“อุฟ…” ไดอาน่าเกือบจะหัวเราะออกมา เธออธิบาย “ความจริงแล้วข้าไม่ได้สนใจเด็กคนนั้นเลยแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ข้าแค่บลัฟก็เท่านั้น…”
“อ้า? เป็นเช่นนั้น?” ล็อคก็หัวเราะเช่นกัน
แต่ไม่นานใบหน้าของไดอาน่าก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นในทันที “ตระกูลไวท์เริ่มอุกอาจมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เอเดรียนก็ฉวยโอกาสตอนที่ข้าไม่อยู่เพื่อไล่เด็กที่มีความสามารถออกไป!…”
ทริสตันยังเสริมอีกว่า “ก็อย่างที่เจ้าได้ยิน! ตอนนี้พวกมันได้เพ่งเล็งเจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าควรระวังตัวไว้จะดีกว่า…”
“นี่ก็เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วนับตั้งแต่คนที่มีพรสวรรค์ระดับเจ้าปรากฏตัว เพื่ออนาคตของสถาบันเรา ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งที่พวกเขาต้องการและทำลายที่นี่!” ทริสตันกล่าวออกมาอย่างซื่อตรง
เมื่อกลับมาที่ห้องเรียน นักเรียนหลายคนที่เห็นล็อคต่างก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กใหม่คนนี้จะยังสบายดี!
“เขาอาจจะมาจากตระกูลขุนนาง…”
“อย่างพวกลูกนอกสมรส?”
“อืม อย่างน้อยเขาก็ควรเกี่ยวข้องทางสายเลือด…”
อัลเบิร์ตเพิ่งได้รับผลการตัดสินของล็อค เมื่อเห็นว่าล็อคกลับมาอย่างปลอดภัย เขาก็พยักหน้าอย่างอ่อนโยนและกล่าว “ในเมื่อเจ้ามาแล้วก็รีบหาที่นั่ง ต่อไปเราจะมาเรียนกันเรื่องแปรธาตุ…”
หลังจากเรียนมาทั้งวัน ล็อครู้สึกว่าเขาได้รับความรู้มามากมาย มันจึงทำให้เขาอารมณ์ดีมาก
อีกด้านหนึ่งสองพี่น้องตระกูลไวท์กลับรู้สึกหดหู่ตลอดทั้งวัน พวกเขานั้นไม่ได้โศกเศร้ากับการสูญเสียลูกน้องไป เนื่องจากกระทั่งตอนนี้พวกเขาก็ยังมีอยู่มากมาย
แต่เป็นเพราะพวกเขาระมัดระวังภูมิหลังของล็อค
พูดตามหลักแล้ว ล็อคก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนธรรมดาที่มีความสามารถ อย่างไรก็ตามไดอาน่า ใช่ ไดอาน่ากลับยืนหยัดเพื่อชายคนนั้น
มันต้องมีบางอย่างมากกว่าตาเห็นแน่นอน!
“บางที… ชายคนนี้อาจเป็นสมาชิกของตระกูลใหญ่ก็ได้ ใครจะไปรู้…” เอเดรียนพึมพำพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ
อลิซกอดอกและขมวดคิ้ว “ข้าก็ว่าเขาแปลกตั้งแต่ตอนประเมินแล้ว! แบทเทิลบีสต์ระดับศักดิ์สิทธิ์กุหลาบทอง… ผ่านมากี่ปีแล้วนับตั้งแต่การปรากฏครั้งสุดท้าย? มันไม่มีทางที่สามัญชนจะสามารถฟักออกมาได้ตั้งแต่ครั้งแรก!”
“ใช่ ข้าก็ว่ามันเป็นไปไม่ได้! มันต้องมีบางอย่างที่เราไม่รู้! เราต้องตรวจสอบภูมิหลังของเขา!”
ปฏิกิริยาของเอเดรียนนับว่าปกติ ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องการมีอยู่ของระบบอสูร!
