปในเวลาไม่ถึงสิบนาที
มันยากสำหรับพ่อแม่ของล็อคที่เป็นคนธรรมดาจะสามารถเข้าใจได้
เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกของพ่อแม่ ล็อคจึงก้มมองดูจำนวนจานที่อยู่บนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว เมื่อตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวเป็นท่าทางที่น่าอึดอัดใจ
เขาพูดกับพ่อแม่ของเขา
“อะแฮ่ม เรื่องนี้…”
“ตั้งแต่ที่ข้ากลายเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูร…”
“ข้าก็พบว่าความอยากอาหารของข้ามันมีมากผิดปกติ”
“ตั้งแต่นั้นมามันก็ไม่มีสักวันเลยที่ข้ากินอิ่ม”
เมื่อพ่อแม่ของเขาได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็เห็นความเขินอายบนใบหน้าของเขา
พ่อของเขารีบพูดขึ้น
“จริงด้วย นั่นสินะ”
“ตอนนี้ลูกชายของข้ากลายเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรไปแล้ว”
“อาหารธรรมดาแบบนี้คงไม่เพียงพอสำหรับความอยากอาหารในแต่ละวันของเจ้า”
“ข้าควรจะซื้อเนื้อของปีศาจให้เจ้ากิน มีเพียงพลังงานที่มีอยู่ในเนื้อของปีศาจเท่านั้นที่สามารถช่วยเรื่องความอยากอาหารของจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้”
แม่ของล็อคตบหน้าผากของเธอเอง
เธออุทานว่า “พวกเรานี่โง่จริงๆ เราเกือบลืมไปว่าร่างกายของจ้าวแห่งสัตว์อสูรนั้นแตกต่างจากของเรา”
“อาหารที่เรากินธรรมดาไม่สามารถทำให้จ้าวแห่งสัตว์อสูรอิ่มได้เลย”
จากนั้นเธอก็พูดกับลูกชายว่า
“รอหน่อยนะลูกเดี๋ยวแม่จะออกไปซื้อเนื้อปีศาจมาให้”
พูดจบเธอก็รีบออกจากบ้านไปทันที
ขณะเดียวกัน ล็อคก็ยังตกอยู่ในความงุนงง
ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าทำไมจ้าวแห่งสัตว์อสูรถึงต้องกินเนื้อของปีศาจ
‘เป็นเพราะเช่นนี้เอง’
‘ไม่แปลกใจเลยที่ข้าไม่ได้กินอิ่มมาสักพักแล้ว’
ชายมีหนวดข้างล็อคพูดขึ้น “ตั้งแต่เจ้ากลายเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูร แม่ของเจ้าก็เต็มไปด้วยความสุข ทุกคืนนางจะบอกกับข้าอย่างน้อยแปดร้อยครั้งว่าลูกชายของนางเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูร”
“นอกจากนี้ ขณะที่แม่ของเจ้าเจอคนที่นางรู้จัก นางก็จะบอกกับพวกเขาว่าลูกชายของนางเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูร”
หลังจากพูดจบ สีหน้าของเขาก็ดูหมดหนทาง
ในทางกลับกัน สีหน้าของล็อคก็มืดลง
อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่วิต่อมา….
เขาก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของแม่ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วจ้าวแห่งสัตว์อสูรก็เป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ไม่ว่าจะไปทางไหนพวกเขาก็จะเป็นที่ต้องการเสมอ
และการที่ลูกชายของเธอที่ได้กลายเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างมากสำหรับแม่ของล็อค
มันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การแสดงให้คนอื่นเห็น
ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถกลายเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้
พ่อของเขาก็ภูมิใจเช่นกัน เพราะลูกชายของเขาดูมีอนาคตมากกว่าหลายคนที่เขารู้จัก
[1] ผู้เขียนอาจลืมเรื่องการตั้งชื่อเมืองตามโลกปัจจุบันไปแล้ว
[2] หลังจากนี้จะมีเรื่องการปรับเปลี่ยนบางอย่างจากผู้เขียนอยู่แต่จะน้อยลงเรื่อยๆสำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัย