แอ๊ด
ประตูบ้านของล็อคถูกเปิด
เป็นแม่ของเขาที่กลับมาพร้อมอาหารถุงใหญ่
เมื่อแม่ของล็อคสังเกตเห็นว่าล็อคยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอจึงเผยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันทันที
เธอรีบเดินไปที่โต๊ะอาหารและหยิบของที่เธอซื้อออกมาอย่างรวดเร็ว
ขณะนำอาหารออกมา เธอก็พูดกับล็อค “วันนี้แม่รีบไปรีบกลับ ดังนั้นแม่จึงซื้ออาหารปรุงสุกจากตลาดมาสองสามชิ้น”
“แม่กลัวว่าลูกจะหิว แม่เลยซื้อมาค่อนข้างเยอะ มันน่าจะเพียงพอสำหรับลูก”
ครู่ต่อมา…
ก็ได้มีเนื้อแดงเพลิงจานใหญ่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เช่นเดียวกับชามซุป
แม่ของล็อคเริ่มแนะนำอาหารบนโต๊ะให้เขาฟัง
“เนื้อชิ้นใหญ่จานนี้คือเนื้อจิ้งจอกเพลิงขั้น 1 มันเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับจ้าวแห่งสัตว์อสูรมือใหม่”
“ส่วยซุปชามนี้ทำมาจากปลาน้ำแข็ง มันรสชาติดีมาก”
“รีบกินเลยลูก หากไม่พอก็ให้บอกแม่ แม่จะได้ออกไปซื้อมาเพิ่มให้”
ขณะที่เคี้ยวเนื้อจิ้งจอกเพลิง ล็อคก็พูดกับแม่ของเขาว่า “ไม่เป็นไรครับแม่”
“แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับข้า ข้าต้องขอบอกเลยว่าเนื้อจิ้งจอกเพลิงนี่มันอร่อยจริงๆ”
“ขอบคุณครับแม่”
เมื่อเห็นว่าล็อคมีความสุขเพียงใด ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“กินเยอะๆเลยลูก จากนี้ไปแม่จะปรุงเนื้อปีศาจให้ลูกกินทุกวันเลย”
ล็อคพยักหน้าอย่างเร่งรีบขณะเคี้ยวเนื้อของจิ้งจอกเพลิง
ไม่นานนัก จานที่เคยใส่เนื้อจิ้งจอกเพลิงและชามที่ใส่ซุปก็ถูกเลียจนสะอาด
ไม่มีเศษเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ล็อคก็ยังต้องการมากกว่านี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดมันออกมาและรีบกลับไปยังห้องนอนของเขาทันทีที่เขาทานอาหารเสร็จ
เขานั่งลงบนเตียงและเริ่มฝึกฝน
ก่อนที่จะรู้ตัวเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาแล้วสามวัน
สำหรับล็อคแล้วเวลาสามวันนี้เขารู้สึกราวกับมันผ่านมาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้น
…
ในที่สุดก็ถึงวันสอบคัดเลือก
วันนี้ล็อคมาถึงโรงเรียนเร็วมาก เพราะมันเป็นวันที่สำคัญมากสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม แรงจูงใจที่เขามีนั้นแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
คนอื่นๆ ต่างหวังว่าพวกเขาจะสามารภลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของพวกเขา
แต่ล็อคนั้นกลับกัน เขาทำเพียงเพื่อต้องการคะแนนฟังก์ชั่น 100 แต้มเท่านั้น
ล็อคยืนอยู่บนสนามก่อนจะมองไปข้างหน้าสุดสายตา
สิ่งที่เขาเห็นคือทะเลผู้คน
ทั้งหมดเป็นนักเรียนรุ่นเยาว์ที่เข้าร่วมการประเมินครั้งนี้
“ข้าควรทำอย่างไรดี? ข้าควรทำอย่างไรดี? ข้าตื่นเต้นมาก!”
“ข้าก็เช่นกัน หากข้าไม่สามารถเข้าเรียนที่สถาบันได้ ข้าต้องตายแน่”
“เจ้าวางแผนจะเข้าที่ใด?”
“ข้าไม่ได้วางแผนจะเข้าสามสถาบันชั้นนำของสหพันธ์ ตราบใดที่ข้าสามารถเข้าสถาบันธรรมดาได้ ข้าก็พอใจแล้ว”
“อาฮะ ข้าก็จะพอใจเช่นกัน ตราบใดที่มีสถานยินดีรับสมัครข้า”
เหล่านักเรียนรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองถึงสามคนและพูดคุยกันอย่างกังวลใจ
วันประเมินเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ตราบใดที่พวกเขาทำได้ดีในการประเมินและข้ามอุปสรรคเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัยไปได้ อนาคตของพวกเขาก็จะสดใส
อีกด้านหนึ่ง…
หากพวกเขาล้มเหลวในการประเมิน พวกเขาจะกลายเป็นแค่คนธรรมดา เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมดา ทำงานทางโลก และใช้ชีวิตแบบธรรมดา
ความแตกต่างระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จกับผู้ที่ล้มเหลวนั้นเป็นเหมือนหุบเขาลึก
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่นักเรียนจะกังวลเช่นนี้
หากล็อคไม่มีระบบจ้าวแห่งสัตว์อสูร เขาก็จะเป็นหนึ่งในนักเรียนที่กำลังกัดเล็บเหล่านี้
มันมีเพิงไม้ประมาณสิบหลังตั้งอยู่รอบสนาม
คนงานทุกประเภทต่างพากันยุ่งอยู่กับงานของตนเอง
เพิงไม้แต่ละหลังเป็นสถานที่ลงทะเบียนของสถานศึกษา
หากใครต้องการลงทะเบียนในสถาบันการศึกษา พวกเขาจะต้องเข้าแถวที่ตรงจุดลงทะเบียนของสถาบันที่เกี่ยวข้อง
“ล็อค”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
ล็อคหันศีรษะและเห็นว่าเป็นบิล เพื่อนร่วมชั้นของเขา
“งั้นเจ้าก็มาเข้ารวมการประเมินด้วย เฮอะ”
“ข้าเดาว่าเจ้าคงเข้ารับการประเมินของสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์”
บิลมองไปยังล็อคด้วยท่าทางที่ซับซ้อน มันมีความอิจฉาอยู่ในดวงตาของเขา
ท้ายที่สุดแล้วมันคงไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่งล่อใจของสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์ได้
ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ชุมนุมที่แท้จริงสำหรับผู้มีความสามารถ
ถ้าได้มีโอกาสเข้าไป มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยังคงเป็นแค่คนธรรมดา
ล็อคยิ้มและทักทายบิลกลับ
จากนั้นเขาจึงถามว่า “เจ้าตั้งใจจะสมัครเข้าสถาบันใด”
บิลตอบด้วยสีหน้าท้อแท้ “ข้าวางแผนจะสมัครเข้าสถานบันรอยัล แต่ความต้องการของพวกเขาค่อนข้างสูง ข้าจึงไม่แน่ใจว่าจะผ่านหรือไม่”
ล็อคให้กำลังใจบิลไปหนึ่งรอบ
จากนั้นเขาก็จากไป
ล็อคเดินไปเข้าคิวของสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์
อย่างไรก็ตามเขากลับถูกพนักงานคนหนึ่งนำตัวไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากล็อคครอบครองแบทเทิลบีสต์ระดับศักดิ์สิทธิ์ สถาบันจึงได้ตรวจสอบเขาล่วงหน้าไปแล้ว
ดังนั้นการเข้าร่วมการประเมินจึงเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น
ล็อคมองไปยังคิว เมื่อเทียบกับคิวของวิทยาลัยอื่นๆ จำนวนคนที่อยู่ในแถวของสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์นั้นน้อยมาก
ทุกคนในแถวต่างเป็นอัจฉริยะในโรงเรียนของเขา
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะหรือไม่ยังไงพวกเขาก็จำเป็นต้องทำการประเมินเป็นขั้นตอนเพื่อเข้าศึกษาในสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์
“เริ่มการประเมินได้”
เสียงที่ฟังดูสง่างามดังขึ้น
ด้วยเหตุนี้เองผู้คนจึงเริ่มเดินเข้าหาโต๊ะทีละคน
บนโต๊ะสี่เหลี่ยมนั้นมีลูกบอลคริสตัลตั้งอยู่
สิ่งนี้คือที่ตรวจสอบแกนมานา
อย่างที่รู้กันดีว่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรทุกคนจะมีแกนมานาอยู่ภายในร่างกายของพวกเขา
ดังนั้นขนาดของแกนมานาจึงมักเป็นตัวกำหนดอนาคตของจ้าวแห่งสัตว์อสูรคนนั้น
ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงแกนมานาขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถรองรับมานาจำนวนมากได้
ขนาดของแกนมานาสามารถแบ่งออกได้เป็นห้าระดับ
จ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับ 1 จะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขาที่จะก้าวไปสู่ระดับเงิน
ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยสำหรับจ้าวแห่งสัตว์อสูรทุกแห่งจะปฏิเสธพวกเขา
ระดับ 2 คือระดับธรรมดา
ตราบใดที่แบทเทิลบีสต์ของพวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง พวกเขาก็จะยังมีโอกาสเข้าวิทยาลัยจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับธรรมดาได้
เฉพาะผู้ที่อยู่เหนือระดับ 2 ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะถือว่ามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น
นักเรียนเริ่มเดินไปข้างหน้าทีละคนและวางฝ่ามือบนลูกบอลคริสตัล
ทันทีที่มือสัมผัสกับผิวของลูกบอลคริสตัล ลูกบอลคริสตัลก็จะเปล่งแสงระยิบระยับออกมา
สีทองแดงแสดงถึงความสามารถระดับทั่วไป
สีเงินแสดงถึงความสามารถระดับ 2 เป็นต้น
การประเมินดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
โดยเฉลี่ยแล้ว การประเมินแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่ถึงนาที
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในที่แห่งนี้จะเป็นสีทองแดงหรือไม่ก็สีเงินเสียเป็นส่วนใหญ่
นี่หมายความว่าคนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้
ผู้ที่ได้รับผลลัพธ์ไม่ดีต่างแสดงความสิ้นหวังออกมา
ทันใดนั้น
เกิดได้เกิดความโกลาหลขึ้นในเพิงไม้ที่ห้า
“แสงสีกุหลาบทอง!”
“บัดซบ มันเป็นแสงสีกุหลาบทองจริงๆด้วย! มันช่างจ้าซะเหลือเกิน!”
“นั่นสุดยอดมาก ใครเป็นเจ้าของแสงนี้?”
ผู้คนนับไม่ถ้วนหันไปมองนักเรียนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะ
ผู้ตรวจสอบก็ยิ้มให้นักเรียนที่อยู่ตรงหน้าเขาเช่นกัน
“ไม่เลย ไม่เลวเลย ในที่สุดก็มีพรสวรรค์ระดับ 5 เจ้าผ่านมาตรฐานของเรา”
ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน การประเมินก็ใกล้มาถึงจุดสิ้นสุด