“แต่ข้ายังโกรธ! ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจเกินไป!” อลิซโกรธมาก เธอยังไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าล็อคขโมยแสงที่ควรเป็นของเธออยู่ตลอดเวลา
เอเดรียนหัวเราะ “ฮ่าฮา! ไม่ต้องห่วง เรียนกลางแจ้งจะจัดขึ้นในอีกสองวัน ข้ามีแผนจะไล่เขาออกระหว่างนั้น…”
สองวันต่อมา ภายใต้การนำของครูฝึกกลางแจ้ง นักเรียนระดับเพชรได้มาถึงทุ่งหญ้า
มันเป็นทุ่งกว้างที่ว่างเปล่า มีสายลมอันอ่อนโยนพัดผ่านคอยปลอบประโลมทั้งจิตใจและวิญญาณของพวกเขา
โอลลี่ ครูฝึกกลางแจ้ง มองไปที่นักเรียนระดับเพชรหลายสิบคนที่นั่งอยู่บนสนามและกล่าว “สิ่งที่พวกเจ้าทุกคนได้เรียนรู้ในห้องเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น แต่จงจำไว้ว่าเป้าหมายของจ้าวแห่งสัตว์อสูรคือเก่งในการต่อสู้!”
“และที่แห่งนี้จะเป็นที่ที่พวกเจ้าจะนำทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียนมาใช้!”
“ครั้งนี้ การฝึกกลางแจ้งของเราจะเป็นการฝึกต่อสู้แบบพบกันในกลุ่ม! เมื่อได้ผู้ชนะแบบกลุ่มแล้ว เราก็จะมาสู้แบบคัดออกอีกที! หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมด ผู้ชนะจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!”
นักเรียนยกมือขึ้นถาม “รางวัลที่ผู้ชนะจะได้คืออะไร?”
เมื่อได้ยินคำว่า “รางวัล” เหล่านักเรียนก็เอนตัวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าคาดหวัง
โอลลี่ยิ้มอย่างลึกลับและกล่าว “รางวัลในครั้งนี้คือ… คาถา!”
“ว้าว!”
“ในที่สุดเราก็มีโอกาสได้รับสิ่งนี้!”
“นั่นวิเศษมาก…”
นักเรียนทุกคนมีความคาดหวังประดับอยู่บนใบหน้า
แต่ล็อคกลับเป็นคนเดียวที่ไม่รู้อะไรเลย เขาถามเสียงเบา “คาถาอะไร?”
นักเรียนที่นั่งอยู่ด้านข้างมองล็อคราวกับว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรสุดท้ายเขาก็ยังอธิบาย “มันคือเทคนิคที่สร้างขึ้นโดยอาจารย์ใหญ่ของเราซึ่งโด่งดังมากในสหพันธ์! เจ้าไม่รู้?”
ล็อคส่ายหัว เขาไม่รู้จริงๆ
“พูดง่ายๆ คือมันเป็นสิ่งที่สามารถขยายความจุมานาของคนที่ใช้ได้อย่างถาวร ตราบใดที่ยังคงฝึกมันอยู่ มันก็สามารถเพิ่มความจุมานาได้อย่างมาก! นี่ถือเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่สุดของสถาบันเรา! ข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะปรากฏที่นี่! ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นรางวัลที่น่าอัศจรรย์จริงๆ!”
“โอ้…” ล็อคพยักหน้า
‘หากเจ้าคาถาที่ว่ามันสามารถเพิ่มความจุมานาของจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้จริง งั้นมันก็วิเศษมาก!’
ถ้าล็อคได้รับมัน เขาก็จะใช้มันร่วมกับเทคนิคทำสมาธิมานาของเขา
‘เทคนิคหนึ่งเพิ่มความจุ ในขณะที่อีกหนึ่งจะทำให้มานาของข้าฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว! หากข้าฝึกพวกมันทั้งคู่ แบบนี้ไม่ได้แปลว่าข้าจะมีมานาใช้ไม่มีวันหมดเลยงั้นหรือ?’
‘และเมื่อระบบอัปเกรดในอนาคต ข้าก็จะสามารถควบคุมแบทเทิลบีสต์ได้มากเท่าที่ข้าต้องการ!’
‘ดูเหมือนสิ่งที่ข้าคิดจะดูใช้งานได้จริง!’
‘ทรัพยากรของสถาบันชั้นนำนั้นเหนือล้ำกว่าสถาบันอื่นอย่างแท้จริง!’
“แม้ผู้ชนะจะมีได้เพียงคนเดียว! แต่เรายังมีแต้มผลงานให้สำหรับคนที่ไม่ผ่านรอบคัดออกซึ่งสามารถนำมันไปแลกทักษะหรือไข่อสูรได้หากมันมากพอ!” โอลลี่กล่าวเสริม
‘ช่างใจกว้างเสียจริง! ห้องระดับเพชรถึงกับได้รับสิทธิพิเศษมากมายขนาดนี้…’ ล็อคพยักหน้าและคิดว่าเขาเลือกถูกแล้วที่เลือกเนเธอร์ฟิลด์ไทเกอร์เป็นศัตรูของเขา
“แต่…” โอลลี่หยุดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้ที่อ่อนแอที่สุดของแต่ละกลุ่มจะต้องไปดวลกับนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดของห้องทองในวันพรุ่งนี้! หากเจ้าแพ้ เจ้าจะถูกย้ายไปยังระดับทอง และผู้ที่ชนะเจ้าได้ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นระดับเพชรแทนคนที่ถูกลดระดับลงไป!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่านักเรียนก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
นี่นับเป็นกฎอันเก่าแก่ของสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์!
อันเนื่องมาจากทรัพยากรที่มอบให้กับห้องเพชรนั้นอยู่ระดับชั้นนำ ทำให้ย่อมมีผู้ที่พึงพอใจกับที่เป็นอยู่และละทิ้งการฝึกของตนไป
ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ดังนั้นการแข่งขันแบบนี้จึงมักจะจัดขึ้นในสถาบัน ผู้ที่ไม่ผ่านมาตรฐานของชั้นเรียนจะถูกผลักไสให้ตกชั้นลงไป
ตามกฎเหล่านี้ ระดับที่ต่ำที่สุดที่คนหนึ่งจะถูกผลักไสไปได้คือห้องระดับทองแดง
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมห้องทองแดงจึงมีนักเรียนมากที่สุด!
แน่นอนว่าในห้องนั้นไม่ได้มีเพียงนักเรียนที่มีความสามารถน้อยเท่านั้น แต่ยังมีคนที่มีพรสวรรค์อีกด้วย
โชคดีที่คนที่อยู่ห้องระดับล่างยังได้รับโอกาสในการเข้าห้องระดับสูงด้วยเช่นกัน
ผู้ชนะการแข่งขันเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้ท้าทายผู้แพ้ที่อยู่ในห้องระดับที่สูงกว่าพวกเขาได้
หากนักเรียนที่อยู่ห้องสูงกว่าชนะ ทุกอย่างจะเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามหากนักเรียนที่อยู่ห้องต่ำกว่าชนะ…
พวกเขาจะต้องแลกห้องเรียนกัน
ด้วยเหตุนี้เอง นักเรียนของห้องระดับเพชรจึงถูกสายตานับไม่ถ้วนจ้องมองอยู่เสมอ
“เอาล่ะ! เตรียมตัวให้พร้อม เราะจะเริ่มการแข่งขันในอีก 15 นาที! แน่นอนว่าพวกเจ้าต้องไม่เอาชีวิตของเพื่อนร่วมชั้นหรือแบทเทิลบีสต์ของพวกเขาเด็ดขาด! นี่คือกฎที่สำคัญที่สุด!”
เมื่อผู้สอนโอลลี่อธิบายเสร็จ เขาก็สั่งให้ใครบางคนนำกระดานไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ออกมา
สิ่งที่อยู่บนกระดานคือรายชื่อการแบ่งกลุ่ม
ทุกคนรีบวิ่งไปดูชื่อและกลุ่มที่พวกเขาต้องอยู่ในทันที